ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาสนวิหารลิงคอล์น"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
จัดรูปแบบ +เก็บกวาด +แทนที่ "ซอลท์" → "ซอล"ด้วยสคริปต์จัดให้
บรรทัด 1:
<!-- กรุณาอย่าเปลี่ยน ค.ศ. เป็น พ.ศ.ในบทความนี้ -->
[[Imageภาพ:Lincoln Cathedral-West-close-up.jpg|thumb|220px|ด้านหน้าแบบโรมาเนสก์]]
'''มหาวิหารลิงคอล์น''' ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: ''Lincoln Cathedral'') มีชื่อเป็นทางการว่า “The Cathedral Church of the Blessed Virgin Mary of Lincoln” หรือ “St. Mary's Cathedral” เป็น[[มหาวิหาร]]สำคัญตั้งอยู่ที่เมืองลิงคอล์น มณฑลลิงคอล์นเชอร์ (Lincolnshire) ใน [[สหราชอาณาจักร]] มหาวิหารลิงคอล์นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกอยู่ 200 ปีแต่ยอดกลางมาหักลงเมื่อศตวรรษที่ 16 และมิได้สร้างใหม่จึงเสียตำแหน่ง มหาวิหารมีชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สมลักษณะสิ่งก่อสร้างที่ดี จอห์น รัสคิน (John Ruskin) นักเขียนสมัย[[สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร|พระราชินีนาถวิกตอเรีย]] บรรยายว่า “...มหาวิหารลิงคอล์นเป็น[[สถาปัตยกรรม]]ชิ้นที่สำคัญที่สุดใน[[อังกฤษ]] และมีคุณค่าเท่าสองมหาวิหารที่เรามี”
 
== ประวัติ ==
[[Imageภาพ:LincolnTowerView.jpg|thumb|250px|มองจากมหาวิหารลิงคอล์นไปยังปราสาทลิงคอล์น]]
[[ภาพ:Lincoln cathedral 09 o NavelookingE.jpg|thumb|250px|มหาวิหารลิงคอล์น]]
[[สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าวิลเลียมที่ 1]]ทรงสั่งให้สร้างมหาวิหารลิงคอล์นเมื่อปี ค. ศ. 1072 ก่อนหน้านั้นวัดเซ็นต์แมรีแห่งลิงคอล์นเป็นเพียงวัดแม่ ([[:en:motherchurch|mother church]]) แต่ไม่ใช่มหาวิหารและขึ้นอยู่กับเป็นสังฆมณฑลอ็อกฟอร์ดเชอร์ (Oxfordshire) ซึ่งมีมหาวิหารอยู่ที่ดอร์เชสเตอร์ออนเทมส์ (Dorchester-on-Thames) <!---Th ใน Thames ออกเสียง ''เทมส์'' - อย่าแก้เป็น ''เธมส์''---> แต่ที่ตั้งของเมืองลิงคอล์นเป็นจุดศูนย์กลางของมณฑลมากกว่าที่ดอร์เชสเตอร์ บาทหลวงเรมิเจียส (Bishop Remigius) สร้างมหาวิหารแรกบนที่ตั้งปัจจุบันและแล้วเสร็จเมื่อปี ค. ศ. 1092 แต่ท่านเสียชีวิตเพียงสองวันก่อนที่มหาวิหารจะได้รับการสถาปนาเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมในปีเดียวกัน ประมาณ 50 ปีต่อมามหาวิหารเกือบทั้งหมดถูกไฟใหม้ บาทหลวงอเล็กซานเดอร์ (Alexander of Lincoln) จึงสร้างและขยายใหม่แต่ก็อยู่ได้เพียง 40 ปีก็มาถูกทำลายโดย[[แผ่นดินไหว]] เมื่อปี ค. ศ. 1185
 
