ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทอง ณ บางช้าง"

พระชนกทอง ณ บางช้าง หรือ ทอง เกิดที่[[บ้านบางช้าง]] [[ตำบลอัมพวา]] [[อำเภอเมืองสมุทรสงคราม]] ในสมัยแผ่นดิน[[สมเด็จพระเพทราชา]] เป็นบุตรของท่านตาเจ้าพรกับท่านยายเจ้าชี ซึ่งและเป็นธิดาคนโตหลานตาของท่านตาเจ้าปะขาวพลาย<ref>{{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = เทพ สุนทรศารทูล| ชื่อหนังสือ = ประวัติวัดอัมพวันเจติยาราม| URL = | จังหวัด = กรุงเทพฯ| พิมพ์ที่ = สำนักพิมพ์พระนารายณ์| ปี = พ.ศ. 2541| ISBN = | จำนวนหน้า = 192| หน้า = 34}}</ref> ต่อมาท่านทองได้สืบทอดมรดกของบิดามารดาเป็นคหบดีและเป็นเศรษฐีแห่งบ้านบางช้าง ท่านมีพี่ยาชายและพี่นางชื่อสาวคือ ท่านตาเจ้าแทน และท่านยายเจ้ามุก และได้ทองสมรสกับท่านสั้น (ต่อมาคือ [[สมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี]] (พระนามเดิม สั้น) ทั้งสองก็มีโอรส-ธิดาด้วยกัน 11 พระองค์คน ทรงบัญญัติให้เรียกว่า'''เจ้าคุณพระราชพันธุ์ชั้นที่ 1''' ทั้งสิ้น ได้แก่<ref name="ราชสกุล">{{อ้างหนังสือ

* เจ้าคุณหญิงทองอยู่ สมรสกับท่านตาขุนทอง มีบุตรธิดา ๒2 คนชื่อ "สังข์"คือ และ "หงส์" เวลาต่อมาท่านสังข์ได้เป็นเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา ที่สมุหพระกลาโหมในรัชกาลที่และเจ้าจอมหงส์ ๒ เป็นหมัน ส่วนท่านหงส์ได้รับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมพระสนมในรัชกาลที่ ๑ แต่ไม่มีพระองค์เจ้า ราชินิกุลวงศ์เจ้าคุณหญิงทองอยู่หมดสูญเชื้อสายแต่เพียงชั้นบุตรธิดาทั้งสองท่าน ไม่มีเชื้อสายสืบต่อลงไปอีก1

* เจ้าคุณชายชูโต (ต้นสกุลชูโต, แสง-ชูโต และ สวัสดิ์-ชูโต)

* [[สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี]] (มีพระนามเดิมว่า นาค หรือ นาก)

* เจ้าคุณหญิงชีโพ มีบุตรชายเพียงผู้คนเดียวชื่อ หงส์ แต่โดนพม่าจับเอาไปเป็นเชลย และไม่ได้กลับคืนมา จึงสิ้นสุดวงศ์เพียงเท่านี้<ref>{{อ้างหนังสือ

* [[เจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล|เจ้าคุณหญิงนวล]] ต่อมาสมรสกับ[[เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค)]] (ต้นสกุล [[สกุลบุนนาค|บุนนาค]])<ref>[http://www.bunnag.in.th/history3.html ชมรมสายสกุลบุนนาค]</ref>

* เจ้าคุณหญิงแก้ว (ต้นสกุล ณ บางช้าง )

ภริยาอื่น มีธิดาชื่อ* [[เจ้าจอมมารดามา]] ใน [[สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก]]

เมื่อครั้งที่พระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยา โปรดให้มหาดเล็กคอยสืบเสาะหาสตรีรูปงามไปถวาย มหาดเล็กคนสนิทกราบทูลว่า มีสตรีรูปงามในแขวงบางช้างนางคนหนึ่งเป็นบุตรเศรษฐีบางช้าง จึงโปรดให้เจ้าเมืองราชบุรีไปสู่ขอต่อบิดา-มารดา ด้วยสมัยสตรีรูปงามผู้นั้นเมืองสมุทรสงครามเป็นหัวเมืองตรีขึ้นต่อเมืองราชบุรีส่วนเมืองราชบุรีเป็นหัวเมืองชั้นโท นายทองและภรรยาชื่อนาค ได้บ่ายเบี่ยงว่าขอถามความสมัครใจของธิดาก่อน แล้วนำความไปปรึกษาพระแม่กลองบุรี (เสม) เจ้าเมืองแม่กลองซึ่งเป็นญาติก่อน ธิดาของนายทอง แต่เธอไม่สมัครใจอยากเป็นนางสนมในวัง นายทองสงสารธิดา จึงพร้อมด้วยเจ้าเมือง[[สมุทรสงคราม]] นำความเข้าหารือกับหลวงพินิจอักษร (ทองดี) เสมียนตรากรมมหาดไทย หลวงพินิจอักษรก็ได้เกิดปัญญาเห็นว่านาย ทองด้วง บุตรชายของตน ได้บวชเรียน แล้วยังไม่มีคู่ครอง หากได้ธิดาเศรษฐีทองมาเป็นภรรยาก็นับว่าเหมาะสมกันยิ่ง เพราะเป็นหญิงอุดมด้วยทรัพย์สมบัติและรูปสมบัติ ฝ่ายชายแลก็รูปงามมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด รับราชการในวังนับว่าเหมาะสมกันดียิ่งนัก ทั้งยังเป็นเกราะป้องกันมิให้ธิดาตกเป็นสนมในวัง เมื่อคิดอุบายได้ทั้งสองฝ่าย จึงเห็นดีด้วย จึงได้ทำฎีกากราบทูลว่าธิดาท่านเศรษฐีบางช้างตนได้สู่ ขอสู่ขอให้นายทองด้วงบุตรชายแล้วขอพระราชทานให้แก่บุตรชายของตนเสียเถิดแล้ว พระเจ้าแผ่นดินได้ทราบเพียงกิตติศัพท์ความงามของนางนาก แต่ยังมิเคยได้ทอดพระเนตรรูปร่างหน้าตา จึงมิได้อาลัยและพระราชทานอนุญาตให้วิวาห์สมรสได้ตามความประสงค์ ธิดาท่านเศรษฐีทองนาคจึงได้วิวาห์มงคลสมรสกับนายทองด้วงมหาดเล็กชทองด้วง ซึ่งต่อมาได้ตำแหน่งหลวงอร่ามฤทธิ์ หลวงยกบัตรราชบุรี และเมืองสมุทรสงคราม รับราชการในกรุงธนบุรีได้เลื่อนเป็นพระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจซ้าย พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยายมราช เจ้าพระยาจักรี สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเมื่อหมดบุญคือ[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช]] ได้ปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ธิดาของนายทองจึงได้เป็นอัครมเหสีของพระมหากษัตริย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

นายทองได้พิราลัยไปในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อต่อมา นาค ธิดาของท่านได้รับการสถาปนาเป็น "[[สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี"]] สั้น ภริยาของท่านจึงได้รับการสถาปนาเป็น "[[สมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี"]] ต่อมา[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงพระราชทานนามสกุล และได้พระราชทานนามสกุล ณ บางช้าง แก่ผู้สืบเชื้อสายจากท่าน<ref>{{อ้างหนังสือ