ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จันทร์ ขนนกยูง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mugornja (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว
ย้อนการแก้ไขของ Mugornja (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย พุทธามาตย์
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
บรรทัด 1:
{{issues|เพิ่มอ้างอิง=yes|ไม่เป็นสารานุกรม=yes}}
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกา '''จันทร์ ขนนกยูง''' (20 มกราคม พ.ศ. 2453-10 กันยายน พ.ศ. 2543) เป็น[[แม่ชี]]ผู้ก่อตั้ง[[วัดพระธรรมกาย]]
 
คุณยายจันทร์เป็นบุตรชาวนา เมื่อเจริญวัยขึ้นได้ทำงานเป็นคนรับใช้และฝึก[[วิชชาธรรมกาย]]กับ[[พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)]] [[วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ]] จนกระทั่งมีการอ้างว่า สามารถลงไปขอขมาบิดาซึ่งกำลังตกนรกอยู่ได้ พระมงคลเทพมุนียกย่องคุณยายจันทร์ว่า "ลูกจันทร์นี้เป็นหนึ่งไม่มีสอง"<ref name="หนึ่งไม่มีสอง">[http://www.dhammakaya.net/รู้จักเรา/มหาปูชนียาจารย์/มหารัตนอุบาสิกาจันทร์/ ลูกจันทร์นี้ หนึ่งไม่มีสอง], ลูกจันทร์นี้ หนึ่งไม่มีสอง</ref> ต่อมา คุณยายอุบาสิกาจันทร์ได้ถ่ายทอดวิชาธรรมกายให้แก่[[พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย]] แล้วชวนกันก่อตั้งวัดพระธรรมกาย คุณยายอุบาสิกาจันทร์ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหลายประการของวัดพระธรรมกายด้วย
 
== ประวัติ ==
คุณยายจันทร์เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2453 ซึ่งตรงกับ วันพฤหัสบดี ขึ้น 10 ค่ำ เดือนยี่ ปีระกา ที่[[อำเภอนครไชยศรี]] [[จังหวัดนครปฐม]] คุณยายนางเป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้องชายหญิงทั้งหมด 9 คน มีบิดาชื่อ พลอย มีมารดาชื่อ พัน ซึ่งประกอบอาชีพทำนา ฐานะของครอบครัวจัดอยู่ในระดับปานกลาง<ref>[http://www.dhammakaya.net/WhoWeAre/founder_khunyay_timeln_th.php FLASH ประวัติคุณยายอาจารย์ฯ]</ref> มารดาของคุณยายจันทร์มีฐานะดีกว่าบิดา ในสมัยเด็กมีความใกล้ชิดกับมารดามากกว่าบิดา มารดาเป็นคนใจดี ชอบทำขนมให้ลูก ๆ รับประทาน ส่วนบิดาเป็นคนติดสุรา จึงมักทะเลาะกับมารดาเสมอ
 
ด้วยเหตุที่บิดาติดสุรา เมื่อมึนเมามักบ่นพึมพำ มารดารู้สึกรำคาญ จึงตะโกนออกไปว่า "ไอ้นกกระจอก อาศัยรังเขาอยู่" เมื่อบิดาของคุณยายจันทร์ได้ยินก็โกรธจัด จึงถามลูก ๆ ว่าได้ยินที่แม่ด่าว่าพ่อไหม คุณยายจันทร์ไม่อยากให้บิดาและมารดาทะเลาะกันจึงกล่าวว่า มารดากล่าวเช่นนั้นคงไม่ได้หมายถึงบิดา ทำให้บิดาโกรธมากจึงแช่งว่าขอให้จันทร์หูหนวก 500 ชาติ ทำให้คุณยายจันทร์กลัวมาก เพราะเชื่อว่าคำพูดของบิดามารดานั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากแช่งลูกอย่างไรย่อมจะเป็นเช่นนั้น เมื่อคุณยายจันทร์อายุได้ 13 ปี บิดาได้เสียชีวิตในวันที่คุณยายจันทร์กำลังอยู่ในท้องนา ทำให้ไม่ได้มาขอขมาบิดาก่อนเสียชีวิต ซึ่งความรู้สึกกลัวนั้นยังคงติดอยู่ในใจของคุณยายจันทร์ตลอดมา จนกระทั่งเวลาผ่านไปทำให้ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำหรือที่รู้จักกันในอีกนามหนึ่งคือ [[พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)]] ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส[[วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ]] ว่า สามารถสอนสมาธิเพื่อไปเยี่ยมญาติที่เสียชีวิตแล้วได้ ไปนรก สวรรค์ และนิพพานได้ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คุณยายจันทร์ปรารถนาที่จะศึกษาวิธีการนั่งสมาธิเพื่อไปขอขมาบิดาในปรโลกเพื่อให้ตนไม่ต้องหูหนวกในชาติต่อ ๆ ไป.
 