หลังจากแผ่นดินไหวก็มีบาทหลวงใหม่มาปกครอง--บาทหลวงฮิว (Hugh of Lincoln) จากอวาลอน (Avalon) [[ประเทศฝรั่งเศส]] ผู้ต่อมาได้เป็น[[นักบุญ]] บาทหลวงฮิวก็เริ่มก่อสร้างและขยายมหาวิหารอย่างใหญ่หลวง การบูรณะเริ่มที่ทางท้ายวัดตรงมุขและคูหาสวดมนต์มนต์ต์รอบจรมุข ทางเดินกลางสร้างแบบ[[สถาปัตยกรรมกอธิค]]อังกฤษสมัยต้น มหาวิหารลิงคอล์นใช้วิธีการก่อสร้างที่ล่าสุดในสมัยนั้นเช่น เพดานโค้งแหลม กำแพง[[ค้ำยันแบบปีก]] และเพดานโค้งแหลมแบบมีสัน (ribbed vault) สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้กำแพงหลักไม่ต้องรับน้ำหนักจากหลังคาและตัวกำแพงทั้งหมด จึงทำให้สามารถสร้างหน้าต่างที่กว้างกว่าเดิมได้มาก
 
เมื่อพูดถึงเนื้อที่ใช้สอยภายในมหาวิหาร มหาวิหารลิงคอล์นใหญ่เป็นที่ 3 ใน[[สหราชอาณาจักร]]รองจาก[[มหาวิหารยอร์ค]] และ [[โบสถ์เซนต์ปอล|มหาวิหารเซ็นต์พอล]] ที่กรุงลอนดอนโดยมีเนื้อที่ 484 ฟุตคูณ 271 ฟุต หอคอยของมหาวิหารเป็นหอที่สูงที่สุดในยุโรปใน[[ยุคกลาง]] นอกจากนั้นก็ยังมี[[ระฆัง]]ใหญ่ที่เรียกกันว่า “Great Tom of Lincoln” ที่ติดตั้งเมื่อต้นศตวรรษที่ 19 และจะตีบอกเวลาทุก 15 นาที
บรรทัด 14:
[[หน้าต่างกุหลาบ]]บนแขนกางเขนทางด้านเหนือ -- Dean's Eye – สร้างเมื่อค. ศ. 1192 บูรณะโดยนักบุญฮิว (St Hugh) มาเสร็จเมื่อเมื่อค. ศ. 1235 ทางด้านใต้ -- Bishop’s Eye -- บูรณะเมื่อ ค. ศ. 1330
 
ราวประมาณปีค.ศ. 1237 หรือ 1239 หอกลางของวัดก็ทลายลงมา เมื่อค. ศ. 1255 ชาวเมืองลิงคอล์นยื่นคำร้องต่อ[[สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 3|พระเจ้าเฮนรีที่ 3]]ขอให้รื้อกำแพงเมืองบางส่วนลงเพื่อที่จะได้ขยายมหาวิหารและสร้างหอและยอดใหม่ ทางด้านหลังวัดก็สร้างคูหาสวดมนต์มนต์ต์ใหญ่แทนคูหาสวดมนต์มนต์ต์เดิมที่สร้างโดยนักบุญฮิวเพื่อรับนักแสวงบุญที่มาสักการะนักบุญฮิวที่เพิ่มมากขึ้น
 
ระหว่างปี ค.ศ. 1307 ถึงปี ค.ศ. 1311 หอกลางที่สูง 271 ฟุตก็สร้างเสร็จ หอทางด้านตะวันตกก็มีการบูรณะและต่อเติมจนสูงถึง 525 ฟุตซึ่งทำให้เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกในสมัยนั้นสูงกว่า[[ปิรามิดกีซา]]ที่เป็นครองตำแหน่งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกเป็นเวลา 4000 ปี แต่ก็มาถูกพายุพัดทลายลงมาเมื่อปี ค.ศ. 1549
บรรทัด 22:
เมื่อปี ค.ศ. 1290 พระราชินีของ [[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1|พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1]] เอเลเนอร์แห่งคาสตีล (Eleanor of Castile) สิ้นพระชนม์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดจึงทรงจัดให้มีขบวนศพอย่างสมพระเกียรติ หลังจากทำศพซึ่งในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 หมายถึงการควักเครื่องในออก เครื่องในที่ถูกควักออกมานี้ก็เอาฝังไว้ที่มหาวิหารลิงคอล์นเอง ชุดเทียมเอาไปฝังไว้ที่[[เวสท์มินสเตอร์แอบบี]] โลงศพที่มหาวิหารลิงคอล์นยังมีอยู่แต่อนุสรณ์ของพระนางถูกทำลายเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่มาสร้างแทนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 ด้านนอกของมหาวิหารมีรูปปั้นเด่นสองรูปปั้นที่เชื่อกันว่าเป็นรูปปั้นของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดและพระราชินีแต่รูปปั้นนี้ถูกซ่อมแซมอย่างไม่ปราณีตเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19
 
เมื่อปี ค.ศ. 1398 จอห์น กอนท์ (John of Gaunt) และแค็ทเธอริน สวินฟอร์ด (Katherine Swynford) สร้างคูหาสวดมนต์มนต์ต์ (chantry) เพื่อเอาไว้สวดมนต์มนต์ต์แก่วิญญาณของเขา เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 15 ก็มีการสร้างคูหาสวดมนต์เพิ่มขึ้นมนต์ต์เพิ่มขึ้น คูหาสวดมนต์มนต์ต์ติดกับบริเวณสงฆ์ Angel Choir เป็นแบบกอธิคสูง (Perpendicular gothic) ซึ่งเน้นเส้นดิ่งหรือความเพรียว ลักษณะนี้จะเห็นได้จากลวดลายหน้าต่างและการตกแต่งผนัง
 
== มหากฎบัตร ==
บาทหลวงแห่งลิงคอล์นเป็นผู้หนึ่งที่ลงนามใน “[[มหากฎบัตร|แม็กนา คาร์ตา]]” มหาวิหารจึงเป็นที่เก็บเอกสารนี้ไว้ฉบับหนึ่งในจำนวนทั้งหมดด้วยกันสี่ฉบับเป็นเวลาหลายร้อยปี แต่ปัจจุบันเอกสารฉบับนี้ย้ายไปเก็บไว้ที่ปราสาทลิงคอล์น อีกสองฉบับอยู่ที่[[หอสมุดแห่งชาติอังกฤษ]] และฉบับที่สี่อยู่ที่[[มหาวิหารซอลท์สบรีซอลสบรี]]
 
== อิมพ์แห่งลิงคอล์น ==
[[Imageภาพ:LincCathplanDehio.jpg|thumb|200px|แผนผังมหาวิหาร]]
[[ปนาลี]]หรือการ์กอล์ย ตัวหนึ่งของมหาวิหารเรียกว่า “Lincoln Imp” ซึ่งที่มามาจากหลายตำนาน
ตำนานหนึ่งจากคริสต์ศตวรรษที่ 14 กล่าวว่า [[ซาตาน]]ส่งสัตว์เจ้าเล่ห์สองตัวที่เรียกว่า “Imps” มากวนโลก หลังจากที่ก่อความวุ่นวายทางภาคเหนือของอังกฤษ[[อิมพ์]]สองตัวก็เดินทางมาลิงคอล์น พอมาถึงมหาวิหารก็ทำลายโต๊ะและเก้าอี้และทำให้บาทหลวงสะดุดล้ม อิมพ์ตัวหนึ่งนั่งบนยอดเสาเอาก้อนหินขว้างขณะที่อีกตัวหนึ่งนั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะ อิมพ์ตัวที่โยนหินถูกสาปให้เป็นหินที่เรียกว่า Lincoln Imp นั่งอยู่บนเสาหินภายในบริเวณสงฆ์ Angel Choir อยู่ทุกวันนี้
บรรทัด 34:
อิมพ์อีกตัวหนีไปกริมสบี (Grimsby) ไปก่อความวุ่นวายต่อ ในที่สุดก็เข้าไปในวัดเซ็นต์เจมส์และไปก่อความยุ่งยากเช่นที่มหาวิหารลิงคอล์น เทวดาก็เลยมาปรากฏตัวแล้วตีก้นอิมพ์ป้าบใหญ่ก่อนที่จะสาปให้เป็นหินเหมือนตัวแรก กริมสบีจึงมี “Grimsby Imp” ที่มือหนึ่งกุมก้นที่ถูกเทวดาตี
 
