ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกมุดน้ำ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nix Sunyata (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Nix Sunyata (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 23:
== อนุกรมวิธาน ==
นกมุดน้ำได้รับการอธิบายโดยนักสัตววิทยาชาวดัตช์ Coenraad Jacob Temminck ในปีพ.
=== ชนิดย่อย ===
บรรทัด 36:
== ลักษณะทางชีววิทยาและพฤติกรรม ==
ลำตัวป้อม ยาวประมาณ 22 ซม. น้ำหนัก 87 กรัม ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์นกมุดน้ำ<ref>[https://avibase.bsc-eoc.org/species.jsp?avibaseid=4E5EB9872F37E3A1 Brown Dipper ''Cinclus pallasii'' Temminck, 1820.] Avibase. สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2564.</ref> ขนลำตัวสีน้ำตาลเข้มล้วน หลังและอกสีอ่อนกว่าเล็กน้อย ปากค่อนข้างใหญ่และยาว วงรอบตาขาว ขณะหลับตาเห็นหนังปิดตาขาวชัดเจน<ref>[https://www.nsm.or.th/sample-materials-of-natural-history-museum/1020-collection-of-birds/1101-cinclus-pallasii-temminck.html นกมุดน้ำ.] พิพิธภัณธรรมชาติวิทยา อพวช. สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2564.</ref> หางมีลักษณะคล้ายกางเขนดงที่มีหางงอกระดกขึ้น
นกวัยรุ่น มีขนลำตัวเทาแกมน้ำตาล มีลายเกล็ดสีดำกระจาย ปีกมีลายขาวจาง ๆ<ref name=":0" />
== พฤติกรรมและนิเวศวิทยา ==
อาศัยและหากินในแหล่งน้ำที่ไหลแรงและคุณภาพดี พบได้ตามน้ำตกหรือลำธารขนาดใหญ่ ที่ระดับความสูง 200-1,000 เมตร มักพบโดดเดี่ยว โดยการยืนเกาะตามแก่งหินข้างลำธารที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี<ref name=":0" /><ref name=":1" />
นกมุดน้ำกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์จำพวกแมลง ตัวหนอน หรือไข่ปลาที่เกาะตามก้อนหิน โดยอาหารโปรดคือแมลงน้ำ นกมุดน้ำนี้สามารถมุดลงไปใต้น้ำ ใช้ปีกและขาพุ้ยน้ำ ให้เคลื่อนที่ไปตามทิศทางที่ต้องการ จากนั้นใช้ปากคาบเหยื่อ แล้วโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อกลืนอาหารและดำลงไปหาเหยื่อต่อไป จึงเป็นที่มาของชื่อนกมุดน้ำ<ref name=":1">[https://www.facebook.com/Rama9MuseumThailand/posts/2567799503476568/ เฉลยเผยโฉมหน้า เจ้าสัตว์ประหลาดรอบตัว.] พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. RAMA9 MUSEUM สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2564.</ref> การว่ายน้ำและดำน้ำเพื่อจับเหยื่อนี้คล้ายพฤติกรรมของนกทะเล<ref name=":0" /> ในช่วงพักผ่อนจะเกาะตามก้อนหินเพื่อตากแดดให้ขนแห้ง มักร้องเสียง "จี๊ด ๆ" เป็นจังหวะ<ref name=":0" />
|