ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฉีหฺวันกง"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
แซนเซลเลอร์ (คุย | ส่วนร่วม) ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
แซนเซลเลอร์ (คุย | ส่วนร่วม) ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 6:
เขาเป็นบุตรของเจ๋ฮูก๋ง (ฉบับจีนเป็น ฉีซีกง) และได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่กับเปาซกแหย เมื่อทั้งก๋งจูหยี (ฉบับจีนเป็น ฉีเซียงกง) ผู้เป็นพี่ชายคนโต และ ก๋งจูบอดี (ฉบับจีนเป็น กงซุนอู๋จื่อ) ได้ถูก[[ลอบสังหาร]]เสียชีวิตทั้งสองคน ทำให้เขาต้องทำศึกชิงบัลลังก์กับก๋งจูกิว (ฉบับจีนเป็น กงจื๋อจิ่ว) ซึ่งเป็นพี่ชายคนรอง ในการนั้น เขาถูกกวนต๋งลอบยิง[[ธนู]]ใส่ แต่โชคดีที่ลูกธนูไปถูกหัวเข็มขัด เขาจึงรอดตายมาได้และได้รับชัยชนะเหนือก๋งจูกิว ก๋งจูกิวกับกวนต๋งต้องหนีไปพึ่งพิง[[ฬ่อจงก๋ง]] (ฉบับจีนเป็น หลู่จวงกง) เมื่อเขาได้เป็นผู้นำแล้ว ก็ส่งจดหมายให้ฬ่อจงก๋งส่งศีรษะของก๋งจูกิวกับกวนต๋ง ฝ่ายฬ่อจงก๋งก็สั่งประหารก๋งจูกิว แต่ให้จับเป็นกวนต๋ง เนื่องด้วยเห็นว่ากวนต๋งมีสติปัญญาที่หลักแหลม
หลังการมอบรางวัลแก่เหล่าทหารที่ช่วยทำศึกชนะก๋งจูกิว ก็คิดใคร่จะแต่งตั้งเปาซกแหยเป็นสมุหนายก แต่เปาซกแหยได้เสนอให้มอบตำแหน่งแก่กวนต๋งและแนะนำให้ละทิ้งความแค้นส่วนตัวกับกวนต๋งเสีย เจ๋ฮวนก๋งจึงยอมทำตามคำแนะนำของเปาซกแหยและเรียกตัวกวนต๋งมาปรึกษาเรื่องราชการบ้านเมือง กวนต๋งก็ได้ชี้แจงแนวคิดในการครองบ้านเมืองรวมถึงหลัก[[คุณธรรมนิยม]]ให้แก่เจ๋ฮวนก๋ง เจ๋ฮวนก๋งก็ยินดีรับฟังและแต่งตั้งให้กวนต๋งเป็นสมุหนายก<ref>
== การเรืองอำนาจและเสียชีวิต ==
ด้วยความช่วยเหลือของกวนต๋ง ทำให้เจ๋ฮวนก๋งกลายเป็นผู้มีอำนาจทั้งในและนอก[[ราชวงศ์โจวตะวันออก|ราชสำนัก]] รวมถึงมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่ด้วย โดยในช่วง 664 ปีก่อนคริสต์ศักราช เจ๋ฮวนก๋งได้นำกองทัพไปช่วยเหลือ[[เอียนจงก๋ง]] (ฉบับจีนเป็น เยี่ยนจวงกง) จากการโจมตีของชนเผ่า[[ซานหยง]] (ฉบับไทยเป็น เมืองปักหยง)<ref>
ต่อมา ได้ทำสงครามกับ[[รัฐฉู่|เมืองฌ้อ]]อยู่ประมาณหนึ่ง ก็พากันเลิกทัพกลับ<ref>
ในช่วงท้ายของชีวิต เจ๋ฮวนก๋งได้ปรึกษากับกวนต๋งเรื่องการแต่งตั้งทายาท กวนต๋งจึงเสนอชื่อก๋งจูเจียว ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สาม เจ๋ฮวนก๋งก็เห็นด้วย จึงให้ก๋งจูเจียวไปศึกษาเล่าเรียนกับ[[ซองเซียงก๋ง]]<ref>
หลังการเสียชีวิตของกวนต๋ง เจ๋ฮวนก๋งก็ทำตามคำสั่งเสียได้พักหนึ่ง ก็ละเลยคำสั่งเสียนี้ทิ้ง เปาซกแหยพยายามว่ากล่าวตักเตือน แต่เจ๋ฮวนก๋งปฏิเสธ เปาซกแหยก็ตรอมใจจนป่วยตาย หลังการตายของเปาซกแหย สามขุนนางอย่าง เอ็ดแหย ซูเตียว ไคหอง ก็ทำการบริหารบ้านเมืองตามอำเภอใจ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เมื่อเจ๋ฮวนก๋งป่วยหนักใกล้ตายนั้น สามขุนนางได้สั่งให้ก่อฉาบปูนเป็นกำแพงปิดบังตำหนักของเจ๋ฮวนก๋ง เจ๋ฮวนก๋งซึ่งชราอยู่แล้ว ไม่ได้รับสารอาหารมากพอ ก็เสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 72 ปี<ref>
หลังการเสียชีวิตของเจ๋ฮวนก๋ง บรรดาลูกชายก็ทำสงครามเพื่อหวังครอบครองรัฐฉี สุดท้ายก๋งจูเจียวได้รับชัยชนะ และขึ้นปกครองรัฐฉีในนาม เจ๋เฮาก๋ง<ref>
== อ้างอิง ==
|