ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คำตี้"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
Octahedron80 ย้ายหน้า คำตี่ ไปยัง คำตี้: เปลี่ยนให้ถูกตามวรรณยุกต์ในภาษาเขา
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัด 1:
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{issues|ปรับภาษา=yes|ต้องการอ้างอิง=yes|ไม่เป็นสารานุกรม=yes|จัดรูปแบบ=yes}}{{กล่องข้อมูล ชาติพันธุ์
| group = คำตี่ตี้
| image = [[ไฟล์:Tai Khampti diorama.JPG|250px]]
|caption = หุ่นขี้ผึ้งแสดงวิถีชีวิตของชาวคำตี่ตี้ ใน[[พิพิธภัณฑ์ชวาหระลาล เนห์รู]] [[อิฏานคร|เมืองอิฏานคร]] [[รัฐอรุณาจัลประเทศ]]
| poptime = 97,000 คน
| region1 = {{flagicon|Myanmar}}[[ประเทศพม่า]]
บรรทัด 12:
| ref2 = [http://www.joshuaproject.net/peopctry.php?rop3=104896&rog3=IN]<br>
| rels = [[ศาสนาพุทธ]][[เถรวาท|นิกายเถรวาท]] [[ศาสนาฮินดู]] ศาสนาดั้งเดิม และ[[ศาสนาคริสต์]]
| langs = [[ภาษาคำตี่ตี้]] [[ภาษาอดิ]] และ[[ภาษาอัสสัม]]
|related-c = [[ไทใหญ่]], [[อ่ายตน]], [[อาหม]], [[คำยัง]], [[ไทเหนือ]]
}}
 
'''คำตี่''', '''ขำติตี้''' หรือ '''ไทคำตี่ตี้''' เป็นกลุ่มชาติพันธุ์[[ไท]]กลุ่มหนึ่งในอัสสัม และทางภาคเหนือของ[[ประเทศพม่า]] ใน[[รัฐกะชีน]] เมืองปูตาโอ แบ่งได้ เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มไทคำตี่หลวงตี้หลวง (ใน[[ประเทศพม่า]]) และกลุ่มสิงคะลิงคำตี่ตี้ (ใน[[ประเทศอินเดีย]])
 
== การแบ่งกลุ่มชาวคำตี่ตี้ ==
=== คำตี่ในพม่าตี้ในพม่า (คำตี่หลวงตี้หลวง) ===
 
;ประวัติคำตี่ในคำตี่หลวงตี้ในคำตี้หลวง
:ผู้ปกครองของคำตี่ตี้ คือ ปู่โถมถงม่าตุ๊ง ผู้ซึ่งลูกสาวถูกเสือห่มฟ้าลักพาตัวไป ดดยทำอุบายใช้ปู่โถมถงม่าตุ๊งไปธุระที่เมืองมะนุ่น หลังจากปู่โถมถงม่าตุ๊งกลับมา เสือห่มฟ้าจึงตั้งให้เป็นเจ้าเมืองคำตี่ตี้ แต่ชาวเมืองไม่ได้ถือปู่โถมถงม่าตุ๊งเป็นบรรพบุรุษของตนแต่อย่างใด ในคำสาบานศาลกล่าวไม่มีชื่อปู่โถมถงม่าตุ๊ง แต่ออกชื่อเจ้าสามองค์ คือ เจ้าสามหลวง เจ้าหัวแสง และเจ้าข้างใต้ สำหรับเจ้าสามหลวงนั้น ตามตำนานเล่าว่า เป็นเจ้าฟ้าปกครองเมืองคำตี่หลวงตี้หลวง มีบุญญาธิการมาก ถึงขนาดที่เมื่อร้องต่อฟ้าขอให้ช่องเขาหลอยคอม้าถล่มลงมาปิดทางไม่ให้พวก[[ทิเบต]] มารุกราน ช่องเขานั้นก็ถล่มมาปิดสมดังอธิษฐาน
 
;การปกครองในปูตาโอ
:ในเมืองปูตาโอแบ่งออกเป็น 8 เขตปกครอง ของเจ้าฟ้าไท จึงมีเจ้าฟ้าไท 8 คนด้วยกัน แต่ละคนจะมีหน้าที่รักษาความสงบ เก็บภาษี ดูแลสาธารณสุข และอำนวยความสะดวกต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง เจ้าฟ้าเหล่านี้ขึ้นต่อรองผู้ว่าราชกาช[[จังหวัดมิตจินา]]
 
