ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การบินไทย เที่ยวบินที่ 311"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 28:
ท่าอากาศยานตรีภูวันในสมัยนั้นไม่มีเรดาห์ หอบังคับการจึงไม่ทราบตำแหน่งของเครื่องบิน การจะนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินแห่งนี้อาศัยการมองด้วยสายตาและการวิทยุประสานงานตำแหน่งเป็นระยะๆเท่านั้น ในวันที่เกิดอุบัติเหตุนั้น เป็นวันที่สภาพอากาศปิด นักบินสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้เพียงไม่กี่ร้อยเมตร การนำเครื่องบินลงจอดจึงต้องอาศัยการประสานงานทางวิทยุเท่านั้น
จากการสอบสวนพบว่า เมื่อเครื่องบินกำลังลดระดับจากทิศใต้เพื่อลงจอดยัง[[ท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัน]] หอบังคับการบินแจ้งว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยในการเปิดใช้ทางวิ่ง ทำให้เครื่องบินต้องบินเลยไปเพื่อตัดสินใจว่าจะนำเครื่องลงจอดที่
ผู้สอบสวนได้ตั้งข้อสังเกตว่า กัปตันปรีดากำลังรับภาระงานมากเกินไปจนเสียสมาธิ และอาจเผลอปรับเกจ HDG SEL ซึ่งใช้ควบคุมทิศทางหัวเครื่อง เลยกว่าที่ควรจะเป็น แทนที่เครื่องบินจะยูเทิร์น 180 องศาแต่กลับกลายเป็นว่าเครื่องบินทำการยูเทิร์น 270 องศา ขณะที่หอบังคับการก็สั่งให้เครื่องบินคงเพดานบินไว้ ในขณะที่นักบินคิดว่าเครื่องบินกำลังมุ่งหน้าสู่ทิศใต้ แท้จริงแล้วเครื่องบินกลับกำลังมุ่งหน้าสู่[[เทือกเขาหิมาลัย]]ทางทิศเหนือ จนกระทั่งนักบินผู้ช่วยพูนทัตกล่าวขึ้นมาว่า ''"เอ้ เรากำลังขึ้นเหนือใช่ไหมครับ?"'' กัปตันปรีดาตอบว่า ''"เออ เดี๋ยวเราก็เลี้ยวกลับละ"'' จากนั้นจึงประสานขอเลี้ยวกลับไปยังหอบังคับการบิน ''"เอ่อ กาฐมาณฑุ ไทย 311 รีเควสต์ไรต์เทิร์นแบ็กทูดิแอร์ฟิลด์"'' ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นเอง สัญญาณเตือนความสูงจากพื้นดินขึ้น นักบินผู้ช่วยกล่าวว่า ''"เลี้ยว เลี้ยวกลับเหอะครับ"'' กัปตันตอบว่า ''"สัญญาณมันผิด! สัญญาณมันผิด!"'' และเสียงสุดท้ายในเทปคือ ''"โอ้ไม่-!"'' เครื่องบินชนเข้ากับเทือกเขาหิมาลัยที่ระยะทาง 35 กม. ทางเหนือจากสนามบินตรีภูวันที่ความสูง 11,500 ฟุต
บรรทัด 36:
จากการสืบสวนสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุมีดังต่อไปนี้
1.กัปตันปรีดา สุทธิมัย เป็นอดีต[[ทหารอากาศ]]มียศขณะนั้นเป็นเรืออากาศ
2.ผู้ทำหน้าที่หอบังคับการบินท่าอากาศยาน
3.เครื่องบินมีปัญหาที่ปีกทำให้มีปัญหาต้องแก้ไขเพิ่มโดยนักบินพยายามทดลองกางแฟลบหลายครั้งในระหว่างบินไป[[โกลกาตา]]และระหว่างตัดสินใจกลับมาที่
4.ในตอนแรกกัปตันตัดสินใจนำเครื่องไปที่[[โกลกาตา]]แต่ต่อมา ทางหอบังคับการบินได้สั่งให้นำเครื่องมาลงที่เนปาล การสื่อสารบนเครื่องบินของระหว่างกัปตันกับนักบินผู้ช่วย นักบินผู้ช่วยและกัปตันกับเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินนั้นเป็นไปอย่างตึงเครียด หงุดหงิดเป็นอย่างมาก
5.รายงานสืบสวนวิพากษ์วิจารณ์การคัดเลือกกัปตันของ บริษัท การบินไทย เนื่องจากการบินไทยจ้าง[[ศาสตราจารย์]]จากต่างชาติโดยหน้าที่ของศาตราจารย์จะทำการทดสอบว่าใครจะได้เป็นกัปตันและใครไม่มีคุณสมบัติในการเป็นกัปตัน สิทธิขาดเช่นนี้ทำให้นักบินผู้ช่วยที่ถูกตัดสินว่าจะต้องเป็นนักบินผู้ช่วยตลอดไป ไม่กล้าตัดสินใจไม่มีความทะเยอทะยานอีกทั้งต้องกลัวบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกแม้อายุจะน้อยกว่ามาก
|