ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Davinci เกมถอดรหัส"

ในซีซั่นที่ 3 ได้มีการนำกติกาของซีซั่นแรกกลับมาใช้อีกครั้ง โดยในการแข่งขันแต่ละครั้งจะมีผู้แข่งขัน 2 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกสุ่มเลือกมาจากในทีมสตีล (Steal) ทั้งหมด 22 คน (ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป จำนวนผู้เข้าแข่งขันในทีมสตีลถูกปรับลดลงเหลือเพียง 12 คนเท่านั้น อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (ไวรัส[[โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019|โควิด 19]])) เริ่มเกมทั้งคู่จะมีเงินรางวัลเป็นทุนสำหรับเล่นเกมในรอบนั้นคนละ 10,000 บาท จากนั้นเริ่มต้นด้วยการวางเงินเดิมพันลงกองกลางคนละ 2,000 บาท และเริ่มต้นทำการแข่งขันภายใต้กติกาเดียวกันกับซีซั่นแรก (20 วินาทีสำหรับการถอดรหัสภาพ/เสียง ของผู้เข้าแข่งขัน รวมถึงการสตีลเงินกองกลางสำหรับทีมสตีล ในระหว่างที่ผู้เข้าแข่งขันกำลังถอดรหัสภาพนั้นอยู่) ซึ่งผู้เข้าแข่งขันท่านใดที่เงินรางวัลของตัวเองลดลงจนหมดก่อนและไม่สามารถถอดรหัสภาพนั้นได้จะเป็นฝ่ายที่ตกรอบไป (ในกรณีที่เงินรางวัลลดลงจนหมดพร้อมกัน และไม่สามารถถอดรหัสภาพนั้นได้ทั้งคู่ จะถือว่าตกรอบทั้งคู่ทันที) และได้รับ Gift set จากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม J-Hair serum และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร JReeya จำนวน 1 กระเช้ากลับบ้านไป และผู้ที่มีเงินรางวัลเหลืออยู่จะเป็นแชมป์และได้รับเงินรางวัลที่ตนเองเหลืออยู่จากการแข่งขันครั้งนั้นกลับไป พร้อมกับได้สิทธิ์แข่งกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ เพื่อรักษาแชมป์และรับเงินรางวัลไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถูกล้มแชมป์ ถ้าผู้เข้าแข่งขันสามารถครองแชมป์ครบ 5 สมัยแรก จะได้รับของรางวัลพิเศษต่างหากไปด้วย คือ ตู้เย็น 1 เครื่อง (ภายหลังเปลี่ยนของรางวัลพิเศษมาเป็นเครื่องปรับอากาศ Carrier X Inverter 1 เครื่อง) และถ้าสามารถครองแชมป์ได้ครบ 20 สมัย จะได้รับเงินรางวัลพิเศษต่างหากเพิ่มอีก 1,000,000 บาททันที

นอกจากการถอดรหัสภาพแล้ว ในซีซั่นที่ 3 นี้ ยังได้เพิ่มการถอดรหัสแบบใหม่ นั่นคือ '''"รหัสเสียง"''' โดยรหัสเสียงอาจมีทั้งเสียงพูดของชุดคำ วลี หรือประโยค หรืออาจเป็นเสียงอื่นๆ เช่น เสียงสัตว์ เป็นต้น หรือบางครั้งอาจมีการเล่นเสียงของคำ (ตัวอย่างเช่น คำตอบมี 5 พยางค์ มีคำทั้งหมด 2 คำคือ "นภาลัย(ออกเสียงสูง) กับ ธรณี(ออกเสียงต่ำ)" จะสามารถถอดรหัสเสียงได้เป็นคำว่า "ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ") โดยในการถอดรหัสเสียงนั้น เช่นเดียวกันกับการถอดรหัสภาพ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องถอดรหัสให้ได้ว่าเสียงที่ได้ยินหรือคำ/ประโยคที่ได้ยิน สามารถถอดรหัสออกมาเป็นคำว่าอะไร

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป ได้มีการปรับกติกาสำหรับการสตีลเงินรางวัลกองกลาง โดยหากมีการสตีลเงินกองกลางได้สำเร็จ เงินรางวัลกองกลางในรหัสภาพ/เสียงนั้นๆจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนที่เท่ากัน ส่วนหนึ่งจะเป็นของหนึ่งในทีมสตีลที่ได้สิทธิ์ตอบและสามารถตอบรหัสภาพ/เสียงได้ถูกต้อง และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นของผู้ชมทางบ้านที่ร่วมถอดรหัสภาพ/เสียงไปพร้อมกับรายการ ผ่านทาง Facebook Live หรือทาง LINE Official Account ของรายการ พร้อมกับ #แสดงความคิดเห็นตามหลังคำตอบด้วยก่อนที่ทางรายการจะเฉลยวิธีถอดรหัส (ยึดตามเวลาออกอากาศรอบปฐมทัศน์ทางโทรทัศน์ทั้งในระบบดิจิตอลภาคพื้นดินผ่านเสาอากาศกับเครื่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล หรือตัวรับสัญญาณทีวีดิจิตอลจากเครื่องรับโทรทัศน์, ระบบจานรับสัญญาณดาวเทียมทั้งแบบ C-Band และ KU-Band (DStv สำหรับทรูวิชั่นส์) และ[[โทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล]]จากผู้ให้บริการต่างๆ (ระบบ CAtv เคเบิลใยแก้วนำแสงสำหรับทรูวิชั่นส์) ทั้งที่สามารถรับชมได้ฟรี และสามารถรับชมได้โดยชำระค่าบริการตามแพ็กเกจที่ผู้ชมสมัคร (แบบบอกรับสมาชิก)) โดยทางรายการจะสุ่มเลือกผู้โชคดีพร้อมทั้งความคิดเห็นที่โดนใจ (เช่น เงินรางวัลกองกลาง 4,000 บาท หากสตีลสำเร็จ หนึ่งในทีมสตีลจะได้ 2,000 บาท และผู้ชมทางบ้านก็จะได้ 2,000 บาทเช่นกัน) ในกรณีที่สตีลไม่สำเร็จ เงินกองกลางในรหัสภาพ/เสียงนั้นๆ ก็จะถูกเรียกคืนทั้งหมดเช่นกัน