ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซูสีไทเฮา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม) ย้อนกลับไปรุ่นที่ 9030459 โดย ES Geqias: มีรูปถ่าย ก็ควรใช้รูปถ่าย มากกว่ารูปวาด เพราะแสดงตัวตนทางประวัติศาสตร์ได้ดีกว่าด้วยสจห. ป้ายระบุ: ทำกลับ |
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{ความหมายอื่น}}
{{Infobox royalty
| name =
| image = The Ci-Xi Imperial Dowager Empress (5).JPG
| image_size = 250px
| succession1 = [[
| reign-type1 = ระยะเวลา
| reign1 = 22 สิงหาคม ค.ศ. 1861 – 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1908
| predecessor1 = [[ฉืออันไท่โฮ่ว]] (慈安皇太后)
| successor1 = [[จักรพรรดินีหลงยฺวี่|หลง
| succession2 = [[
| reign-type2 = ระยะเวลา
| reign2 = ค.ศ. 1908
| predecessor2 = [[เจา
| successor2 = – (ยุบจักรวรรดิ)
| father = [[ฮุ่ยเจิง]] (惠徵)
บรรทัด 28:
}}
'''
ในวัยเยาว์ พระนางได้รับเลือกเป็นพระชายาของจักรพรรดิเสียนเฟิง และให้กำเนิดพระโอรส คือ [[ไจ้ฉุน]] (載淳) ใน ค.ศ. 1856 ต่อมาใน ค.ศ. 1861 จักรพรรดิเสียนเฟิงสิ้นพระชนม์ ไจ้ฉุนซึ่งยังเล็กได้เสวยราชย์เป็นจักรพรรดิถงจื้อ พระนางยึดอำนาจรัฐจาก[[กู้มิ่งปาต้าเฉิน|องคมนตรี]] แล้วขึ้นสำเร็จราชการแทนจักรพรรดิพระองค์น้อยพร้อมด้วย[[
แม้พระนางจะไม่ยอมรับรูปแบบการปกครองแบบตะวันตก แต่พระนางก็สนับสนุน[[ทัพใหม่|การปฏิรูปทางทหาร]]และทางวิทยาการ รวมถึง[[ขบวนการสร้างตนให้แกร่ง]] (自強運動) พระนางยังเห็นชอบกับหลัก[[การปฏิรูปร้อยวัน]] (百日維新) เมื่อ ค.ศ. 1898 แต่ก็เกรงว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันโดยปราศจากความสนับสนุนของข้าราชการนั้นจะนำมาซึ่งความโกลาหล ทั้งจะเป็นโอกาสให้มหาอำนาจญี่ปุ่นและชาติอื่น ๆ เข้าแทรกแซง เมื่อจักรพรรดิกวังซฺวี่สนับสนุนนักปฏิรูปหัวรุนแรง และพระนางเชื่อว่า จักรพรรดิพยายามจะลอบสังหารพระนาง พระนางจึงจับจักรพรรดิไปขังไว้ ณ [[ตำหนักหาน-ยฺเหวียน]] (涵元殿) บนเกาะ[[อิ๋งไถ]] (瀛台) กลางสระน้ำใน[[พระที่นั่งจงหนานไห่]] (中南海) และให้ประหารนักปฏิรูปหัวรุนแรง ภายหลัง [[กบฏนักมวย]] (庚子拳亂) เป็นชนวนให้มหาอำนาจต่างชาติในนาม "[[พันธมิตรแปดชาติ]]" (八國聯軍) เข้ารุกรานประเทศ พระนางสนับสนุนให้กบฏนักมวยออกเข่นฆ่าต่างชาติ และประกาศสงครามกับผู้รุกราน แต่เมื่อพ่ายแพ้ พระนางจึงหันมาเป็นมิตรกับชาวต่างชาติ และเริ่มนโยบายที่เรียก "[[การปกครองแบบใหม่]]" (新政) เพื่อนำประเทศไปสู่ระบอบการปกครองแบบ[[ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ]] ทว่า ใน ค.