== หอสมุดเร็น ==
หอสมุดเร็น (Wren library) มีหนังสือโบราณต้นฉบับทั้งหมด 277 เล่มรวมทั้งหนังสือที่เขียนโดยบุญราศีบีด (Venerable Bede) ผู้เขียนจดหมายเหตุที่เป็นกลายมาเป็นเอกสารสำคัญที่ที่สุดในการบันทึกประวัติศาตร์อังกฤษเป็นครั้งแรก
 
== ปัจจุบัน ==
[[Imageภาพ:Inside Lincoln.jpg||thumb|250px|ภายในทางด้านตะวันออกทางบริเวณร้องเพลงสวดเซ็นต์ฮิว]]
เว็ปไซท์ของมหาวิหารกล่าวว่ามหาวิหารใช้งบประมาณกว่า 70 ล้านบาทต่อปีในการบำรุงรักษาวัด โครงการหลังสุดที่ทำคือการบูรณะด้านหน้าเมื่อ ค.ศ. 2000 ประมาณ 10 ปีก่อนหน้านั้นทางมหาวิหารพบว่ากำแพงค้ำยันทางตะวันออกแยกออกจากตัวอาคารจึงจำเป็นต้องซ่องก่อนที่มหาวิหารจะทลายลงมา อีกปัญหาที่พบคือหินที่หน้าต่างกุหลาบทางด้านเหนือเริ่มผุกร่อน และนอกจากนั้นยังพบว่าถ้าหินเลื่อนไปเพียง 5 มิลลิเมตรหน้าต่างก็จะพังลงมา ทางวัดก็เลยรื้อหน้าต่างเดิมออกและสร้างหน้าต่างใหม่แทน
 
ทุกสี่ปีทางมหาวิหารจัดละครลึกลับที่เรียกว่า “Lincoln Mystery Plays” ซึ่งมีผู้ชมมาจากทั่วโลก โครงเรื่องนำมาจากบทละครที่เขียนโดยคีธ แรมเซย์ (Keith Ramsay) เมื่อ ค.ศ. 1978 ละครครั้งต่อไปจะเล่นในปี ค.ศ. 2008
 
== เกร็ด ==
* มหาวิหารใช้เป็นฉากในนวนิยายเรื่อง “สายรุ้ง” (The Rainbow) เขียนโดย ดี เอช ลอเรนซ์ (D.H. Lawrence) ที่เกิดขึ้นที่มหาวิหารลิงคอล์น
* เค็น ฟอลเล็ท (Ken Follett) กล่าวถึงมหาวิหารลิงคอล์นในนวนิยายเรื่อง “หลักของโลก”
บรรทัด 49:
* มหาวิหารใช้เป็นฉาก[[เวสท์มินเตอร์แอบบี]]อีกครั้งหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง “พระราชินีนาถวิคตอเรียเมื่อยังทรงพระเยาว์” (Young Victoria) เมื่อปี ค.ศ. 2007 <ref>[http://www.guardian.co.uk/comment/story/0,,2157327,00.html หนังสือพิมพ์การ์เดียน] </ref>
 
== อ้างอิง ==
<references />
* "Lincoln Cathedral: Official Guide", Diocese of Lincoln