ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประวัติศาสตร์ไทย"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล ย้อนการแก้ไขของ Annop Nakabut (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Horus ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
Annop Nakabut (คุย | ส่วนร่วม) ป้ายระบุ: ทำกลับ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1:
{{กึ่งล็อก|small=yes}}
{{ประวัติศาสตร์ไทย}}
'''ประวัติศาสตร์ไทย''' เชื่อว่ามีมนุษย์อยู่อาศัยอยู่ถาวรในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันมาแล้วประมาณ 40,000 ปี เดิมชาวมอญ เขมรและมลายูปกครองพื้นที่ดังกล่าว โดยมีอาณาจักรใหญ่ เช่น [[อาณาจักรฟูนาน|ฟูนาน]] [[อาณาจักรทวารวดี|ทวารวดี]] [[อาณาจักรหริภุญชัย|หริภุญชัย]] [[จักรวรรดิเขมร]] และ[[อาณาจักรตามพรลิงก์|ตามพรลิงก์]] ส่วนบรรพบุรุษ[[ไทยสยาม]]ปัจจุบันซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม[[ชาวไท|ชาวไท-ไต]]เป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่ในแถบ[[เดียนเบียนฟู]]ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 8 และเริ่มเข้ามาอยู่อาศัยในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 11 รัฐของชาวไทเกิดขึ้นจำนวนมากในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ประมาณปี 1780 [[พ่อขุนบางกลางหาว]]รวบรวมกำลังกบฏต่อเขมร และตั้ง[[อาณาจักรสุโขทัย]] เหนือขึ้นไป [[พญามังราย]]ทรงตั้ง[[อาณาจักรล้านนา]]ในปี 1839 มีศูนย์กลางอยู่ที่[[เวียงเชียงใหม่|เชียงใหม่]] ทรงรวบรวมแว่นแคว้นขึ้นในแถบลุ่ม[[แม่น้ำปิง]] ส่วนบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างมีการตั้งสหพันธรัฐในบริเวณเพชรบุรี [[แคว้นสุพรรณภูมิ|สุพรรณบุรี]] ลพบุรีและอยุธยาในคริสต์ศตวรรษที่ 11 นักประวัติศาสตร์กระแสหลักมักเลือกนับสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของคนไทย
อาณาจักรอยุธยาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1893 ต่อมาเป็นใหญ่แทนจักรวรรดิเขมร และแทรกแซงอาณาจักรสุโขทัยอย่างต่อเนื่องจนสุดท้ายถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยา [[สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ]]ทรงจัดการปกครองโดยแบ่งพลเรือนกับทหารและจตุสดมภ์ซึ่งบางส่วนใช้สืบมาจนถึงรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] และทรงริเริ่ม[[ระบบเจ้าขุนมูลนาย]] ทำให้ประชากรส่วนใหญ่เป็นไพร่ใช้แรงงานปีละ 6 เดือน กรุงศรีอยุธยาเริ่มติดต่อกับชาติตะวันตกเมื่อ พ.ศ. 2054 หลังจากนั้นในปี 2112 [[การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง|กรุงศรีอยุธยาตกเป็นประเทศราช]]ของราชวงศ์ตองอูแห่งพม่า [[สมเด็จพระนเรศวรมหาราช]]ทรงประกาศอิสรภาพในอีก 15 ปีให้หลัง กรุงศรีอยุธยายังติดต่อกับชาติตะวันตก จนรุ่งเรืองถึงขีดสุดในรัชกาล[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]] ความขัดแย้งภายในติด ๆ กันหลายรัชกาลใน[[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]] และการสงครามกับ[[ราชวงศ์คองบอง]] (อลองพญา) จนส่งผลให้[[การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง|เสียกรุงครั้งที่สอง]]เมื่อปี 2310 หลังจากนั้นบ้านเมือง[[สภาพจลาจลหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง|แตกออกเป็นชุมนุมต่าง ๆ]] [[สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี|เจ้าตาก]]ทรงรวบรวมแผ่นดินและขยายอาณาเขต หลังเกิดความขัดแย้งช่วงปลายรัชกาล พระองค์และพระราชโอรสทั้งหลายทรงถูกสำเร็จโทษโดย[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก]] ปฐมกษัตริย์แห่ง[[ราชวงศ์จักรี]] ผู้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นในปี 2325
เส้น 30 ⟶ 31:
=== หลักฐานยุคก่อนประวัติศาสตร์ ===
[[ไฟล์:BlackCeramicBanChiangCultureThailand1200-800BCE.jpg|thumb|upright=0.8|เครื่องปั้นดินเผาวัฒนธรรมบ้านเชียง 1200-800 ปีก่อน
นักโบราณคดี[[ประเทศเนเธอร์แลนด์|ชาวฮอลันดา]] ดร. เอช. อาร์. แวน ฮิงเกอเรน ได้ขุดค้นพบเครื่องมือหินเทาะซึ่งทำขึ้นโดยมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณใกล้สถานีบ้านเก่า [[จังหวัดกาญจนบุรี]] โดยมีข้อสันนิษฐานว่ามนุษย์เหล่านี้อาจเป็น ''มนุษย์ชวาและมนุษย์ปักกิ่ง''<ref>วัลลภา รุ่งศิริแสงรัตน์. (2545). '''บรรพบุรุษไทย: สมัยก่อนสุโขทัยและสมัยสุโขทัย.''' โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ISBN 974-13-1780-8. หน้า 2.</ref> ซึ่งอยู่อาศัยเมื่อประมาณ 5 แสนปีมาแล้ว อันเป็นหลักฐานใน[[ยุคหินเก่า]]
เส้น 38 ⟶ 39:
[[อาณาจักรฟูนาน]]เป็นอาณาจักรแรกสุดและทรงอำนาจที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจริญขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล โดยมีอาณาเขตครอบคลุมภาคกลางของประเทศไทยและทั้งประเทศกัมพูชาปัจจุบัน โดยมีเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการค้าทางทะเลและเกษตรกรรม มีการติดต่อการค้าอย่างใกล้ชิดกับอินเดียและเป็นฐานสำหรับนักเผยแผ่ศาสนาฮินดู<ref name="loc">{{cite book |author= Barbara Leitch LePoer |title= Thailand: A Country Study |url= |location= |publisher= Federal Research Devision, Library of Congress |page= |date= 1989 |isbn= 978-0739715666}}</ref>{{rp|5}}
[[ไฟล์:Map-of-southeast-asia 900 CE.png|thumb|left|250px|แผนที่อินโดจีนใน
ต่อมา ชาวมอญอาศัยช่วงที่ฟูนานเสื่อมลงตั้งอาณาจักรของตนใน
[[อาณาจักรตามพรลิงก์]]เป็นรัฐมลายูที่ควบคุมการค้าผ่านช่องแคบมะละกาที่ทรงอำนาจที่สุด เจริญขึ้นใน
=== การเข้ามาตั้งถิ่นฐานของคนไท ===
[[ไฟล์:TaiFamilyTree Overlaid On Map.png|thumb|300px|แผนที่แสดงการกระจายทางภูมิศาสตร์ของผู้พูด[[ตระกูลภาษาขร้า-ไท|ภาษาตระกูลขร้า-ไท]] จะเห็นรูปแบบทั่วไปของการย้ายถิ่นของเผ่าที่พูดภาษาไทตามแม่น้ำและช่องเขาต่าง ๆ<ref name="chris">{{cite book |last1= Baker |first1= Chris |author-link1= คริส เบเคอร์ |last2= Phongpaichit |first2= Pasuk |author-link2= ผาสุก พงษ์ไพจิตร |date= 2017 |title= A History of Ayutthaya |url= https://books.google.com/books?id=GHiuDgAAQBAJ&lpg=PP1&pg=PA27#v=onepage&q&f=false |location= |publisher= Cambridge University Press |page= |isbn= 9781107190764}}</ref>{{rp|27}}]]
{{ดูเพิ่มที่|แนวคิดเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของชนชาติไท}}
เดวิด วัยอาจเขียนว่า บรรพชนของคนไท-ไตที่อาศัยอยู่ในอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ พม่า ยูนนานใต้ ไทยและลาวปัจจุบัน คือ กลุ่มไท-ไตที่อยู่แถบ[[เดียนเบียนฟู]]ใน
