ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทองมี มาลัย"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
หน้าใหม่: {{กล่องข้อมูล นักแสดง | bgcolour = | name = ทองมี มาลัย | image = ไฟล์:ทองมี มาลัย.j... |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 47:
พ.ศ. 2501 เมื่อเกิดความเบื่อหน่ายในการทำงานต่างถิ่นจึงเดินทางกลับมาบ้านหนองเลิง และทำให้เกิดความสนใจในการร้องลำอย่างมาก โดยได้เข้าฝึกหัดร้องลำกับหมอลำผัน ศิลารักษ์ แห่งวงหมอลำเพลินคณะอีสานลำเพลิน (ผ.รุ่งศิลป์) ปรมาจารย์ด้านหมอลำเพลินที่มีชื่อเสียงของบ้านแคน ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี จนทำให้เป็นที่รู้จักในระแวกนั้น
== ประวัติด้านหมอลำ ==
ต่อมาได้หันมาประกอบอาชีพหมอลำอย่างเป็นทางการโดยได้รับตำแหน่งในการแสดงเป็นพระเอกของคณะอัศวินสองดาว โดยรับบท '''ขุนแผน''' ในนิทานพื้นบ้านเรื่องขุนช้างขุนแผน จนทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังจนประชาชนทั่วไปขนานนามว่า '''ราชาหมอลำเพลิน''' และ พ.ศ. 2510 ได้แยกตัวออกมาตั้งคณะเป็นของตน คือ '''คณะทองมีพัฒนาลำเพลิน'''
เส้น 52 ⟶ 54:
พ.ศ. 2513-2514 ได้หันเหสู่วงการขับร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำ โดยการชักชวนของเทพบุตร สติรอดชมพู แห่งสำนักงานหมอลำชื่อดังของ[[จังหวัดมหาสารคาม]] โดยยังคงใช้ลีลาการขับร้องลำเพลินอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตนเข้ามาสร้างผลงานออกมาโด่งดังเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกับกลอนลำเพลิน ซึ่งประพันธ์โดยครูกลอนลำแห่งอีสานคือ '''ครูสุพรรณ ชื่นชม''' เช่น ชุดบักสองซาว ทำให้มีชุดบักสี่ไหตามมา ชุดชมรมแท็กซี ก็โด่งดังเป็นพลุแตกไม่ว่าบ้านนอกในกรุง แม้แต่สถานีวิทยุในกรุงเทพฯ หรือเจขตภาคกลางก็ยังนำมาเปิดกัน เรียกว่าตามตู้เพลง ห้องอาหาร ปั๊มน้ำมันที่รวมพลของเหล่าบรรดาคนขับแท็กซี่ทั่วกรุง ต้องได้ยินเพลงนี้กันไม่ขาดระยะ จนมีชุดชมรมแม่ค้าออกมาติดๆ ให้เหล่าแม่ค้าลาบ ส้มตำ และซุปหน่อไม้ ได้ร้องกันครื้นเครง
ทองมี มาลัย ได้โลดแล่นด้วยชื่อเสียงหมอลำเพลินในวงการหลายสิบปี กับการสังกัดค่ายเพลงหลายค่ายในสมัยนั้น ประกบกับหมอลำดังในยุคนั้นมากมายหลายคน
ปัจจุบันมีหมอลำที่เลียนแบบลีลาท่าทาง == ผลงาน ==
|