ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชินโซ อาเบะ"

อาเบะเกิดที่เมือง[[นางาโตะ]] [[จังหวัดยามางูจิ]] และได้ศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่[[มหาวิทยาลัยเซเกะ]] และศึกษาต่อที่[[มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย]] ใน[[สหรัฐอเมริกา]] ภายหลังจบการศึกษา ได้ทำงานกับบริษัท[[โคเบะสตีล]] และได้ลาออกในปี 2525 เพื่อเข้ามาเล่นการเมือง เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2550 นายอาเบะได้ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเขาและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะได้ลาออกพร้อมกันในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2550 อย่างไรก็ตามนายอาเบะก็ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555 และได้ประกาศยุบสภาในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ก่อนครบวาระตำแหน่ง เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 ธันวาคม 2557

อาเบะเป็นนักอนุรักษนิยม ซึ่งนักวิจารณ์การเมืองเรียกเขาอย่างแพร่หลายว่าเป็นชาตินิยมฝ่ายขวา<ref name="Lucy Alexander">{{cite web|url=http://www.thetimes.co.uk/tto/news/world/asia/article3633051.ece|title=Landslide victory for Shinzo Abe in Japan election|work=The Times|author=Lucy Alexander |date=17 December 2012}}</ref><ref>{{cite news |date= 23 October 2017 |title= Japan election: Shinzo Abe set for record tenure |url= https://www.bbc.co.uk/news/world-asia-19725705 |work= BBC News |access-date= 13 June 2019}}</ref><ref>{{cite news |last=Ohi |first=Akai |date= 20 December 2018 |title=Two Kinds of Conservatives in Japanese Politics and Prime Minister Shinzo Abe's Tactics to Cope with Them |url=https://www.eastwestcenter.org/publications/two-kinds-conservatives-in-japanese-politics-and-prime-minister-shinzo-abe%E2%80%99s-tactics |work= East-West Center |access-date=13 June 2019}}</ref><ref name="Justin McCurry">{{cite web|url=http://www.globalpost.com/dispatch/news/regions/asia-pacific/japan/120928/shinzo-abe-outspoken-nationalist-takes-reins-at-japa|title=Shinzo Abe, an outspoken nationalist, takes reins at Japan's LDP, risking tensions with China, South Korea|publisher=[[GlobalPost]]|author=Justin McCurry |date=28 September 2012}}</ref> เขาเป็นสมาชิกของนิปปงไคจิ (日本会議) และมีทัศนะแบบแก้ไขประวัติศาสตร์ (revisionist) ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น<ref name="Tea Party Politics in Japan">"[https://www.nytimes.com/2014/09/13/opinion/tea-party-politics-in-japan.html Tea Party Politics in Japan]" (New York Times - 2014/09/13)</ref> รวมทั้งการปฏิเสธบทบาทของรัฐบาลในการบีบบังคับเกณฑ์หญิงบำเรอระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง<ref>{{cite news |title=Gov't distances itself from NHK head's 'comfort women' comment |url=https://japantoday.com/category/politics/govt-distances-itself-from-nhk-heads-comfort-women-comment |accessdate=22 July 2018 |work=Japan Today |date=27 January 2014 |language=en}}</ref> ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดกับประเทศเกาหลีใต้<ref name="csis.org">{{cite speech |title=Japan is Back |author=Abe, Shinzo |date=22 February 2013 |location=CSIS |url=http://csis.org/event/statesmens-forum-he-shinzo-abe-prime-minister-japan |access-date=29 December 2015 }}</ref><ref name="The Japan Times">{{cite web|url=http://www.japantimes.co.jp/news/2014/11/10/national/politics-diplomacy/abe-xi-meeting-likely-monday-sources/#.VoLAE0-REWh|title=Abe meets Xi for first China-Japan summit in more than two years|date=10 November 2014|work=The Japan Times|accessdate=29 December 2015}}</ref> เขาถือว่าเป็นสายแข็งในประเด็นเกาหลีเหนือ และส่งเสริมการทบทวนมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดให้ญี่ปุ่นมีกองทัพ<ref name=newshour>[https://www.pbs.org/newshour/extra/features/july-dec06/japan_9-20.html New Japanese Leader Looks to Expand Nation's Military], ''NewsHour'', 20 September 2006.</ref><ref name="Japan upgrades its defence agency">BBC website [http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/6243499.stm Japan upgrades its defence agency], bbc.co.uk, 9 January 2007.</ref> อาเบะมีชื่อเสียงระดับนานาชาติในด้านนโยบายเศรษฐกิจของเขา ชื่อ "[[อาเบะโนมิกส์]]" ซึ่งมีการอัดฉีดปริมาณเงิน การกระตุ้นการคลัง และการปฏิรูปโครงสร้าง<ref name="ft-def">{{cite web|title=Definition of Abenomics|url=http://lexicon.ft.com/Term?term=abenomics|publisher=Financial Times Lexicon|accessdate=28 January 2014|archive-url=https://web.archive.org/web/20171118081548/http://lexicon.ft.com/Term?term=abenomics|archive-date=18 November 2017|url-status=dead}}</ref>

วันที่ 28 สิงหาคม 2563 อาเบะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากลำไส้ใหญ่อักเสบมีแผล (ulcerative colitis) และสุขภาพที่ไม่แข็งแรง เขาระบุว่าเขาจะยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่า[[พรรคเสรีประชาธิปไตย (ญี่ปุ่น)|พรรคพรรคเสรีประชาธิปไตย]]ที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคจะเลือกผู้สืบทอด<ref>[https://www.bbc.com/news/world-asia-53943758 "Shinzo Abe: Japan's PM resigns for health reasons"]. [[บริษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ|BBC]]. Retrieved 28 August 2020.</ref><ref>[https://english.kyodonews.net/news/2020/08/49143d2e31c6-breaking-news-abes-health-status-remains-unchanged-top-govt-spokesman.html "Japan PM Abe announces his resignation at press conference".] ''Kyodo News''. 28 สิงหาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2563.</ref> โดยตัวเต็งที่จะมาเข้ารับหน้าที่แทน ได้แก่ [[ทาโร อาโซ|นายทาโร อาโซ]] รองนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมายาวนานและอดีตนายกรัฐมนตรี นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของนายอาเบะ; นายชิเกรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เคยต่อต้านนายอาเบะในชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับอาเบะ ฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และทาโร โคโนะ รัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน<ref>[https://www.nytimes.com/2020/08/28/world/asia/shinzo-abe-resign-japan.html "Shinzo Abe, Japan’s Longest-Serving Leader, Resigns Because of Illness".] 28 สิงหาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2563.</ref>