ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฌอน คอนเนอรี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
KAEWSA-ARD (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 40:
}}
[[ไฟล์:ConneryKilt.jpg|thumb|200px|right|ฌอน คอนเนอรี ในงานเทศกาลของชาวสกอตแลนด์ ที่จัดในกรุงวอชิงตันดีซี]]
[[ไฟล์:Sean_Connery_2.jpg|thumb|200px|ฌอน คอนเนอรี ในสมัยรับบทเจมส์ บอนด์|link=Special:FilePath/Sean_Connery_2.jpg]]
'''ฌอน คอนเนอรี''' (Sean Connery) มีชื่อจริงว่า '''เซอร์โธมัส ฌอน คอนเนอรี''' (Sir Thomas Sean Connery, 25 สิงหาคม ค.ศ. 1930 – 31 ตุลาคม ค.ศ. 2020) ที่เมือง[[เอดินเบอระ]] [[แคว้นสกอตแลนด์]] [[สหราชอาณาจักร]] บิดาชื่อว่า โจเซฟ คอนเนอรี (Joseph Connery) นับถือศาสนา[[คริสต์]]นิกาย[[โรมันคาทอลิก]] ในขณะที่มารดา อูฟาเมีย แม็คลีน (Euphamia Maclean) นับถือศาสนา[[คริสต์]]นิกาย[[โปรแตสแตนท์]] เขาเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกใน[[ค.ศ. 1954]] แต่รับบทเป็นเพียงตัวประกอบเล็ก ๆ ไม่มีบทบาทสำคัญใด ๆ ในภาพยนตร์เรื่อง ''Lilacs in the Spring'' การรับบทตัวละครสำคัญ ๆ ครั้งแรกของฌอน คือใน [[ค.ศ. 1957]] นับเป็นการก้าวสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว และไม่นานก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนได้อย่างรวดเร็ว
 
ต่อมา ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็น (EON Productions) จะทำภาพยนตร์ชุดบอนด์เดอะซีรีส์ โดยสร้างภาพยนตร์จากนวนิยายสายลับของ [[เอียน เฟลมมิ่ง]] เขาจึงได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับบทเจมส์ บอนด์คนแรก และเริ่มแสดงภาพยนตร์ชุดบอนด์ โดยภาพยนตร์ชุดบอนด์ตอนแรกได้ออกฉายเป็นครั้งแรกใน[[ค.ศ. 1962]] ชื่อตอนคือ ''[[Dr. No]]'' หรือชื่อภาษาไทยว่า ''พยัคฆ์ร้าย 007'' ด้วยทุน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กวาดรายได้ถล่มทลายถึง 59,600,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อเทียบเป็นค่าของเงินใน[[ค.ศ. 2008]] แล้วจะได้ถึง 425,488,741 ดอลลาร์สหรัฐ เขาและอีโอเอ็นจึงเดินหน้าถ่ายทำตอนถัด ๆ ไปเรื่อย ๆ ถึง 5 ตอน [[จอร์จ ลาเซนบี้]] ก็เข้ามารับบทเป็นเจมส์ บอนด์แทน แต่เขาไม่สามารถชนะใจแฟน ๆ ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ได้ ฌอน คอนเนอรี จึงต้องกลับมารับบทเจมส์บอนด์อีกตอนหนึ่ง คือ ''[[Diamonds Are Forever]]'' หรือ ''เพชรพยัคฆราช'' และเป็นตอนสุดท้ายที่เขาแสดงให้ค่ายอีโอเอ็น แต่ต่อมาเขาก็มาแสดงบทเจมส์ บอนด์ในภาพยนตร์อีกค่ายหนึ่งที่ไม่ใช่ค่ายอีโอเอ็นอีกใน[[ค.ศ. 1983]] ชื่อว่าตอน ''[[Never Say Never Again]]'' หรือ ''พยัคฆ์เหนือพยัคฆ์'' และเขายังแสดงภาพยนตร์อยู่เรื่อย ๆ มาอีกหลายสิบปี