;คัมภีร์ปู่สอนหลาน และตำนานเมืองคำตี่ตี้
:หนังสือปู่สอนหลานมีตั้งแต่เดิม ส่วนตำนานคำตี่ตี้แต่งขึ้นมาทีหลัง และมาได้อิทธิพลพม่าทีหลัง แต่ในภาษาเขียนมีอิทธิพลพม่าน้อยกว่าภาษาพูด ทำให้เห็นว่าไวยากรณ์ที่คล้ายคลึงพม่าอาจจะมาจาก[[ภาษาทิเบต]]ก็เป็นได้ เพราะตามตำนานเมืองคำตี่กล่าวว่าตี้กล่าวว่า เคยมีเจ้าชาย[[ทิเบต]]นำไพร่พลมา 500 คน มาตั้งถิ่นฐานที่คำตี่ตี้ และ[[ภาษาทิเบต]]อยู่ในกลุ่มภาษาซิโน-ทิเบตัน เช่นเดียวกันกับ[[ภาษาพม่า]] มีไวยากรณ์คล้ายคลึงกัน จึงอาจทำให้[[ภาษาไทคำตี่ตี้]]มีส่วนคล้ายคลึงกับ[[ภาษาพม่า]]
 
;วัฒนธรรม
:ชาวคำตี่ตี้ มีขนบธรรมเนียมประเพณีคล้ายคลึงกับ ชาวไทคำตี่ตี้ในรัฐอัสสัม และคล้ายคลึงกับชาวไทถิ่นต่างต่างๆ เช่า [[ไทคำยัง]] [[ไทพ่าเก]] และ[[ไทเหนือ]] เป็นต้น
 
=== คำตี่ในอินเดียตี้ในอินเดีย (สิงคะลิงคำตี่ตี้) ===
;ประวัติชาวคำตี่ในอัสสัมตี้ในอัสสัม
:ชาวคำตี่ในอัสสัมตี้ในอัสสัม มีถิ่นเดิมอยู่ที่คำตี่หลวงตี้หลวง ตอนเหนือของแม่น้ำอิรวดี [[ประเทศพม่า]]ในปัจุจบัน สมัยพระเจ้าอลองพญา ดินแดนไทตอนเหนือถูกแยกไว้หลายส่วน ไทคำตี่ตี้จำนวนมากข้ามช่องเขาปาดไก่อพยพมาในอัสสัม ต่อมาในปี [[พ.ศ. 2336]] ชาวคำตี่ตี้ได้ร่วมมือกับชาวกะชีนยึดอำนาจ เมืองซอดิยา ตั้งตนเป็นเจ้าเมืองแทน หากต่อยังสวามิภักษ์ต่อกษัตริย์อาหมเช่นเดียวกับเจ้าเมืองซอดิยาเดิม ครั้นอังกฤษยึดอัสสัมได้ไม่นานนัก ชาวคำตี่กับตี้กับ[[อังกฤษ]]ก็ขัดแย้งจนเกิดการปะทะกัน ทำให้พันเอกไวท์ ผู้บังคับการของอังกฤษเสียชีวิต อังกฤษจึงแยกคนไทออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ที่เดิม คือ จ้องคำ เมืองซอดิยา อีกส่วนอยู่ที่หม่านทิกรอง เมืองลัคคิมปุระเหนือ ซึ่งกันดารจนได้ชื่อว่าเกาะอันดามันแห่งที่สอง แต่เป็นกลุ่มพูดภาษาไทกลุ่มใหญ่ ที่เฉพาะใน ตำบลนายณปุระ ก็มีจำนวนรวมกันนับพันหลังคาเรือน และยังมีหมู่บ้านไทที่ใกล้หม่านทิกรองอีกมาก
 
;หนังสือปู่สอนหลานในอัสสัม
:ปู่สอนหลาน เป็นหนังสือไทเก่าแก่รวบรวมถ้อยคำมีคติน่ายึดถือโบราณเอาไว้ เช่น "มีลูกไม่รู้จักสอน ก็จะฉลาดแกมโกง หลอกลวงคนอื่น มี[[วัว]][[ควาย]]ไม่รู้จักเลี้ยง มันจะตายสิ้น มีเมียไม่รู้จักรัก ก็จะพรากจากกัน" "เรารักคนอื่น คนอื่นจะรักเรา สนใจคนอื่น คนอื่นจะยินดี"
 
;วัฒนธรรม ประเพณี และการละเล่นของคำตี่ตี้
:เด็กๆที่หม่านทิกรองมีการละเล่นคล้ายของ[[ไทย]] เช่น การเล่นสะบ้า ไล่จับ เล่นไพ่ เล่นลิงชิงหลัก งูกินหาง เป็นต้น ชาวคำตี่ตี้จะให้ความสำคัญเรื่องขวัญมาก มีประเพณีการทำขวัญต่างๆ ทั้งในโอกาสต่างๆ เช่น การทำขวัญข้าว การเรียกขวัญเมื่อคนเจ็บป่วย การทำขวัญเมื่อโกนผมไฟเด็กอ่อน ยังมีประเพณีเจรจากับผีเมื่อเด็กคลอดเหมือนของไทยเรา แต่ชาวคำตี่ตี้จะพูดหลังอาบน้ำให้เด็กเสร็จ ยังไม่ทันใส่เสื้อผ้า โดยพูดว่า "สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ลูกใครเอาก็เอาแล้ว ห่มเสื้อห่มผ้าแล้วเอาไปไม่ได้
 
