ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทองมี มาลัย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
ชวลิต ประกอบสุข (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 39:
}}
 
'''ทองมี มาลัย''' (6 พฤษภาคม พ.ศ. 2487-พ.ศ. 2545) หรือรู้จักในฉายา ''ตำนานราชาหมอลำเพลิน'' เป็น[[หมอลำ]]ที่มีความสามารถยิ่งใหญ่ในวงการหมอลำอีสาน เป็นชาวบ้านหนองเลิง ตำบลดงแคนใหญ่ [[อำเภอคำเขื่อนแก้ว|อำเภอลุมพุก]] [[จังหวัดอุบลราชธานี]] (ปัจจุบันคือบ้านหนองเลิง ตำบลแคนน้อย [[อำเภอคำเขื่อนแก้ว]] [[จังหวัดยโสธร]])
 
== ประวัติ ==
บรรทัด 48:
 
=== การทำงานหมอลำ ===
ต่อมาเขาได้หันมาประกอบอาชีพหมอลำอย่างเป็นทางการโดยได้รับตำแหน่งในการแสดงเป็นพระเอกของคณะอัศวินสองดาว โดยมีคุณพ่อมี กิจเกียรติ เป็นหัวหน้าคณะ ได้รวมตัวสมาชิก จำนวน 15 คน ซึ่งทองมี มาลัย ได้รับบท [[ขุนแผน]] ในนิทานพื้นบ้านเรื่องขุนช้างขุนแผน จนทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังจนประชาชนทั่วไปขนานนามว่า ''ราชาหมอลำเพลิน'' และ พ.ศ. 2510 ได้แยกตัวออกมาตั้งคณะเป็นของตนชื่อ ''คณะทองมีพัฒนาลำเพลิน''
 
ในช่วงปี พ.ศ. 2513-2514 ได้หันเหสู่วงการขับร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำ โดยการชักชวนของเทพบุตร สติรอดชมพู แห่งสำนักงานหมอลำชื่อดังของ[[จังหวัดมหาสารคาม]] โดยยังคงใช้ลีลาการขับร้องลำเพลินอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตนเข้ามาสร้างผลงานออกมาโด่งดังเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกับกลอนลำเพลิน ซึ่งประพันธ์โดยครูกลอนลำแห่งอีสานคือครูสุพรรณ ชื่นชม เช่น ชุดลำเพลินบักสองซาว ทำให้มีชุดลำเพลินบักสี่ไหตามมา ชุดลำเพลินชมรมแท็กซีแท็กซี่ ก็โด่งดังเป็นพลุแตกไม่ว่าบ้านนอกในกรุง แม้แต่สถานีวิทยุในกรุงเทพฯ หรือเจขตเขตภาคกลางก็ยังนำมาเปิดกัน เรียกว่าตามตู้เพลง ห้องอาหาร ปั๊มน้ำมันที่รวมพลของเหล่าบรรดาคนขับแท็กซี่ทั่วกรุง ต้องได้ยินเพลงนี้กันไม่ขาดระยะ จนมีชุดชมรมแม่ค้าออกมาติดๆ ให้เหล่าแม่ค้าลาบ ส้มตำ และซุปหน่อไม้ ได้ร้องกันครื้นเครง
ต่อมาเขาได้หันมาประกอบอาชีพหมอลำอย่างเป็นทางการโดยได้รับตำแหน่งในการแสดงเป็นพระเอกของคณะอัศวินสองดาว โดยรับบท [[ขุนแผน]] ในนิทานพื้นบ้านเรื่องขุนช้างขุนแผน จนทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังจนประชาชนทั่วไปขนานนามว่า ''ราชาหมอลำเพลิน'' และ พ.ศ. 2510 ได้แยกตัวออกมาตั้งคณะเป็นของตนชื่อ ''คณะทองมีพัฒนาลำเพลิน''
 
พ.ศ. 2516 คณะอัศวินสองดาวได้เปลี่ยนชื่อเป็น ''คณะอัศวินดาวรุ่ง'' และ พ.ศ. 2518 คณะอัศวินดาวรุ่งได้ก่อกำเนิดคณะหมอลำเพลินอีกคณะ คือ ''คณะอีสานลำเพลิน''
ในช่วงปี พ.ศ. 2513-2514 ได้หันเหสู่วงการขับร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำ โดยการชักชวนของเทพบุตร สติรอดชมพู แห่งสำนักงานหมอลำชื่อดังของ[[จังหวัดมหาสารคาม]] โดยยังคงใช้ลีลาการขับร้องลำเพลินอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตนเข้ามาสร้างผลงานออกมาโด่งดังเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกับกลอนลำเพลิน ซึ่งประพันธ์โดยครูกลอนลำแห่งอีสานคือครูสุพรรณ ชื่นชม เช่น ชุดบักสองซาว ทำให้มีชุดบักสี่ไหตามมา ชุดชมรมแท็กซี ก็โด่งดังเป็นพลุแตกไม่ว่าบ้านนอกในกรุง แม้แต่สถานีวิทยุในกรุงเทพฯ หรือเจขตภาคกลางก็ยังนำมาเปิดกัน เรียกว่าตามตู้เพลง ห้องอาหาร ปั๊มน้ำมันที่รวมพลของเหล่าบรรดาคนขับแท็กซี่ทั่วกรุง ต้องได้ยินเพลงนี้กันไม่ขาดระยะ จนมีชุดชมรมแม่ค้าออกมาติดๆ ให้เหล่าแม่ค้าลาบ ส้มตำ และซุปหน่อไม้ ได้ร้องกันครื้นเครง
 
ทองมี มาลัย ได้โลดแล่นด้วยชื่อเสียงหมอลำเพลินในวงการหลายสิบปี กับการสังกัดค่ายเพลงหลายค่ายในสมัยนั้น ประกบกับหมอลำดังในยุคนั้นมากมายหลายคนออกอัลบั้มยอดฮิตมาหลายชุดร่วมกับหมอลำดัง เช่น [[บานเย็น รากแก่น]] , [[ประสาน เวียงสีมา]] , [[ฉลาด ส่งเสริม|ป.ฉลาดน้อย ส่งเสริม]] เป็นต้น
 
ปัจจุบันมีหมอลำที่เลียนแบบลีลาท่าทางรวมทั้งมีกลอนลำสไตล์เดียวกัน เช่น คำบน กิจเกียรติ , ทองมัย มาลี , รุ่งฟ้า กุลาชัย เป็นต้น
 
=== เสียชีวิต ===