ศ. 1908 พระนางสิ้นพระชนม์ก่อนการปฏิรูปจะเป็นผล ราชสำนักตกอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มอนุรักษนิยม โดยมี[[ผู่อี๋]] (溥儀) จักรพรรดิเด็ก อยู่บนบัลลังก์ ทั้งประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองไม่หยุดหย่อน นำไปสู่การสิ้นสุดของระบอบกษัตริย์ราชวงศ์ชิงเมื่อประเทศกลายเป็นสาธารณรัฐใน ค.ศ. 1912
บรรทัด 45:
* น้องชายสามคน
** น้องชายคนที่สอง: กุ้ยเสียง (桂祥; ค.ศ. 1849–1913), ดำรงตำแหน่ง[[ตูถ่ง]] (都統) ในกองทัพ, มีฐานันดรศักดิ์ "ซันเติ้งกง" เหมือนบิดา
*** บุตรสาว: [[จักรพรรดินีหลงยฺวี่|จิ้งเฟิน]] (靜芬; ค.ศ. 1868–1913), ภายหลัง คือ [[จักรพรรดินีหลงยฺวี่|หลง
* น้องสาว: [[หว่านเจิน]] (婉貞; ค.ศ. 1841–1896)
** บุตรชาย: [[ไจ้เถียน]] (載湉; ค.ศ. 1871–1908), ภายหลัง คือ [[จักรพรรดิกวังซฺวี่]] (光緒帝)
บรรทัด 95:
! colspan=4 | รัชศก[[จักรพรรดิถงจื้อ|ถงจื้อ]] (同治; ค.ศ. 1861–1875)
|-
| ซูสีฮองไทเฮา (ฮกเกี้ยน)/ฉือสี่หฺวังไท่โฮ่ว (มาตรฐาน) (慈禧皇太后)
| รัชศกเสียนเฟิง ปีที่ 11 เดือน 7 วันที่ 17
| 22 สิงหาคม ค.ศ. 1861
| ในฐานะพระมารดาของจักรพรรดิ ได้รับยศพระชนนีพันปีหลวง คือ "ฮองไทเฮา/หฺวังไท่โฮ่ว" (皇太后
|-
! colspan=4 | รัชศก[[จักรพรรดิกวังซฺวี่|กวังซฺวี่]] (宣統; ค.ศ. 1875–1908)
|-
| ซูสีไทฮองไทเฮา (ฮกเกี้ยน)/ฉือสี่ไท่หฺวังไท่โฮ่ว (มาตรฐาน) (慈禧太皇太后)
| รัชศกกวังซฺวี่ ปีที่ 34 เดือน 10 วันที่ 21
| 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1908
| เลื่อนเป็นยศ
|-
! colspan=4 | รัชศก[[จักรพรรดิผู่อี๋|เซฺวียนถ่ง]] (宣統; ค.ศ. 1908–1912)
บรรทัด 129:
ใน ค.ศ. 1854 พระนางได้รับเลื่อนขึ้นขั้น 5 ฐานันดรศักดิ์ "อี้ผิน" (懿嬪) ครั้น ค.ศ. 1855 พระนางทรงพระครรภ์ และในวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 1856 ประสูติพระโอรส คือ [[ไจ้ฉุน]] จากนั้น พระนางได้รับเลื่อนขึ้นขั้น 4 มีฐานันดรศักดิ์ว่า "อี้เฟย์" (懿妃)<ref>Laidler, Keith (2003), "The Last Empress" (p. 58), John Wiley & Sons Inc., {{ISBN|0-470-84881-2}}.</ref> ใน ค.ศ. 1857 ไจ้ฉุนพระชันษาครบ 1 ปี พระนางซึ่งเป็นพระมารดาของไจ้ฉุนได้รับเลื่อนขึ้นขั้น 3 ฐานันดรศักดิ์ว่า "อี้กุ้ยเฟย์" (懿貴妃) มีศักดิ์เป็นรองเพียงนางหนิ่วฮู่ลู่
ข้อที่ทำให้พระนาง
==การสวรรคตของจักรพรรดิเสียนเฟิง==
บรรทัด 137:
