ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ช้างแมมมอธ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 40:
แมมมอธ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ใน[[ยุคหินเก่า]] ด้วยการล่าเอาเนื้อเป็นอาหาร หนังและไขมันเป็นเครื่องสร้างความอบอุ่น จนมีภาพเขียนสีบนผนังถ้ำหลายแห่งที่ปรากฏภาพ การล่าแมมมอธด้วยอาวุธที่ทำจาก[[หิน]]ในยุคนั้น <ref name="แมมมอธ"/>
[[ภาพ:Mammuthus.jpg|thumb|250px|left|ภาพเปรียบเทียบขนาดของมนุษย์กับแมมมอธแต่ละชนิด]]
แมมมอธ
เชื่อว่า แมมมอธสูญพันธุ์ไปเพราะถูกล่าโดยมนุษย์จนหมด แต่จากการศึกษาด้านพันธุกรรมศาสตร์และ[[ดีเอ็นเอ]]พบว่า แมมมอธนั้นมีสายสัมพันธ์ใกล้เคียงกับ ''[[Elephas]]'' หรือช้างเอเชียที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนปัจจุบัน จึงมีความพยายามจากนักวิทยาศาสตร์ที่จะ[[โคลนนิง]]ตัวอ่อนของแมมมอธให้เกิดขึ้นมาให้ได้ โดยให้แม่ช้างเอเชียเป็นฝ่ายอุ้มท้อง จากการสกลัด[[นิวเคลียส]]จากซากดึกดำบรรพ์ของลูกแมมมอธที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะถูกแช่แข็งในน้ำแข็ง จากไขกระดูกบริเวณต้นขา<ref name="ช้าง">[http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000158124 สักวันเราคงโคลน “แมมมอธ” สำเร็จด้วยแม่อุ้มบุญ “ช้างเอเชีย” จากผู้จัดการออนไลน์]</ref> และจากหลักฐานใหม่ที่ได้ทำการศึกษาพบว่า แมมอธสูญพันธุ์ไปเพราะสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากกว่า โดยประชากรในยุโรปเกือบสูญพันธุ์ไปก่อนหน้านั้นเมื่อ 20,000-30,000 ปีก่อน จากนั้นเมื่อ 14,000 ปีก่อน โลกเริ่มมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น จึงพากันสูญพันธุ์ เนื่องจากสภาพร่างกายที่ใหญ่และมีขนยาวปกคลุมลำตัว <ref>[http://www.thairath.co.th/content/edu/372244 มนุษย์รอดพ้นบาป ช้างโบราณสูญพันธุ์ จากไทยรัฐ]</ref>
|