ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Famefill (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ชาวไทย (คุย | ส่วนร่วม)
→‎วัยเยาว์: เป็น 2nd Marquess
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 39:
ความพ่ายแพ้ใน[[สงครามกรีก–ตุรกี (ค.ศ. 1919–1922)|สงครามกรีก–ตุรกี]] ได้บีบบังคับให้เสด็จลุงของฟิลิป [[พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 แห่งกรีซ]] ต้องสละราชสมบัติในปีค.ศ. 1922 เจ้าชายแอนดรูว์พร้อมครอบครัวถูกจับกุมโดยคำสั่งของรัฐบาลทหารที่ตั้งขึ้นใหม่ ผู้บัญชาการกองทัพพร้อมนายทหารระดับสูงถูกประหารชีวิต ในขณะนั้น หลายคนมองว่าเจ้าชายแอนดรูว์คงไม่รอดชีวิต<ref>{{cite journal|title=News in Brief: Prince Andrew's Departure|journal=The Times|date=5 December 1922|page=12}}</ref> เดือนธันวาคมปีนั้นเอง ศาลปฏิวัติได้พิพากษาเนรเทศเจ้าชายแอนดรูว์ออกจากประเทศกรีซตลอดชีวิต อังกฤษส่งเรือหลวง''คาลิปโซ'' มารับครอบครัวของเจ้าชายแอนดรูว์ไปยังประเทศฝรั่งเศส พวกเขาเลือกที่จะอาศัยอยู่ในบ้านเช่าแถบชานเมืองกรุงปารีส ซึ่งเช่าจากพระญาติในราชสำนักฝรั่งเศส<ref>Alexandra, pp. 35–37; Heald, p. 31; Vickers, pp. 176–178</ref>
 
เจ้าชายฟิลิปได้รับการศึกษาครั้งแรกที่ The Elms โรงเรียนอเมริกันในกรุงปารีส<ref name="basil">{{cite book |last1=Boothroyd |first1=Basil |title=Prince Philip: An Informal Biography |date=1971 |publisher=McCall Publishing Company |location=New York |isbn=0841501165 |edition=First American}}</ref> ทรงมีภาพจำเป็นเด็กฉลาดแต่ถ่อมตัว<ref>Alexandra, p. 42; Heald, p. 34</ref> ต่อมาในปีค.ศ. 1928 ทรงถูกส่งตัวไปอังกฤษและเข้าเรียนที่โรงเรียนแชม ช่วงนี้ทรงอยู่อาศัยกับท่านยายพระอัยกีที่[[พระราชวังเค็นซิงตัน]] ซึ่งก็คือ[[เจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งเฮสส์และไรน์|วิกตอเรีย เมานต์แบ็ทแตน มาร์เชเนสแห่งมิลด์ฟอร์ดเฮเวน]] และอาศัยกับท่านลุงที่ตำหนักลินเดิน ซึ่งก็คือ[[จอร์จ เมานต์แบ็ทแตน มาร์ควิสแห่งมิลด์วิสที่ 2 แห่งมิลด์ฟอร์ดเฮเวน]]<ref>Heald, pp. 35–39</ref> และในช่วงสามปีหลังจากนี้ พี่สาวสี่พระองค์ได้สมรสกับเจ้าชายเยอรมันและย้ายไปพำนักในประเทศเยอรมนี เมื่อพระมารดาถูกวิจนิจฉัยว่าเป็น[[โรคจิตเภท]]และต้องอยู่ในสถานบริบาล<ref>Brandreth, p. 66; Vickers, p. 205</ref> พระบิดาก็ย้ายไปอยู่ในคฤหาสน์ที่[[มงเต-การ์โล]] เมืองทางใต้ของฝรั่งเศสใกล้ชายแดนดิตาลี ฟิลิปแทบไม่ได้ติดต่อกับพระมารดาอีกเลยตลอดช่วงวัยเด็ก
 
ในปีค.ศ. 1933 เจ้าชายฟิลิปในวัย 12 ชันษาถูกส่งตัวไปยังโรงเรียนของวังซาเลิมในประเทศเยอรมนี เนื่องด้วยครอบครัวพี่เขยของพระองค์เป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งนี้ เมื่อ[[ระบอบนาซี]]เรืองอำนาจในเยอรมนี นายควร์ท ฮาน ชาวยิวซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียน รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตจึงได้อพยพไปยัง[[ประเทศสกอตแลนด์]]และก่อตั้งโรงเรียนกอร์ดอนสตันที่นั่น เจ้าชายฟิลิปย้ายตามไปที่นั่นในสองภาคเรียนให้หลัง<ref>Brandreth, p. 72; Heald, p. 42</ref> ต่อมาในปีค.ศ. 1937 เจ้าชายฟิลิปได้ทราบข่าวร้ายว่า [[เจ้าหญิงเซซีลีแห่งกรีซและเดนมาร์ก|เจ้าหญิงเซซีลี]] พี่สาวของพระองค์ พร้อมด้วยสามีและบุตรน้อยสามคน ทั้งหมดเสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินตกในเที่ยวบินโคโลญ–ลอนดอน เจ้าชายฟิลิปในวัย 16 ชันษาเสด็จร่วมรัฐพิธีศพที่เมือง[[ดาร์มชตัท]] ประเทศเยอรมนี<ref>Brandreth, p. 69; Vickers, p. 273</ref> และในปีต่อมา จอร์จ เมานต์แบ็ทแตน ผู้เป็นลุงและผู้ปกครองของเจ้าชายก็เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง