ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ปรับปรุงบางส่วน |
|||
บรรทัด 4:
'''ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง''' ถือเป็น[[ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ]]ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีป[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]] ตั้งอยู่ตรงบริเวณทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของ[[ประเทศเวียดนาม]] โดยเป็นบริเวณที่[[แม่น้ำโขง]]ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก[[ที่ราบสูงทิเบต]]แล้วไหลมาทางทิศใต้ผ่าน 7 ประเทศ ไหลออกสู่[[ทะเลจีนใต้]]ที่บริเวณนี้ โดยบริเวณที่เกิดการสะสมตัวของ[[ตะกอน]]ในลักษณะของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำนั้นพบว่าแม่น้ำโขงมีการแตกออกเป็นสาขาย่อย ๆ หลายสาขา
ปัจจุบันพบว่าดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีความกว้างของดินดอนสามเหลี่ยมใหญ่ที่สุดที่หนึ่งของ[[โลก]]และกินพื้นที่ 39,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นสัดส่วนโดยมากของพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม พื้นที่ของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงส่วนที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำนั้นขึ้นกับแต่ละ[[ฤดู]] เพราะปริมาณน้ำไม่เท่ากัน จากการศึกษาพบว่าบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงนั้นมีการพัดพาของน้ำมาประมาณ 470
นอกจากนี้พบว่าเมื่อประมาณ 6,000 ปีที่ผ่านมา มีการพอกของตะกอนในบริเวณนี้ในลักษณะการพอกคืบเข้าไปในทะเลคิดเป็น 200 กิโลเมตร รอบ[[ชายแดน]]ของ[[ประเทศกัมพูชา]]และชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม โดยในปัจจุบันพบว่าลักษณะปรากฏของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงนั้น มีรูปร่างคล้ายรูปสามเหลี่ยมที่กินเนื้อที่เป็นบริเวณกว้าง
ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงได้มีการศึกษาเรื่องการกระจายตัวของ[[สิ่งมีชีวิต]]บริเวณนี้ โดยพบว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งรวมสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่กว่า 10,000 สายพันธุ์ ซึ่งทำให้
จากการสะสมตัวของตะกอนพบว่าตะกอนที่สะสมตัวในหุบเขาซึ่งทับอยู่บนชั้นตะกอนที่มีอายุสมัย[[ไพลสโตซีน]] นั้นเกิดการสะสมตัวในช่วงที่มีเกิดเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลอย่างรวดเร็วครั้งล่าสุด ซึ่งพบว่าแม่น้ำโขงในช่วง[[ยุคน้ำแข็ง]]ครั้งล่าสุดหรือเมื่อประมาณ 18,000 ปีมาแล้วนั้น ตำแหน่งของทางน้ำอยู่ทางตะวันออกของบริเวณที่เป็นหุบเขาทำให้บริเวณหุบเขามีลักษณะเป็นปากแม่น้ำ ขณะที่น้ำ[[ทะเล]]เพิ่มสูงขึ้นจึงเกิดการสะสมตัวของตะกอนที่เป็นตะกอนปากแม่น้ำ เมื่อน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นปากแม่น้ำจึงย้ายเข้าไปในแผ่นดินมากขึ้นทำให้บริเวณนี้ได้รับอิทธิพลจากกระบวนการทางทะเลมากขึ้น จึงเกิดการสะสมตัวของที่ราบที่ได้รับผลจาก[[น้ำขึ้น-น้ำลง]] หลังจากนั้นพบว่าเกิดการสะสมตัวของตะกอนดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเมื่อประมาณ 6,000 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุดและกำลังเริ่มลดลง
# ส่วนของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่อยู่ด้านใกล้แผ่นดิน พบว่าเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากกระบวนการทางแม่น้ำและน้ำขึ้น-น้ำลงเป็นหลัก
# ส่วนของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่อยู่ด้านใกล้ทะเล พบว่าเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากกระบวนการทะเลคือคลื่นและน้ำขึ้น-น้ำลงเป็นหลัก
บรรทัด 17:
[[ไฟล์:ภาพถ่ายทางอากาศแสดงลักษณะของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง.jpg|200px|thumb|right|ภาพถ่ายทางอากาศแสดงลักษณะของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง]]
ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีพื้นที่อยู่ทางทิศตะวันตกของนครโฮจิมินห์
นอกจากนี้ในบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงยังพบว่าเป็นบริเวณที่มีภูมิประเทศที่หลากหลายมาก โดยบริเวณนี้พบทั้งภูเขาและพื้นที่สูงทางทิศเหนือและทิศตะวันตก และพบลักษณะของที่ราบน้ำท่วมถึงบริเวณทิศใต้ นอกจากนี้ยังพบว่าลักษณะภูมิประเทศบริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีผลของการเกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากการเคลื่อนที่ชนกันของแผ่นอินเดียและแผ่นยูเรเซียเมื่อประมาณ 50 ล้านปีมาแล้ว
บรรทัด 30:
[[ไฟล์:แผนที่แสดงลักษณะทางธรณีวิทยาบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง.jpg|400px|thumb|right|แผนที่แสดงลักษณะทางธรณีวิทยาบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง]]
จากการศึกษาถึงลักษณะทางธรณีวิทยาของพื้นที่บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงพบว่าบริเวณนี้มีการแบ่ง