=== คำตี่ในไทยตี้ในไทย ===
ชาวคำตี่ตี้ในไทยนั้นก็อพยพมาจากทางฝั่งพม่าเข้ามาทางฝั่งไทยและตั้งรกรากถิ่นฐานในเขต[[จังหวัดแม่ฮ่องสอน]] และที่ชาวคำตี่ตี้อพยพมาทางฝั่ง[[ไทย]]เนื่องจากสภาพทางการเมืองของพม่าที่ผันผวน
 
== ภาษา ==
ภาษาคำตี่ตี้นั้นเป็นภาษาตระกูลขร้า-ไท และภาษาคำตี่ตี้นี้ใกล้เคียงกับคำเมือง และภาษาถิ่นอีสานมารวมกัน และภาษาคำตี่ตี้นั้นมีคำศัพท์เก่าที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน เช่นอวัยวะส่วนต่างๆ สัตว์เลี้ยง พืช และเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศัพท์ไทเก่า ภาษาคำตี่มีพยัญชนะตี้มีพยัญชนะ 17 รูป สระเดี่ยว 14 เสียง สระผสม 2 เสียง และมีเสียงวรรณยุกต์ 6 เสียง ปัจจุบันภาษาคำตี่ตี้ในอินเดียนั้นถูกทำลายไปมาก เนื่องจากอิทธิพลทางภาษา สภาวะการน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องภาษาจนชาวคำตี่ตี้ที่อาศัยอยู่ในอินเดีย (ประชากร 24,000 คน) ส่วนใหญ่จะพูด[[ภาษาอดิ]] 12,000 คน ขณะที่มีคนพูดภาษาคำตี่เพียงตี้เพียง 8,700 คน และ[[ภาษาอัสสัม]]อีก 50 คน และส่วนใหญ่คนที่อ่านภาษาคำตี่ตี้ได้ก็มีน้อย แต่ยังมีคนพูดได้ แต่ส่วนชาวคำตี่ที่พม่าตี้ที่พม่า (ประชากร 72,000 คน) กลับตรงกันข้าม เพราะประชากรส่วนใหญ่ยังพูดภาษาคำตี่ได้ตี้ได้ แต่บางท้องที่ได้หันไปพูด[[ภาษาพม่า]]และ[[ภาษาจิ่งเผาะ]]
 
== ศาสนา ==
ชาวคำตี่ตี้ส่วนใหญ่จะเป็นพุทธศาสนิกชนนับถือ[[ศาสนาพุทธ]] และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทุกบ้านจะมีห้องพระทุกเช้าและเย็นจะมีการสวดมนต์ ซึ่งชาวคำตี่ตี้จะเรียกว่า "ไปพระ" เกือบทุกหมู่บ้านของชาวคำตี่ตี้จะมีวัด หรือ จอง มีศาลาปฏิบัติธรรมมีกุฏิที่พักสำหรับ[[พระสงฆ์]] [[สามเณร]] และ[[แม่ชี]] ชาวคำตี่ตี้จะเรียกพระว่า "เจ้ามูล" เรียกเณรว่า "เจ้าซ่าง" และเรียกแม่ชีว่า "แม่ย่าชี" ชาวคำตี่ตี้นิยมนำบุตรหลานบวชเรียนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เพื่อศึกษาคัมภีร์ทางพุทธศาสนาในแตกฉาน สามารถอ่านเทศน์ หรือสวดเป็น[[ภาษาบาลี]]ได้ ด้วยถือว่า[[วัด]]เป็นศูนย์กลางในการทำพิธีกรรม ประเพณี วัฒนธรรม และการเรียนรู้ พระจึงมีบทบาท และทำหน้าที่อย่างแท้จริง แต่ละรูปจะได้รับการฝึกฝนมายาวนาน ชาวคำตี่ตี้ในพม่าส่วนใหญ่จะนับถือพุทธศาสนา 99% ศาสนาดั้งเดิม-ผีสางนางไม้ 0.9% และ[[ศาสนาคริสต์]] 0.1% ส่วนชาวคำตี่ตี้ในอินเดียนั้นนับถือพุทธศาสนา 66.64% [[ศาสนาฮินดู]] 24.59% และศาสนาคริสต์ 7.72%
 
{{ชาวไทกะได}}
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/คำตี้"