มีการกล่าวถึงชาวไทยสยามครั้งแรกใน[[นครวัด]]ใน
ในช่วง
เมื่อ[[จักรวรรดิเขมร]]และ[[อาณาจักรพุกาม]]เสื่อมอำนาจเมื่อต้น
== อาณาจักรของคนไท ==
{{บทความหลัก|อาณาจักรสุโขทัย|อาณาจักรล้านนา}}
[[ไฟล์:Wat Mahathat Sukhothai before sunset.jpg|thumb|[[วัดมหาธาตุ (จังหวัดสุโขทัย)|วัดมหาธาตุ]] [[อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย]]]]
เมื่อสิ้น
[[พญามังราย]] (ครองราชย์ 1802–
== อาณาจักรอยุธยา ==
{{บทความหลัก|อาณาจักรอยุธยา}}
[[ไฟล์:Wat Phra Sri Sanphet 01.jpg|thumb|[[วัดพระศรีสรรเพชญ์]] [[อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา]]]]
ประมาณ
[[สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1|พระเจ้าอู่ทอง]] (ครองราชย์ 1893–1912) ทรงก่อตั้ง[[อาณาจักรอยุธยา]]ในปี 1893 พระองค์ทรงยกทัพไปตี[[นครธม]] เมืองหลวงของจักรวรรดิเขมร จนสามารถปกครองเมืองได้ช่วงสั้น ๆ<ref name="Wyatt"/>{{rp|102}} [[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1]] (ครองราชย์ 1913–31) ทรงหันไปสนพระทัยกับหัวเมืองเหนือ และทำสงครามกับสุโขทัยตลอดรัชกาล จนบังคับให้สุโขทัยยอมรับอำนาจเหนือของอยุธยาได้<ref name="Wyatt"/>{{rp|102}} มีวิกฤตการสืบราชสมบัติอยู่เนือง ๆ ระหว่างราชวงศ์สุพรรณบุรีและลพบุรีอยู่หลายชั่วคน จนราชวงศ์สุพรรณบุรีชนะในปี 1952<ref name="ชาญวิทย์"/>{{rp|15}} ในรัชกาล[[สมเด็จพระอินทราชา]] (ครองราชย์ 1952–67) กรุงศรีอยุธยาเข้าไปแทรกแซงการเมืองภายในสุโขทัย เริ่มจากลดฐานะเจ้าผู้ครองเป็นเจ้าสวามิภักดิ์ เข้าไปตัดสินปัญหาการสืบราชสมบัติ จนผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยาในปี 1987<ref name="Wyatt"/>{{rp|104}} ในรัชกาล[[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2]] (ครองราชย์ 1967–91) นครธมถูกกองทัพอยุธยาตีแตก จนปกครองนครธมในฐานะหัวเมืองประเทศราชช่วงสั้น ๆ ก่อนถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง<ref name="Wyatt"/>{{rp|105–6}} [[สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ]] (ครองราชย์ 1991–2031) ทรงรับช่วงการสงครามกับล้านนาต่อ พระองค์ยังทรงสร้างระบบควบคุมกำลังคนทำให้กรุงศรีอยุธยาได้เปรียบเหนือดินแดนเพื่อนบ้าน โดยมีระบบการควบคุมไพร่ปีละหกเดือนให้สังกัดขุนนางท้องถิ่น<ref name="Wyatt"/>{{rp|107}} ระบบราชการเริ่มใช้ตามรูปแบบของจักรวรรดิเขมร คือ สร้างความห่างเหินระหว่างกษัตริย์กับราษฎร และควบคุมขุนนางด้วยเอกสารลายลักษณ์อักษรแทนการสวามิภักดิ์<ref name="Wyatt"/>{{rp|108–9}} พระองค์ยังทรงออกกฎหมายจัดลำดับชั้นและแบ่งแยกหน้าที่ในสังคมที่ซับซ้อน ทรงตั้ง[[จตุสดมภ์]]และเพิ่มตำแหน่งกลาโหมและมหาดไทย<ref name="ชาญวิทย์">{{cite book |last= เกษตรศิริ |first= ชาญวิทย์ |date= 2548 |title= อยุธยา: ประวัติศาสตร์และการเมือง |url= |location= |publisher= โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |isbn= 9740157273 |author-link= }}</ref>{{rp|30}}
เส้น 86 ⟶ 87:
== กรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ==
=== กรุงธนบุรี ===
{{บทความหลัก|สภาพจลาจลหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง|อาณาจักรธนบุรี}}
[[ไฟล์:พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร (10).jpg|thumb|200px|พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้า