# ส่วนของพื้นที่ที่อยู่เหนือน้ำ พบว่าสามารถแบ่งย่อยโดยอาศัยความสูงต่ำของพื้นที่เป็นตัวแบ่งได้อีกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำส่วนบนหรือส่วนนอกซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากแม่น้ำเป็นหลัก และส่วนของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำส่วนล่างหรือส่วนนอกซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากการกระทำของทะเลเป็นหลัก พื้นที่ที่อยู่เหนือน้ำของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงนี้พบว่าเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนในช่วง 6,
# ส่วนของพื้นที่ที่อยู่ใต้น้ำ พบว่าสามารถแบ่งย่อยโดยอาศัยความสูงต่ำของพื้นที่เป็นตัวแบ่งได้อีกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นที่ราบที่ได้รับอิทธิพลจากน้ำขึ้น-น้ำลงซึ่งพบว่าส่วนนี้มีความหนาของตะกอนประมาณ 6 เมตร และกว้างประมาณ
หน้าดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงถือเป็นดินดอนสามเหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ตรงบริเวณทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม โดยเป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากที่ราบสูง
ปัจจุบันพบว่าดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีความกว้างของดินดอนสามเหลี่ยมใหญ่ที่สุดที่หนึ่งของโลกและกินพื้นที่ 39,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นสัดส่วนโดยมากของพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม พื้นที่ของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงส่วนที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำนั้นขึ้นกับแต่ละฤดู เพราะปริมาณน้ำไม่เท่ากัน จากการศึกษาพบว่าบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงนั้นมีการพัดพาของน้ำมาประมาณ 470
นอกจากนี้พบว่าเมื่อประมาณ 6000 ปีที่ผ่านมา มีการพอกของตะกอนในบริเวณนี้ในลักษณะการพอกคืบเข้าไปในทะเลคิดเป็น 200 กิโลเมตร รอบชายแดนของประเทศเขมรและชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม โดยในปัจจุบันพบว่าลักษณะปรากฏของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงนั้น มีรูปร่างคล้ายรูปสามเหลี่ยมที่กินเนื้อที่เป็นบริเวณกว้าง
ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงได้มีการศึกษาเรื่องการกระจายตัวของสิ่งมีชีวิตบริเวณนี้ โดยพบว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งรวมสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่กว่า 10,000 สายพันธุ์ ซึ่งทำให้
=== การลำดับชั้นตะกอน ===
[[ไฟล์:ภาพแสดงลักษณะการลำดับชั้นหินบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง1.jpg|400px|thumb|right|ภาพแสดงลักษณะการลำดับชั้นหินบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง]]
ในบริเวณนี้พบว่าจากการเจาะศึกษาตะกอน สามารถแบ่งตะกอนได้ออกเป็น 3 กลุ่ม
# ตะกอนที่มี
# ตะกอนกลุ่มที่เกิดการสะสมตัวบริเวณหุบเขาในช่วงน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น โดยตะกอนกลุ่มนี้วางตัวอยู่บนตะกอนกลุ่มแรกโดยพบลักษณะชัดเจนที่หลุมบีที 2 ซึ่งแสดงการตัดเข้ามาของหุบเขา ในช่วงยุคน้ำแข็งยุคสุดท้ายหรือเมื่อประมาณ 18,000 ปีมาแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นพบว่าเกิดการละลายของธารน้ำแข็งทำให้มีการเพิ่มขึ้นของน้ำทะเลอย่างรวดเร็วประกอบกับการตัดเข้ามาของหุบเขาในบริเวณนี้ทำให้มีการเพิ่มพื้นที่สะสมตัวของตะกอนจึงพบการสะสมตัวของตะกอนเป็นปริมาณมากซึ่งประกอบด้วยตะกอนทรายขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ตะกอนขนาดทรายแป้ง และตะกอนโคลน บางส่วนพบว่ามีการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเกิดเป็นชั้น
# ตะกอนดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำสมัยโฮโลซีน โดยตะกอนกลุ่มนี้แสดงการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการตกสะสมตัวที่แสดงการพอกของตะกอนในทิศออกสู่ทะเล โดยเราจะพบว่าเม็ดตะกอนมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อใกล้ระดับพื้นผิว โดยตะกอนที่พบมีขนาดหลากหลาย เช่น ตะกอนทรายขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ตะกอนทรายแป้ง ตะกอนโคลน เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบซากบรรพชีวิน เช่น เศษชิ้นส่วนของเปลือกหอย แพลงตอน ไดอะตอม เป็นต้น ซึ่งจากการศึกษาซากบรรพชีวินเหล่านี้พบว่าแสดงการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมสอดคล้องกับการพอกของตะกอนในทิศออกสู่ทะเล
==ประวัติศาสตร์และความสำคัญ==
[[ไฟล์:Visnu Oc Eo.jpg|thumb|200px|[[เทวรูป]][[พระวิษณุ]]ในสมัย[[อาณาจักรขอม]]]]
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในสมัยโบราณเคยเป็นอาณาเขตของ[[อาณาจักรขอม]] โดยมีหลักฐานเป็นวัตถุโบราณต่าง ๆ มีภูมิประเทศเป็นหนองบึง และป่าไม้ ก่อนที่ชาวอาณานิคมพวกแรกที่เข้ามาทางทะเลจะมาถึงใน[[คริสต์ศตวรรษที่ 16]] ในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของตระกูลเหวียน ได้มีการปรับปรุงสภาพหนองบึงผืนใหญ่ และสร้างเครือข่ายลำคลอง
ปัจจุบัน
== อ้างอิง ==
* [http://www.dmr.go.th/main.php?filename=rocks กรมทรัพยากรธรณี]
* [http://en.wikipedia.org/wiki/Mekong_Delta Mekong delta]
{{รายการอ้างอิง}}
เส้น 66 ⟶ 65:
==แหล่งข้อมูลอื่น==
* {{geolinks-bldg|10.009|105.824}}
{{เขตการปกครองของเวียดนาม}}
|