ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทีเกอร์ 2"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ขนาดของลำกล้องปืนรถถัง |
||
บรรทัด 34:
==ประวัติ==
ทีเกอร์ 2 เป็นรุ่นต่อจาก[[ทีเกอร์ 1]] เนื่องจากการคาดการณ์ของเสนาธิการเยอรมันว่า โซเวียตกำลังผลิตรถถังที่ทรงอานุภาพมากยิ่งขึ้น รถถังรุ่นนี้ก็ถูกผลิตโดยสองบริษัท[[เฮนเซล]]และ[[ปอร์เช่]] แต่สองบริษัทนั้นได้ออกแบบรถถังที่มีความแตกต่างกันโดยเฉพาะป้อมปืน ป้อมปืนของปอร์เช่มีข้อด้อยกว่าของเฮนเซลเพราะส่วนโค้งด้านหน้าป้อมของปอร์เช่นั้นมีความหนา 110 มิลลิเมตร บางกว่าป้อมของเฮนเซลถึง 70 มิลลิเมตร และป้อมผ.บ.รถของปอร์เช่ที่ยื่นออกมานั้นมีเกราะที่บางมากซึ่งอันตรายมากหากถูกยิง กองทัพเยอรมันเลิกใช้ป้อมปืนของปอร์เช่และหันมาใช้ป้อนปืนของเฮนเซลแทน (ในตอนแรกป้อมปืนของปอร์เช่ถูกผลิตออกมาเพียง 50 ป้อมเท่านั้น) นอกจากเกราะที่หนาแล้ว ทีเกอร์ 2 ยังติด
[[แฟร์ดีนันท์ พอร์เชอ]] ตั้งชื่อเล่นพร้อมกับทีเกอร์ 1 หลังจากทีเกอร์ 2 ถูกผลิตขึ้น โดยแท้จริงแล้ว ยานเกราะชนิดนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการ คือ Panzerkampfwagen VI Ausführung B Tiger 2 แต่อย่างไรก็ตามเหล่าทหารเยอรมันได้ตั้งชื่อเล่นอีกชื่อว่า คิงทีเกอร์ (KingTiger)
ข้อมูลการรบเท่าที่มีการบันทึกไว้ คือข้อมูลของทหารสหรัฐในยุทธการที่ป่าอาร์เดนส์ ประเทศ[[เบลเยียม]] หรือที่เรียกว่า [[ยุทธการตอกลิ่ม]] โดยคิงทีเกอร์ได้สร้างความตกตะลึงให้แก่ฝ่ายพันธมิตรอย่างมาก เพราะพวกเขาพบว่า ปืนใหญ่แทบทุกชนิดของฝ่ายพันธมิตร ไม่สามารถสร้างความเสียหายใด ๆ ให้คิงทีเกอร์ได้เลย อีกทั้งยังสามารถทำลายรถถังกลางเชอร์แมนไปถึง 47 คัน แต่อย่างไรก็ตามรถถังคิงทีเกอร์เป็นรถถังที่รับน้ำหนักมากทำให้เกิดปัญหากินน้ำมันจนทำให้น้ำมันในตัวหมดซึ่งทางกองทัพเยอรมันไม่มีน้ำมันมากพอที่จะเติมมันได้ ทำให้พลขับรถถังต้องสละทิ้งรถถังไปทำให้การรุกของกองทัพเยอรมันต้องหยุดชะงักลงและพ่ายแพ้ในที่สุด
แต่ข้อมูลการรบของฝ่ายเยอรมันนั้นแทบไม่มีเลย เพราะมีข้อมูลที่เปิดเผยในช่วงหลังสงครามว่า ในช่วงปลายสงครามและเยอรมนีใกล้แพ้ ศูนย์ยุทธการทหารบกเยอรมันที่เมือง[[พ็อทซ์ดัม]]ได้เผาทำลายเอกสารข้อมูลและรูปถ่ายที่ได้มาระหว่างสงครามไปเกือบหมด รวมทั้งข้อมูลของคิงทีเกอร์ด้วย ซึ่งถ้าพิจารณาทฤษฏีนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า ข้อมูลของคิงทีเกอร์นั้นได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว
|