ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกมุดน้ำ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nix Sunyata (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Nix Sunyata (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 23:
 
== อนุกรมวิธาน ==
นกมุดน้ำได้รับการอธิบายโดยนักสัตววิทยาชาวดัตช์ Coenraad Jacob Temminck ในปีพ. ศ. 2363 และตั้งชื่อทวินามว่า ''Cinclus pallasii<ref>{{cite book|last=Temminck|first=Coenraad Jacob|url=https://biodiversitylibrary.org/page/41001742|title=Manuel d'ornithologie, ou, Tableau systématique des oiseaux qui se trouvent en Europe|publisher=H. Cousin|year=1820|edition=2nd|volume=Part 1|place=Paris|page=177|language=fr|author-link=Coenraad Jacob Temminck}}</ref> ''ถิ่นกำเนิด (Type Locality) คือไซบีเรียตะวันออก<ref>{{cite book|url=https://biodiversitylibrary.org/page/14481053|title=Check-list of Birds of the World|publisher=Museum of Comparative Zoology|year=1960|editor1-last=Mayr|editor1-first=Ernst|editor1-link=Ernst Mayr|volume=Volume 9|place=Cambridge, Massachusetts|page=378|editor2-last=Greenway|editor2-first=James C. Jr}}</ref> ชื่อเฉพาะ "pallasii" ได้รับการตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ Peter Simon Pallas นักธรรมชาติวิทยาชาวปรัสเซีย (ค.ศ. 1741-1811)<ref name="hbwkey">{{cite web|last=Jobling|first=J.A.|year=2019|editor1-last=del Hoyo|editor1-first=J.|editor2-last=Elliott|editor2-first=A.|editor3-last=Sargatal|editor3-first=J.|editor4-last=Christie|editor4-first=D.A.|editor5-last=de Juana|editor5-first=E.|title=Key to Scientific Names in Ornithology|url=https://www.hbw.com/dictionary/definition/pallasii|access-date=9 February 2019|work=Handbook of the Birds of the World Alive|publisher=Lynx Edicions}}</ref> วงศ์นกมุดน้ำมีถิ่นอาศัยใกล้แหล่งน้ำ มี 1 สกุลคือ ''Cinclus'' และ 5 ชนิดทั่วโลก (''Cinclus cinclus, Cinclus pallasii, Cinclus mexicanus, Cinclus leucocephalus, Cinclus schulzii'') แต่พบเพียงชนิดเดียวในประเทศไทย (''C. pallasii'') และจากการศึกษาทางพันธุกรรมระดับโมเลกุลของนกสกุลนกมุดน้ำ 5 ชนิดแสดงให้เห็นว่า นกมุดน้ำ (''C. pallasii'') มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมากที่สุดกับนกมุดน้ำคอขาว (''Cinclus cinclus'') ที่อาศัยในยูเรเชีย''<ref>{{cite journal|last=Voelker|first=Gary|year=2002|title=Molecular phylogenetics and the historical biogeography of dippers (''Cinclus'')|journal=Ibis|volume=144|issue=4|pages=577–584|doi=10.1046/j.1474-919X.2002.00084.x}}</ref>''
 
=== ชนิดย่อย ===
บรรทัด 36:
 
== ลักษณะทางชีววิทยาและพฤติกรรม ==
ลำตัวป้อม ยาวประมาณ 22 ซม. น้ำหนัก 87 กรัม ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์นกมุดน้ำ<ref>[https://avibase.bsc-eoc.org/species.jsp?avibaseid=4E5EB9872F37E3A1 Brown Dipper ''Cinclus pallasii'' Temminck, 1820.] Avibase. สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2564.</ref> ขนลำตัวสีน้ำตาลเข้มล้วน หลังและอกสีอ่อนกว่าเล็กน้อย ปากค่อนข้างใหญ่และยาว วงรอบตาขาว ขณะหลับตาเห็นหนังปิดตาขาวชัดเจน<ref>[https://www.nsm.or.th/sample-materials-of-natural-history-museum/1020-collection-of-birds/1101-cinclus-pallasii-temminck.html นกมุดน้ำ.] พิพิธภัณธรรมชาติวิทยา อพวช. สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2564.</ref> หางมีลักษณะคล้ายกางเขนดงที่มีหางงอกระดกขึ้น
 
นกวัยรุ่น มีขนลำตัวเทาแกมน้ำตาล มีลายเกล็ดสีดำกระจาย ปีกมีลายขาวจาง ๆ<ref name=":0" />
 
== พฤติกรรมและนิเวศวิทยา ==
อาศัยและหากินในแหล่งน้ำที่ไหลแรงและคุณภาพดี พบได้ตามน้ำตกหรือลำธารขนาดใหญ่ ที่ระดับความสูง 200-1,000 เมตร มักพบโดดเดี่ยว โดยการยืนเกาะตามแก่งหินข้างลำธารที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี<ref name=":0" /><ref name=":1" />
 
นกมุดน้ำกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์จำพวกแมลง ตัวหนอน หรือไข่ปลาที่เกาะตามก้อนหิน โดยอาหารโปรดคือแมลงน้ำ นกมุดน้ำนี้สามารถมุดลงไปใต้น้ำ ใช้ปีกและขาพุ้ยน้ำ ให้เคลื่อนที่ไปตามทิศทางที่ต้องการ จากนั้นใช้ปากคาบเหยื่อ แล้วโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อกลืนอาหารและดำลงไปหาเหยื่อต่อไป จึงเป็นที่มาของชื่อนกมุดน้ำ<ref name=":1">[https://www.facebook.com/Rama9MuseumThailand/posts/2567799503476568/ เฉลยเผยโฉมหน้า เจ้าสัตว์ประหลาดรอบตัว.] พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. RAMA9 MUSEUM สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2564.</ref> การว่ายน้ำและดำน้ำเพื่อจับเหยื่อนี้คล้ายพฤติกรรมของนกทะเล<ref name=":0" /> ในช่วงพักผ่อนจะเกาะตามก้อนหินเพื่อตากแดดให้ขนแห้ง มักร้องเสียง "จี๊ด ๆ" เป็นจังหวะ<ref name=":0" />