ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิลเลียม ไลอัน แมกเคนซี คิง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 17:
'''วิลเลียม ไลอัน แมกเคนซี คิง''' ผู้ซึ่งได้รับ[[เครื่องราชอิสริยาภรณ์เมอริท]](OM) [[เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์ ไมเคิลและเซนต์ จอร์จ]](CMG) [[องคมนตรีของสมเด็จพระราชชินีแห่งแคนาดา]](PC) (17 ธันวาคม ค.ศ. 1874 – 22 กรกฏาคม ค.ศ. 1950) มักเป็นที่รู้จักกันคือ '''แมกเคนซี คิง''' หรือ '''ดับเบิลยูแอลเอ็มเค'''(WLMK) เป็นรัฐบุรุษและนักการเมืองชาวแคนาดาที่ดำรงตำแหน่งเป็น[[นายกรัฐมนตรีแคนาดา]]คนที่ 10 เป็นระยะเวลาสามวาระที่ไม่ต่อเนืองกัน ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1921 - ค.ศ. 1926 ค.ศ.1926 - ค.ศ. 1930 และ ค.ศ. 1935 - ค.ศ. 1948 ด้วยการเป็นนักเสรีนิยม เขาเป็นนักการเมืองที่มีความโดดเด่นในแคนาดาในช่วง[[สมัยระหว่างสงคราม]] ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 ถึง ค.ศ. 1940 เขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้นำแห่งแคนาดาในตลอดช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] (ค.ศ. 1939 - ค.ศ. 1945) เมื่อเขาได้ระดมเงินทุน ยุทธภัณฑ์ และทหารอาสาสมัครของแคนาดาเพื่อให้การสนับสนุนแก่บริติช ในขณะที่ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจและรักษาขวัญกำลังใจที่แนวหลังบ้านเกิด ด้วยการดำรงตำแหน่งเป็นระยะเวลา 21 ปี และ 154 วัน เขายังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์แคนาดา เขาได้รับการฝึกฝนด้านกฏหมายและสังคมสงเคราห์ เขาได้ให้ความสนใจอย่างมากในสภาพของมนุษย์ (ในตอนที่เขาเป็นเด็ก คติประจำตัวของเขาคือ "ช่วยเหลือผู้อื่นที่ช่วยตัวเองไม่ได้") และมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานของรัฐสวัสดิการของแคนาดา<ref>{{cite encyclopedia|url=http://www.thecanadianencyclopedia.com/en/article/welfare-state/|title=Welfare State|first=Allan|last=Moscovitch|encyclopedia=[[The Canadian Encyclopedia]]|date=February 7, 2006|publisher=[[Historica Canada]]|edition=online|access-date=June 9, 2011}}</ref>
 
คิงได้ขึ้นเป็นผู้นำของพรรคเสรีนิยมในปี ค.ศ. 1919 ด้วยการที่เป็นผู้นำของพรรคที่แตกแยกกันอย่างขมขื่นในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] เขาได้ไกล่เกลี่ยแก่กลุ่มต่าง ๆ จนสามารถกลับมารวมตัวกันเป็นพรรคเสรีนิยมและนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ปี ค.ศ. 1921 พรรคของเขาได้ออกจากตำแหน่งในช่วงวันเวลาที่เลวร้ายที่สุดของ[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]]ในแคนาดา ค.ศ. 1930 - 35 เขาได้กลับมาอีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น เขาได้จัดการกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับจังหวัดแพรรี ในขณะที่ผู้ช่วยชั้นำชั้นนำของเขาอย่าง Ernest Lapointe และ Louis St. Laurent ได้ตอบสนองความต้องการของชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้หลีกเลี่ยงอย่างรอบคอบจากการสู้รบมากกว่าการเกณฑ์ทหาร ความรักชาติ และชาติพันธุ์ที่ทำให้แคนาดาต้องแตกแยกอย่างมากมายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แม้ว่าจะมีนวัตกรรมด้านนโยบายที่สำคัญเพียงไม่กี่อย่างที่เกิดขึ้นในช่วงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเขา เขาสามารถสังเคราะห์และส่งผ่านมาตรกรหลายอย่างที่ได้รับการสนับสนุนระดับชาติในวงกว้าง นักวิชาการได้ระบุว่า การดำรงตำแหน่งอันยาวนานของคิงในฐานะหัวหน้าพรรค เนื่องจากมีทักษะที่หลากหลายที่เหมาะสมกับความต้องการของแคนาดา<ref name="autogenerated1">{{cite book|last=Neatby|first=H. Blair|title=Mackenzie King: Widening the Debate|publisher=Macmillan of Canada|year=1977|editor-last1=English|editor-first=John|chapter=King and the Historians|author-link1=H. Blair Neatby|editor-last2=Stubbs|editor-first2=J.O.