ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 25:
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าบวรเดช กฤดากร เป็นพระโอรสใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์]] ที่ประสูติแต่หม่อมสุภาพ กฤดากร ณ อยุธยา<ref>http://www.kridakorn.org/html/kridakorn_t.html</ref> เมื่อวันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2420
 
หม่อมเจ้าบวรเดช กฤดากร เข้าศึกษาวิชาการทหารจากโรงเรียนนายร้อยทหารปืนใหญ่และทหารช่าง ประเทศอังกฤษ ในขณะนั้นพระบิดา คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ ทรงดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำประเทศอังกฤษ ทรงสำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2441 สอบได้ชั้นที่ 4 อันดับที่ 22 จึงได้รับพระราชทานยศ[[ร้อยตรี]] (ร.ต.) ของกองทัพบกไทย แต่ได้ทรงศึกษาเพิ่มเติมในโรงเรียนนายทหารช่างอังกฤษเพิ่มอีก 1 ปี จึงเสด็จกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2443<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2443/033032/417.PDF หม่อมเจ้าบวรเดชเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท] </ref>เข้าประจำการที่กรมเสนาธิการทหารบก จึงถือได้ว่าทรงเป็นนายทหารไทยรุ่นแรกที่สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ ในขณะนั้น พลเอก [[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช]] เป็นผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ จึงเสมือนเป็นพระหัตถ์ขวาของพระองค์เจ้าจิรประวัติฯ ในการปรับปรุงจัดระเบียบกองทัพในแบบสมัยใหม่ ต่อมาในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2444 พระองค์ได้รับพระราชทานยศ '''ร้อยโท'''<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2444/005/66.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหาร] </ref> จากนั้นพระองค์ได้รับพระราชทานยศเป็น '''พันตรี''' เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2445<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2445/008/131.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก] </ref>ทรงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกนครราชสีมา ซึ่งเป็นมณฑลแรกในประเทศไทยที่มีการเกณฑ์ทหาร ทรงได้รับพระราชทานยศ[[พลตรี]] (พล.ต.) เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2449<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2449/027/678.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก] </ref> ขณะพระชันษาได้ 29 ปี และได้รับพระราชทาน[[พลโท]] (พล.ท.) เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2456<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2456/D/413_1.PDF ตั้งตำแหน่งยศนายทหารบก] </ref>หรือก่อน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]ไม่นาน ทรงดำรงตำแหน่งแม่ทัพกองทัพน้อยที่ 3 นครราชสีมา และรั้งตำแหน่งจเรทหารปืนใหญ่อีกตำแหน่งหนึ่ง
 
ทรงเป็นหม่อมเจ้าพานทอง ทรงศักดินา 3000 เทียบเท่าขุนนางชั้นพระยาพานทอง<ref>https://vajirayana.org/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A9%E0%B8%81-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%81-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3</ref>(โดยปกติหม่อมเจ้าจะทรงศักดินา 1500)<ref>https://m.facebook.com/1451876605112634/photos/a.1475437036089924/1716439388656353/?type=3</ref>