=== เส้นทางธรรม ===
ปี พ.ศ. 2478 เมื่อคุณยายจันทร์อายุได้ 26 ปี จึงตัดสินใจลามารดาและพี่น้อง เพื่อหาทางไปวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยอ้างว่าจะไปหางานทำ ทุกคนจึงเข้าใจว่าคุณยายนางอยากได้เงินทอง จึงออกปากมอบทรัพย์สมบัติให้ แต่คุณยายนางไม่รับ แต่กลับมอบทรัพย์สินส่วนของตน อันได้แก่ เงิน และ ที่ดินส่วนที่เป็นมรดกให้พี่น้อง แล้วลามารดาโดยนำเงินติดตัวไป 2 บาท
 
ในสมัยนั้นการเข้าไปอยู่ในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นเรื่องไม่ง่ายนักเพราะที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มีพระและแม่ชีอยู่จำนวนมาก คุณยายจันทร์จึงวางแผนไปทำงานรับใช้เลี๊ยบ สิกาญจนานันท์ เศรษฐินีย่านสะพานหัน ซึ่งเป็นโยมอุปัฏฐากคนสำคัญของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และมักไปทำบุญที่วัดเป็นประจำ คุณยายจันทร์ยอมทำงานรับใช้ทุกอย่างเพื่อให้เจ้านายไว้วางใจ (รับใช้เยี่ยงทาส) จนกระทั่งได้พบกับอาจารย์ผู้สอนธรรมปฏิบัติให้แก่เลี๊ยบ ซึ่งมีชื่อว่า[[ทองสุก สำแดงปั้น]] ซึ่งในขณะนั้นเป็นแม่ค้าขายมะพร้าวกะทิและเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ทองสุกได้สอนธรรมปฏิบัติให้แก่คุณยายจันทร์ จนกระทั่งคุณยายจันทร์ได้เข้าถึงพระธรรมกาย และมีการอ้างว่า ทองสุกพาคุณยายจันทร์ไปพบบิดาที่ยมโลกของมหานรกขุมที่ 5 (มหาโรรุวมหานรก) เพราะกรรมดื่มสุราเป็นอาจิณ คุณยายจันทร์ยังอ้างด้วยว่า เมื่อขอขมาบิดาแล้ว จึงช่วยให้บิดาอาราธนาศีล 5 และนำบิดาให้พ้นจากยมโลก<ref name="เข้าสู่เส้นทางธรรม">[http://main.dou.us/view_content.php?s_id=192 เข้าสู้เส้นทางธรรม], เข้าสู่เส้นทางธรรม</ref>
 
=== ออกบวช ===
ปี พ.ศ. 2481 เมื่อคุณยายจันทร์อ้างว่าได้พบบิดาในนรกแล้ว จึงลาคุณนายเลี๊ยบไปบวชที่วัดปากน้ำ 1 เดือน โดยไปกับทองสุกซึ่งในขณะนั้นมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคุณยายจันทร์ได้พบกับหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ได้เข้าศึกษาวิชาธรรมกายในโรงงานทำวิชชาตั้งแต่วันแรกที่พบกัน ซึ่งการจะผ่านเข้าไปปฏิบัติธรรมขั้นสูงในโรงงานทำวิชชานั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักต้องผ่านการทดสอบหลายอย่างก่อนที่จะได้เข้าไป<ref name="ออกบวช">[http://main.dou.us/view_content.php?s_id=193 ออกบวช], ออกบวชที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ</ref> เมื่อได้เรียนรู้ธรรมปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกายมากขึ้น ทำให้คุณยายจันทร์เกิดความซาบซึ้งในธรรมปฏิบัติอย่างยิ่ง จึงได้ชวนทองสุกโกนผมออกบวชเป็นอุบาสิกาในคืนก่อนวันครบกำหนด 1 เดือนที่ได้ลาคุณนายเลี๊ยบมาปฏิบัติธรรมนั่นเอง<ref name="ออกบวช"/>
 
=== การก่อสร้างศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมและวัดพระธรรมกาย ===
มีการอ้างว่า ก่อนที่หลวงพ่อสดจะถึงแก่มรณภาพ ได้มีคำสั่งให้คุณยายจันทร์อยู่รอชายคนหนึ่งที่มาเกิดแล้วที่จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อจะได้ถ่ายทอดวิชาธรรมกายให้แก่ชายคนนั้น เพื่อขยายพระพุทธศาสนาวิชาธรรมกายไปให้ทั่วโลก<ref name="การก่อสร้างศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมและวัดพระธรรมกาย">[http://main.dou.us/view_content.php?s_id=194 สร้างวัดพระธรรมกาย], การก่อสร้างศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมและวัดพระธรรมกาย</ref> ชายคนนั้นคือไชยบูลย์ สุทธิผล หรือต่อมาคือพระไชยบูลย์ ธมฺมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
 
คุณยายจันทร์ได้พบและสั่งสอนธรรมปฏิบัติให้แก่ไชยบูลย์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นนิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ บริเวณวัดปากน้ำภาษีเจริญ ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 บ้านธรรมประสิทธิ์มีนิสิต นักศึกษา และสาธุชน มาปฏิบัติธรรมกับคุณยายจันทร์ จนทำให้พื้นที่ดังกล่าวไม่อาจรองรับการปฏิบัติธรรมได้อีก ไชยบูลย์มีดำริร่วมกันกับคุณยายจันทร์ที่จะสร้างวัดขึ้น เพื่อรองรับการเผยแผ่ธรรมปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกาย จึงคิดหาพื้นที่สร้างวัด จนกระทั่งพบที่ดินที่เหมาะสม จึงได้ติดต่อขอซื้อที่ดินจาก คุณหญิงประหยัด แพทยพงศาวิสุทธาธิบดี แต่เนื่องจากวันที่ไปเจรจาขอซื้อที่ดินนั้น ตรงกับวันเกิดของคุณหญิง คุณหญิงจึงยกที่ดินผืนดังกล่าวให้โดยไม่คิดมูลค่า มีจำนวนพื้นที่รวม 196 ไร่ 9 ตารางวา อยู่ ณ ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี<ref>พระจันทร์วันเพ็ญ 1. กรุงเทพมหานคร : วัชระออฟเซ็ท, 2544.</ref>
 
ในปี พ.ศ. 2512 เมื่อไชยบูลย์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามคำแนะนำของคุณยายจันทร์ว่า ให้ศึกษาปริญญาทางโลกให้จบเสียก่อน จึงค่อยอุปสมบทเป็นภิกษุ ไชยบูลย์จึงอุปสมบทเป็นภิกษุที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในวันที่ 27 สิงหาคม ซึ่งต่อมาวัดพระธรรมกายได้กำหนดให้วันดังกล่าวคือ "วันธรรมชัย"
 
การก่อสร้างศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมได้สร้างอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการก่อสร้างศาลาสำหรับปฏิบัติธรรมและกุฏิเสร็จสิ้นลงในปี พ.ศ. 2518 พระไชยบูลย์และคุณยายจันทร์จึงย้ายจากบ้านธรรมประสิทธิ์มาอยู่ที่ศูนย์พุทธจักปฏิบัติธรรม คุณยายจันทร์ได้ตั้งกฎระเบียบภายในวัดด้วยตนเองทงหมดทั้งหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งความมีระเบียบและความสะอาด ซึ่งได้นำประสบการณ์เมื่อครั้งที่อยู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มาใช้ และเนื่องจากวัดเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ การเทศน์สอนให้ลึกซึ้งยังทำได้ไม่สะดวกนัก คุณยายจันทร์จึงได้สั่งสอนญาติโยมด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญต่อการปฏิบัติธรรม ซึ่งก็คือ ความมีระเบียบ สะอาด เช่น การวางรองเท้า ไม้กวาด ผ้าขี้ริ้ว ถังขยะ โดยสอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำไปเพื่อให้ใจของผู้ที่มาปฏิบัติธรรมนั้น ใส สะอาด สว่าง สงบ
 
ประมาณปี พ.ศ. 2528 เมื่อมีผู้เข้ามาปฏิบัติธรรมมากจนพื้นที่วัด 196 ไร่ ไม่อาจรองรับได้ [[มูลนิธิธรรมกาย]]จึงได้ซื้อที่ดินเนื้อที่ 2,000 ไร่เศษ จากกองมรดกของ ม.ร.ว. สุวพันธุ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เพื่อจัดสร้างเป็นศูนย์กลางแห่งการปฏิบัติธรรม
 
=== ประธานงานบุญกฐินสามัคคี ===
ปี พ.ศ. 2531 คุณยายจันทร์ได้ขอพระไชยบูลย์เป็นประธานกฐินครั้งแรกในชีวิด ซึ่งในครั้งนั้นได้ทำการทอดกฐินสามัคคี ณ สภาธรรมกายสากลหลังคาจาก วัดพระธรรมกาย ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 และได้มีการทอดกฐิน ที่วัดพระธรรมกายเรียกว่า กฐินคุณยาย โดยการนำชื่อคุณยายจันทร์มาเป็นประธานกฐิน ต่อมา ได้มีการทอดกฐินเนื่องในการระลึกถึงคุณยายนางอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2553 และมีการสร้างอาคารเพื่อระลึกนึกถึงคุณยายในนางในโอกาสครบรอบ 100 ปีของอายุคุณยายนาง ชื่อว่า อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์จันทร์ ขนนกยูง
 
=== ชีวิตบั้นปลาย ===
ปีพ.ศ. 2537-2541 สุขภาพของคุณายจันทร์อ่อนแอลงมาก ไม่สามารถออกมาต้อนรับและสอนศิษยานุศิษย์ได้ เช้ามืดของวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2543 คุณยายจันทร์ได้เสียเสียชีวิตด้วยโรคชรา ณ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น กรุงเทพฯ
 
หลังจากการเสียชีวิตของคุณยายจันทร์ พระไชยบูลย์มีดำริให้สวดอภิธรรมติดต่อกันเป็นเวลา 500 วัน ณ บ้านแก้วเรือนทอง ซึ่งต่อมาคือพื้นที่ของ โรงเรียนอนุบาลผันในฝันวิทยา ที่อยู่ด้านเหนือของสภาธรรมกายสากล
 
พระไชยบูลย์ได้เลือกวันฌาปนกิจศพของคุณยายจันทร์ คือวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นวันที่เดียวกับที่หลวงพ่อสดและทองสุกได้มรณภาพ ซึ่งในเวลาต่อมาทางวัดพระธรรมกายได้กำหนดให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี คือ วันมหาปูชนียาจารย์
 
ในงานฌาปนกิจศพคุณยายจันทร์ พระไชยบูลย์จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ โดยถวายหนังสือฎีกาที่พระไชยบูลย์ขณะมีสมณศักดิ์เป็นพระเทพญาณมหามุนีลงชื่อเองเพื่อนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทั่วเมืองไทยจาก 30,000 วัดทั่วประเทศไทยมางานร่วมกับศิษยานุศิษย์กว่า 200,000 คน
 
ภายหลังการฌาปนกิจศพ มีการอ้างว่ากระดูกของคุณยายจันทร์เปลี่ยนเป็นรัตนชาติ<ref name="ชีวิตช่วงสุดท้าย">สุนิดา นาคเสน. อยู่กับยาย. กรุงเทพมหานคร : ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์, 2545.</ref> คือเป็นทอง ทับทิม และ แก้ว จึงบรรจุไว้ภายในมหารัตนธาตุเจดีย์ ประดิษฐาน ณ บ้านแก้วเรือนทองคุณยายฯ หรือโรงเรียนอนุบาลฝ้นในฝันวิทยา ซึ่งปัจจุบันได้ถูกรื้อถอนไปในเดือนพฤษภาคม 2553 ส่วนอัฐิของคุณยายจันทร์นั้นย้ายไปไว้ที่วิหารคุณยายฯ (ทรงปิรามิด) ในวันวิสาขบูชาที่ 4 มิถุนายน 2555 แต่บ้านแก้วเรือนทองคุณยายฯ ห้องกระจกที่เคยเป็นที่บรรจุรัตนอัฐิธาตุฯ นั้น ยังคงไว้เหมือนเดิม
 
== อนุสรณ์ ==
สำหรับอนุสรณ์ที่พระไชยบูลย์ได้มีดำริให้ก่อสร้างขึ้นโดยอาศัยปัจจัยจากศิษยานุศิษย์ ได้แก่
# หอฉัน: หอฉันที่วัดพระธรรมกาย ได้ตั้งชื่อตามผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกายว่า "หอฉันคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง" หรือ เรียกโดยย่อว่า "หอฉันคุณยาย" สามารถรองรับพระภิกษุได้มากถึง 6,000 รูป โดยในแต่ละวัน จะมีสาธุชนมาร่วมกันถวายภัตตาหารและน้ำปานะแด่พระภิกษุสามเณร จำนวนกว่า 1,200 รูป ซึ่งประจำอยู่ ณ วัดพระธรรมกาย หอฉันมีพื้นที่กว้างขวางนี้ มักใช้เป็นสถานที่ต้อนรับพระภิกษุสามเณรอาคันตุกะ และยังเป็นที่รวมตัวกันของพระภิกษุสงฆ์เพื่อการสวดมนต์ การประชุม พร้อมทั้งเป็นสถานที่สำหรับสาธุชนในการถวายภัตตาหาร และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ที่เหมาะสมต่อนักบวช เช่น ผ้าไตรจีวร คิลานเภสัช เครื่องอุปโภค ผ้าห่ม ดอกไม้ ดอกบัว พวงมาลัย และอื่น ๆ
# มหาวิหารคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง: สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ผู้สถาปนาวัดพระธรรมกาย โดยเหล่าศิษยานุศิษย์ของคุณยายจันทร์ ทั้งพระภิกษุและสาธุชน ร่วมกันประกอบพิธีตอกเสาเข็มต้นแรก สถาปนามหาวิหารฯ เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2545 มหาวิหารฯ เสร็จสมบูรณ์ในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2546 ทั้งพระภิกษุและสาธุชน ร่วมกันประกอบพิธีอัญเชิญรูปเหมือนทองคำของคุณยายจันทร์ไปประดิษฐาน ณ ศูนย์กลางของมหาวิหารฯ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 มหาวิหารฯ เป็นสถาปัตยกรรมทรง[[พีระมิด]]หกเหลี่ยมสีทอง มหาวิหารฯ ตั้งอยู่ท่ามกลางสระน้ำและแมกไม้อันร่มรื่นภายในวัดพระธรรมกาย มหาวิหารฯ มีพื้นที่ใช้ประโยชน์ 2 ชั้น โดยที่ชั้นที่ 1 ได้จัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับผลงานที่คุณยายจันทร์ได้สร้างและอุทิศไว้ในพระพุทธศาสนา และจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของคุณยายจันทร์ เพื่อบ่งบอกถึงความเรียบง่าย สมถะในการใช้ชีวิตของผู้ที่รักการปฏิบัติธรรม การเป็นผู้สอนธรรมะ และผู้สถาปนาวัดพระธรรมกาย ส่วนชั้นที่ 2 สร้างไว้สำหรับเป็นห้องปฏิบัติธรรม โดยมีรูปหล่อทองคำแท้ของอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ตั้งอยู่ ณ กลางห้องปฏิบัติธรรม<ref>[http://www.dhammakaya.net/visitorzone/detail_page_05_th.php มหาวิหารคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง]</ref>
# อาคารร้อยปีคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง: ในปี พ.ศ. 2552 พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระไชยบูลย์) ได้ดำริให้สร้างอาคารเพื่อเป็นอนุสรณ์และบูชาธรรมแก่คุณยายจันทร์ อีกหลังหนึ่งทดแทนพื้นที่ที่เคยเป็นสภาธรรมกายสากลหลังคาจากที่ได้เคยใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมตั้งแต่ครั้งสร้างวัดพระธรรมกายได้ไม่นานนัก ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของวัด เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นห้องปฏิบัติธรรมของพุทธบริษัทสี่ขนาดใหญ่ เป็นห้องประชุมทางด้านวิชาการทางพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติ โดยมีเจตจำนงให้เป็นฐานที่ตั้งด้านวิชาการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลกและวิธีปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน โดยให้ชื่ออาคารหลังนี้ว่า "อาคารร้อยปี คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง" โดยมีการระดมทุนร่วมปัจจัยสร้างโดยการทอดกฐินสามัคคี ซึ่งให้ชื่อว่า "กฐินบรมจักรพรรดิ์" ในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
 
== เสียงวิพากษ์ ==
มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับคุณยายจันทร์ ขนนกยูง ที่สังคมเห็นว่าเป็นเรื่องหลอกลวง เช่น เรื่องเล่าจากวัดพระธรรมกายว่า คุณยายจันทร์ ขนนกยูงเหาะขึ้นอากาศไปปัด[[ระเบิดปรมาณู]]ใน[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ให้พ้นจากประเทศไทยไปตกที่[[การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโระชิมะและนะงะซะกิ|เมืองฮิโระชิมะและนะงะซะกิ]] ประเทศญี่ปุ่นแทน และทำให้ผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก <ref>ประภาศรี บุญสุข, คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงผู้ให้กำเนิดวัดธรรมกาย พิมพ์ครั้งที่ 2 (ฉบับปรับปรุง) หน้า 55-56 ISBN 9748962083 หรือ[http://www.kalyanamitra.org/book/pdf/his_yay.pdf หนังสือออนไลน์]</ref> ได้มีการอภิปรายเรื่องเล่านี้ใน[[บริการเครือข่ายสังคม]]และ[[กระทู้อินเทอร์เน็ต]] เช่นเว็บ[[พันทิป.คอม]] โดยมีการคำนวณแรงที่ต้องใช้ในการปัดระเบิดอย่างคร่าว ๆ และแสดงให้เห็นว่าการปัดระเบิดเป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์<ref>http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/08/X5729877/X5729877.html</ref> นอกจากนี้ยังมีการเขียนบทความหรือเรื่องราวขึ้นมาล้อคุณยายจันทร์ ขนนกยูงมากมาย<ref name = "ล้อเลียน">เช่น [http://drama-addict.com/2010/06/26/%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94/ เว็บดราม่าแอดดิก] จาก[[ดราม่าแอดดิก.คอม]] หรือ[http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99_%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%87 เว็บอันไซโคลพีเดีย] จาก[[อันไซโคลพีเดีย]]</ref>
 
== อ้างอิง ==