เมื่อสิ้นจักรพรรดิเสียนเฟิงแล้ว พระโอรส[[ไจ้ฉุน]] พระชนม์ 5 ชันษา ก็ได้สืบราชสมบัติต่อเป็น[[จักรพรรดิถงจื้อ]] เชื่อกันว่า ก่อนสิ้นพระชนม์ จักรพรรดิเสียนเฟิงทรงเรียกพระชายา คือ พระนาง กับนางหนิ่วฮู่ลู่ มาเข้าเฝ้าข้างพระที่ แล้วประทานตราให้ ด้วยมุ่งหวังให้ช่วยกันประคับประคองจักรพรรดิพระองค์ใหม่ซึ่งยังทรงพระเยาว์นัก บ้างก็ว่า ที่ทรงทำเช่นนั้นเพื่อให้พระชายาทั้งสองเข้ามาคานอำนาจผู้สำเร็จราชการทั้งแปด แต่เรื่องราวเหล่านี้ไม่มีหลักฐานยืนยัน<ref>[Sui Lijuan: Carrying out the Coup. CCTV-10 Series on Cixi, Ep. 4]</ref>
เมื่อจักรพรรดิถงจื้อขึ้นเสวยราชย์แล้ว พระนาง ในฐานะพระมารดา ก็ได้เลื่อนเป็น[[#ฐานันดรศักดิ์|
==รัฐประหารซินโหย่ว==
ในเวลาที่จักรพรรดิเสียนเฟิงสิ้นพระชนม์นั้น พระนาง
คณะองคมนตรีเองก็ไม่ชอบใจที่พระนาง
เมื่อขบวนพระศพออกเดินทางจากเร่อเหอ พระนาง
พระนาง
การยึดอำนาจครั้งนี้เป็นที่รู้จักด้วยชื่อ "[[รัฐประหารซินโหย่ว]]" (辛酉政變) เพราะเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1861 ซึ่งปฏิทินจีนเรียกว่า ปีซินโหย่ว
บรรทัด 155:
===ศักราชใหม่===
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1861 ไม่กี่วันหลังรัฐประหารซินโหย่ว พระนาง
ในการว่าราชการหลังม่านนั้น พระนาง
แม้จะมีอำนาจตัดสินใจเด็ดขาด แต่พระนาง
===การปรับปรุงระบบขุนนาง===
พระนาง
นอกจากนี้ พระนาง
พระนาง
=== อิทธิพลจากต่างชาติ ===
บรรทัด 175:
[[ไฟล์: Zuo Zongtang.jpg|thumb|170px|left|จั่วจงถัง <small>(10 พฤศจิกายน 1792—5 กันยายน 1855)</small>, วาดในปี 1895]]
พระนาง
เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว ในปี 1863 ผู้สำเร็จราชการแทนพระองคฺ์ทั้งสองจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติจัดตั้ง'''วิทยาลัยถงเหวินกว่าน''' ({{zh-all|c=同文館|p=Tóng Wén Guǎn; "วิทยาลัยสหวิทยาการ"}}) ขึ้นใน[[ปักกิ่ง|กรุงปักกิ่ง]] เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ภาษาตะวันตก และต่อมาได้ขยายครอบคลุมถึงการเรียนรู้วิทยาการและนวัตกรรมต่างประเทศด้วย<ref>Biggerstaff, Knight. '''The earliest modern government schools in China,''' Ithaca: Cornell University Press, 1961.</ref>
บรรทัด 183:
อนึ่ง ในครั้งนั้นยังได้มีการจัดส่งชายหนุ่มจำนวนหนึ่งไปศึกษาเล่าเรียนในต่างประเทศอีกด้วย
อย่างไรก็ดี นโยบายของรัฐบาลจีนดังกล่าวดำเนินไปได้ไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากด้านการทหารนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปใหม่ทั้งระบบ แต่พระนาง
ส่วนด้านวิชาการนั้นก็ประสบอุปสรรค เนื่องจากพระราชอัธยาศัยและวิธีการคิดเก่า ๆ แบบ[[อนุรักษนิยม]]ของพระนาง
ในการก่อสร้างทางรถไฟหลวงนั้น พระนาง
พระนาง
=== การบรรลุนิติภาวะของพระเจ้าถงจื้อ ===
|