หลังกรุงศรีอยุธยาแตกในปี 2310 บ้านเมืองตกอยู่ในภาวะ[[อนาธิปไตย]] พม่าที่ติดพันใน[[สงครามจีน-พม่า|การสงครามกับจีน]]จึงเหลือกองทหารเล็ก ๆ ไว้รักษากรุงเก่าเท่านั้น บ้านเมืองแตกออกเป็น 5 ชุมนุม ได้แก่ [[กรมหมื่นเทพพิพิธ|ชุมนุมเจ้าพิมาย]]ที่นครราชสีมา [[เจ้าพระยาพิษณุโลก (เรือง โรจนกุล)|ชุมนุมเจ้าพิษณุโลก]] [[ชุมนุมเจ้าพระฝาง]]ที่[[เมืองสวางคบุรี|เมืองสวางคบุรี (ฝาง)]] ชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช และชุมนุมเจ้าตาก เจ้าตากเริ่มสร้างฐานอำนาจที่จันทบุรีแล้วใช้เวลาไม่ถึงปีขยายอำนาจทั่วภาคกลางของประเทศไทยปัจจุบัน<ref name="Wyatt"/>{{rp|220–1}} [[สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี]] (ครองราชย์ 2310–25) หลังปราบดาภิเษกแล้ว ทรงเลือกกรุงธนบุรีเป็นราชธานีซึ่งมีทำเลเหมาะแก่การค้าทางทะเล ทรงใช้เวลาอีกสามปีรวบรวมหัวเมืองที่เคยขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาเป็นหนึ่งอีกครั้ง<ref name="Wyatt"/>{{rp|223}} พระองค์ยังทรงขยายอิทธิพลไปยังดินแดนใกล้เคียง หัวเมืองมลายูตรังกานูและปัตตานีส่งเครื่องราชบรรณาการให้กรุงธนบุรี ทรงผลักดันเจ้ากัมพูชาให้ขึ้นครองราชย์ และทรงให้ความช่วยเหลือแก่พระเจ้ากรุงเวียงจันในการสงคราม นอกจากนี้ ยังทรงขับทหารพม่าออกจากล้านนาได้ในปี 2319 ทำให้ล้านนาเป็นประเทศราชของกรุงธนบุรีนับแต่นั้น<ref name="Wyatt"/>{{rp|224–5}} จากนั้นโปรดให้ยกทัพไปปราบหัวเมืองตะวันออก โดยนครเวียงจันถูกตีแตกในปี 2321 และมีการอัญเชิญ[[พระแก้วมรกต]]มาประดิษฐาน<ref name="Wyatt"/>{{rp|227–8}} ในช่วงปลายรัชกาล มีบันทึกว่าพระองค์มีพระสติฟั่นเฟือนเพราะบังคับให้พระสงฆ์กราบไหว้และสั่งลงโทษพระสงฆ์ที่ไม่ยอมตาม อย่างไรก็ดี น่าจะเป็นเรื่องแต่งเติมเพราะพระองค์เป็นคนนอกไม่มีพื้นเพเป็นตระกูลผู้ดีเก่ากรุงศรีอยุธยามากกว่า<ref name="Wyatt"/>{{rp|229–30}} ปลายปี 2324 กลุ่มชนชั้นนำต่างคิดเห็นว่าควรปลดสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสีย ครั้นปี 2325 เกิดกบฏพระยาสรรค์ เจ้าพระยาจักรีที่กำลังยกทัพไปปราบกบฏในกัมพูชาในปีเดียวกันจึงยกทัพกลับมารักษาความสงบในกรุง และสำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี<ref name="Wyatt"/>{{rp|230–1}}
เส้น 94 ⟶ 95:
=== กรุงเทพมหานคร ===
{{หลัก|อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์)}}
[[ไฟล์:อนุสาวรีย์รัชกาลที่1 027.jpg|thumb|200px|พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ณ [[เขตพระนคร]] พระองค์ทรงเป็นผู้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์]]
[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก]] (ครองราชย์ 2325–52) ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่ง[[ราชวงศ์จักรี]] และทรงย้ายเมืองหลวงมายัง[[กรุงเทพมหานคร]] ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีการขนย้ายอิฐกำแพงกรุงศรีอยุธยาเดิมมาสร้างเป็นกำแพงพระนครแห่งใหม่ด้วย<ref name="Wyatt"/>{{rp|233–4}} พระองค์ทรงให้ปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ มีการออกกฎคณะสงฆ์ สังคายนาพระไตรปิฏก ทรงให้ฟื้นฟูขนบธรรมเนียมอย่างกรุงศรีอยุธยาซึ่งถือเป็นยุคทอง โปรดให้จัดทำประมวลกฎหมาย ชื่อ [[กฎหมายตราสามดวง]]
รัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]] (ครองราชย์ 2352–67) ถือเป็นยุคทองแห่งศิลปะ และสงบสุขเกือบตลอดรัชกาล กัมพูชากลายเป็นสนามรบระหว่างกรุงเทพมหานครและเวียดนาม สุดท้ายเวียดนามครอบงำกัมพูชาอยู่หลายสิบปีหลังปี 2356 แต่กรุงเทพมหานครเข้าควบคุมพื้นที่กว้างขวางขึ้นในกัมพูชา<ref name="Wyatt"/>{{rp|257–9}} หลังจากอิทธิพลของอังกฤษในภูมิภาคเพิ่มขึ้นจากการได้มะละกา [[ปีนัง|เกาะหมาก (ปีนัง)]] และ[[สิงคโปร์]] ในปี 2364 ข้าหลวงใหญ่อังกฤษประจำอินเดียส่ง[[จอห์น ครอว์เฟิร์ด]]เข้ามาเจรจาค้าขาย แต่ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกลับไป<ref name="Wyatt"/>{{rp|271,273}}
ในรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]] (ครองราชย์ 2367–94) รัฐบาลอังกฤษในอินเดียส่ง[[เฮนรี เบอร์นี]]เข้ามาเจรจากับกรุงเทพมหานคร โดยขอให้ส่งเสบียงช่วยเหลือหรือไม่ก็วางตนเป็นกลางใน[[สงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่หนึ่ง]] (2367–
ฝ่าย[[เจ้าอนุวงศ์]] (ครองราชย์ 2348–71) แห่งเวียงจันหลังทราบข่าวกรุงเทพมหานครเตรียมรับศึกอังกฤษ ก็หมายฉวยโอกาสโจมตีกรุงเทพมหานครเพื่อกวาดต้อนผู้คนไปไว้ในราชอาณาจักร ในปี 2369 [[กบฏเจ้าอนุวงศ์|ก่อกบฏ]]โดยยกทัพเข้ามายึดนครราชสีมา ฝ่ายกรุงเทพมหานครหยุดยั้งการบุกเอาไว้ได้ และส่งกองทัพไปตีกรุงเวียงจันได้สำเร็จ<ref name="Wyatt"/>{{rp|283–4}} แต่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวยังไม่พอพระทัยที่จับเจ้าอนุวงศ์ไม่ได้ และมีพระราชประสงค์ให้ทำลายเวียงจันให้สิ้นซาก ในปี 2370 มีการส่งกองทัพอีกกองหนึ่งขึ้นไปตีกรุงเวียงจันที่เจ้าอนุวงศ์ตีกลับคืนไปได้อีกครั้ง ครั้งนี้มีการทำลายอาคารบ้านเรือนทั้งหมดจนสิ้นซาก และกวาดต้อนผู้คนมาอยู่ในแถบภาคกลางของประเทศไทยปัจจุบัน คณะสำรวจฝรั่งเศสอีกสี่สิบปีถัดมาบันทึกว่าเวียงจันยังเป็นเมืองร้าง<ref name="Wyatt"/>{{rp|284–5}} หลังจากนั้นอีกหลายสิบปี กรุงเทพมหานครยังกวาดต้อนชาวลาวเข้ามาตั้งรกรากในที่ราบสูงโคราช ผลทำให้[[หัวเมืองลาวอีสาน]]เพิ่มขึ้นประมาณ 40 เมืองซึ่งเกิดจากชาวลาวที่กวาดต้อนมา<ref name="Wyatt"/>{{rp|285–6}} ฝ่ายมลายูทางใต้ กรุงเทพมหานครปรับนโยบายเป็นให้เจ้ามลายูปกครองกันเองหลังเกิดกบฏขึ้น 2 ครั้งในปี 2374 และ 2381 จากนั้นในภูมิภาคดังกล่าวก็มีระเบียบและความมั่นคงพอสมควร<ref name="Wyatt"/>{{rp|287–9}} ฝ่ายทางตะวันออก กรุงเทพมหานครรบกับเวียดนามเพื่อแย่งชิงอิทธิพลเหนือกัมพูชาอีกครั้ง เรียก [[อานัมสยามยุทธ]] (2376–90) สุดท้ายทั้งสองตกลงกันโดยให้เจ้ากัมพูชาส่งเครื่องราชบรรณาการให้ทั้งสองอาณาจักร<ref name="Wyatt"/>{{rp|290–2}}
เส้น 150 ⟶ 152:
| align = right
| width = 120
| image1 = Field Marshal Plaek Phibunsongkhram
| caption1 = <center>จอมพล<br />[[แปลก พิบูลสงคราม]]</center>
| image2 = Official portraits of Sarit Thanarat.jpg
เส้น 230 ⟶ 232:
{{รายการอ้างอิง|3}}
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* {{cite book |author= กรมศิลปากร |title= ประวัติศาสตร์ชาติไทย |url= http://www.finearts.go.th/parameters/search/หนังสืออิเล็กทรอนิกส์/book/119.html |location= กรุงเทพ |publisher= บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) จำกัด |page= |date= 2558 |isbn= 9786162832253 }}
|