}}</ref> เขาได้เข้าใจการทำงานของทุนและแรงงาน ด้วยความรู้สึกไวอย่างดีเลิศต่อความแตกต่างของนโยบายสาธารณะอย่างมาก เขาเป็นคนบ้างา่นงานที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดและเจาะลึก และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความซับซ้อนของสังคมแคนาดา นักวิชาการสมัยใหม่ที่มองว่าการไกล่เหลี่ยไกล่เกลี่ยเชิงบริหารมีความสำคัญต่อสังคมอุตสาหกรรม เขาต้องการให้พรรคเสรีนิยมเป็นตัวแทนของบรรษัทเสรีนิยมเพื่อสร้างความสามัคคีทางสังคม คิงทำงานเพื่อประนีประนามและความสามัคคีมาสู่องค์ประกอบการแข่งขันและความบาดหมางมากมาย โดยใช้การเมืองและการดำเนินการของรัฐบาลเป็นเครื่องมือของเขา เขาเป็นผู้นำพรรคมาเป็นเวลา 29 ปี และสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติของแคนาดาในฐานะอำนาจกลางที่มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อระเบียบโลก<ref>{{cite DCB|first=H. Blair|last=Neatby|title=King, William Lyon Mackenzie|volume=17|url=http://www.biographi.ca/en/bio/king_william_lyon_mackenzie_17E.html|access-date=July 20, 2015}}</ref><ref>{{cite book|last=Bliss|first=Michael|url={{google books|tZZqy5yGyRUC|plainurl=yes|page=123}}|title=Right Honourable Men: The Descent of Canadian Politics from MacDonald to Mulroney|publisher=Harper Collins|year=1994|pages=123–184|author-link=Michael Bliss}}</ref><ref>{{cite journal|last=Courtney|first=John C.|year=1976|title=Prime Ministerial Character: An Examination of Mackenzie King's Political Leadership|journal=Canadian Journal of Political Science|volume=9|issue=1|pages=77–100|doi=10.1017/S0008423900043195}}</ref>
 
หนังสือชีวประวัติของคิงได้เห็นด้วยกับลักษณะส่วนบุคคลที่ทำให้เขาดูโดดเด่น เขาขาดความสามารถพิเศษของบุคคลร่วมสมัย เช่น [[แฟรงกลิน โรสเวลต์]] [[วินสตัน เชอร์ชิล]] หรือ[[ชาร์ล เดอ โกล]] เขาขาดทางด้านการแสดงตนหรือทักษะการพูด งานเขียนที่ดีที่สุดของเขาคือ ด้านวิชาการ และไม่สะท้อนกับเขตเลือกตั้ง<ref>{{cite book|title=Mackenzie King: Widening the Debate|date=1977|publisher=Macmillan of Canada|editor-last1=English|editor-first=John|editor-last2=Stubbs|editor-first2=J.O.}}</ref> มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดูเย็นชาและไม่มีไวพริบ เขามีพันธมิตรทางการเมืองมากมาย แต่กลับมีเพื่อนสนิทน้อยมาก เขาไม่เคยแต่งงานและขาดผู้หญิงที่ทำหน้าที่ต้อนรับและเลี้ยงดูแขก ซึ่งด้วยความที่มีสเน่ห์ของเขาสามารถทดแทนความเย็นชาของเขาได้ เขาได้เก็บความเชื่อในลัทธิวิญญาณเป็นความลับและใช้สื่อสารเพื่อติดต่อกับเพื่อนร่วมงานที่จากไป และโดยเฉพาะกับแม่ของเขา และปล่อยให้ความเชื่อทางด้านจิตวิญญาณอย่างแรงกล้าของเขาที่บิดเบือนความเข้าใจของ[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]มาตลอดช่วงปลายปี ค.ศ. 1930<ref>{{cite book|last=Granatstein|first=J. L.|url=https://archive.org/details/mackenziekinghis0000gran|title=Mackenzie King: His life and world|publisher=McGraw-Hill Ryerson|year=1977|url-access=registration}}</ref>