ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 แห่งสหราชอาณาจักร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Narutzy (คุย | ส่วนร่วม)
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 30:
ช่วงเวลาหลายเดือนในรัชกาล พระองค์ทรงทำให้เกิดวิกฤตการณ์ในรัฐธรรมนูญ ได้ชื่อว่า[[วิกฤตการณ์สละราชสมบัติ (1936)|วิกฤตการณ์สละราชสมบัติ]]ด้วยการขออภิเษกสมรสกับ[[วอลลิส ดัชเชสแห่งวินด์เซอร์|วอลลิส ซิมป์สัน]] แม่ม่ายหย่าร้างชาวอเมริกัน แม้ว่าทางกฎหมายแล้วพระองค์จะอภิเษกสมรสกับนางซิมป์สันและคงเป็นกษัตริย์อยู่ได้ แต่คณะรัฐมนตรีของพระองค์ได้คัดค้านการอภิเษกสมรสโดยโต้แย้งว่าประชาชนจะไม่ยอมรับเธอเป็นพระราชินีได้เลย พระองค์ทรงทราบดีว่ารัฐบาลของ[[สแตนลีย์ บอลดวิน]] นายกรัฐมนตรีจะลาออกถ้าการอภิเษกสมรสยังคงดำเนินต่อไป อันจะทำให้ลากพระองค์ไปสู่การเลือกทั่วไปซึ่งจะเป็นการทำลายสถานะของ[[พระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ]]ที่ทรงเป็นกลางทางการเมืองของพระองค์อย่างไม่สามารถแก้ไขได้ แทนที่จะเลิกกับนางซิมป์สัน แต่พระองค์กลับทรงเลือกที่จะสละราชสมบัติ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 เป็นพระประมุของค์เดียวของสหราชอาณาจักรที่ทรงสละราชบัลลังก์อย่างสมัครใจ นอกจากนี้ยังเป็นพระประมุขที่ทรงครองราชสมบัติสั้นที่สุดพระองค์ในประวัติศาสตร์อังกฤษและมิได้ผ่านพิธีราชาภิเษก
 
หลังจากการสละราชสมบัติ พระองค์ทรงเปลี่ยนกลับไปใช้ฐานันดรเดิมคือ ''เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด'' และทรงได้รับการเฉลิมพระยศเป็น[[ดยุกแห่งวินด์เซอร์]] เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1937 ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] พระองค์ทรงได้รับมอบหมายให้ประจำการในกองกำลังทหารอังกฤษในประเทศ[[ฝรั่งเศส]] ภายหลังสงครามได้ปรากฎปรากฏหลักฐานว่าพระองค์เคยเดินทางไปพบ[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์|ฮิตเลอร์]]และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นฉันมิตร จนมีทฤษฎีสมคบคิดว่าเอ็ดเวิร์ดเจรจากับฮิตเลอร์ว่าจะตั้งตนเองเป็นกษัตริย์อีกครั้งเมื่อยึดอังกฤษได้ เมื่อมีหลักฐานเช่นนี้ออกมา ก็ทรงถูกย้ายไปยัง[[บาฮามาส]]ในฐานะ[[ผู้สำเร็จราชการแห่งบาฮามาส|ข้าหลวงใหญ่]] พระองค์ก็ไม่ทรงได้รับการแต่งตั้งทางราชการอื่นใดอีกและทรงใช้เวลาที่เหลือในพระชนม์ชีพด้วยความสันโดษ
 
==พระเกียรติยศ==