ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รัฐธรรมนูญ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Oohlanla (คุย | ส่วนร่วม)
ปรับปรุงเนื้อหาครั้งใหญ่
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Magna_Carta_(British_Library_Cotton_MS_Augustus_II.106).jpg|thumbnail|[[มหากฎบัตร]] (Magna Carta)]]
 
'''รัฐธรรมนูญ''' (ร.ธ.น.)​ ({{lang-en|Constitution}}) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับ พ.ศ. 2525 ให้ความหมายดังนี้
 
ในความหมายอย่างแคบ "รัฐธรรมนูญ" กฎหมายฉบับหนึ่งหรือหลายฉบับซึ่งรวบรวมกฎเกณฑ์การปกครองประเทศขึ้นไว้ และไม่ใช่สิ่งเดียวกับ [[กฎหมายรัฐธรรมนูญ]] เพราะ "กฎหมายรัฐธรรมนูญ" มีความหมายกว้างกว่าและจะเป็นรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือจารีตประเพณีก็ได้
 
รัฐธรรมนูญในปัจจุบันนั้น มีทั้งเป็นลักษณะลายลักษณ์อักษร และลักษณะไม่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยที่ลักษณะไม่เป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากจะใช้หลักของจารีต ประเพณีการปกครองแล้ว กฎหมายทุกตัวที่เกี่ยวข้องกับการปกครอง ย่อมถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญด้วย
บรรทัด 9:
ทุกประเทศทั่วโลกมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ทั้งประเทศที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย รวมถึงประเทศที่ปกครองระบอบเผด็จการ เพื่อใช้เป็นหลักหรือเป็นแนวทางในการบริหารประเทศ
 
อนึ่งรัฐธรรมนูญหลายขึ้นก่อนกฎหมายอื่น ๆ แต่สำหรับประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญอยู่บ่อยครั้ง กฎหมายอื่น ๆ จึงมีมาก่อนรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การใช้ถ้อยคำที่ปรากฏในกฎหมายอื่นอยู่ก่อนแล้วในรัฐธรรมนูญจึงควรระมัดระวังว่าประสงค์จะให้มีความหมายอย่างเดียวกับที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้านี้
 
== ประเภทของรัฐธรรมนูญ ==
รัฐธรรมนูญนั้นสามารถแบ่งแยกประเภทได้ในหลายลักษณะขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่งประเภท โดยแบ่งได้ 4 แบบ
 
* แบ่งแยกตามวิธีการบัญญัติ<ref> พรชัย เลื่อนฉวี, “กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันการเมือง”, (กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต), 2550, หน้า 28. </ref> แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
แบ่งได้ 2 ประเภทคือ**รัฐธรรมนูญที่มีลายลักษณ์อักษร รัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร คือ รัฐธรรมนูญที่มีบทบัญญัติรวมอยู่ในเอกสารฉบับหนึ่งหรือหลายฉบับ กำหนดถึงระเบียบแห่งอำนาจสูงสุดในรัฐ และความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจเช่นว่านี้ต่อกันและกัน<ref>หยุด แสงอุทัย, “หลักรัฐธรรมนูญทั่วไป”, (กรุงเทพฯ : วิญญูชน), 2538, หน้า 44. </ref> จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับหลักเกณท์ต่างๆ เกี่ยวกับการปกครองรัฐ มีความยืดหยุ่นน้อยกว่ารัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร และ
**รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร<ref> รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือรัฐธรรมนูญจารีตประเพณี หมายความถึง ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี คำพิพากษาของศาลยุติธรรม กฎหมายที่เกี่ยวกับกฎเกณฑ์การปกครองประเทศทางด้านการเมือง ธรรมเนียมปฏิบัติต่าง ๆ ที่ยึดถือติดต่อกันมา รวมกันเข้าเป็นบทบัญญัติที่มีอำนาจเป็นกฎหมายสูงสุด กำหนดรูปแบบการปกครองของรัฐ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เขียนรวบรวมไว้เป็นรูปเล่ม </ref>
* แบ่งแยกตามเนื้อหาและตามแบบพิธี<ref> หยุด แสงอุทัย, “หลักรัฐธรรมนูญทั่วไป”, (กรุงเทพฯ : วิญญูชน), 2538, หน้า 49. </ref>
แบ่งได้ 2 ประเภทคือรัฐธรรมนูญตามเนื้อหา<ref> รัฐธรรมนูญตามเนื้อหา หมายความถึง รัฐธรรมนูญซึ่งมีบทบัญญัติบัญญัติถึงข้อความที่เป็นเรื่องของรัฐธรรรมนูญโดยตรง โดยไม่ต้องคำนึงว่าเรียกชื่อกฎหมายนั้นว่าเป็นรัฐธรรมนูญหรือไม่ เช่น Parliament Act 1911 ของสหราชอาณาจักร ซึ่งรูปแบบและลักษณะของกฎหมายฉบับนี้เป็นพระราชบัญญัติ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นรัฐธรรมนูญ. </ref><ref> รัฐธรรมนูญตามแบบพิธี หมายถึง รัฐธรรมนูญซึ่งได้บัญญัติโดยวิธีการบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าเนื้อหาของบทบัญญัตินั้นเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญหรือไม่. </ref>
* แบ่งแยกตามวิธีการแก้ไข<ref> พรชัย เลื่อนฉวี, “กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันการเมือง”, (กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต), 2550, หน้า 45 </ref>
แบ่ง 2 ประเภทคือรัฐธรรมนูญที่แก้ไขยาก<ref> รัฐธรรมนูญที่แก้ไขยาก หมายถึง รัฐธรรมนูญที่การแก้ไขเพิ่มเติมกระทำได้ยากกว่าการบัญญัติกฎหมายธรรมดา กระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมมีความซับซ้อนกว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายธรรมดา เช่น รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นต้น </ref> และรัฐธรรมนูญที่แก้ไขง่าย<ref> รัฐธรรมนูญที่แก้ไขง่าย หมายถึง รัฐธรรมนูญที่การแก้ไขเพิ่มเติมกระทำได้โดยวิธีการเดียวกับการแก้ไขกฎหมายธรรมดา กล่าวคือ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้โดยการตราพระราชบัญญัติ เช่น รัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักร อิสราเอล และนิวซีแลนด์ เป็นต้น </ref>
* แบ่งแยกตามกำหนดเวลาในการบังคับใช้<ref> วิษณุ เครืองาม, “กฎหมายรัฐธรรมนูญ”, (กรุงเทพฯ : นิติบรรณาการ), 2530, หน้า 54-55. </ref>
แบ่งได้ 2 ประเภทคือรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว<ref> รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เป็นรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้เป็นการฉุกเฉินหรือเป็นการล่วงหน้าในบางสถานการณ์ เช่น ภายหลังจากที่มีการปฏิวัติรัฐประหาร มักมีข้อความน้อยมาตราหรือไม่มีบทประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน </ref> และรัฐธรรมนูญฉบับถาวร<ref> รัฐธรรมนูญฉบับถาวร เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นให้มีความสมบูรณ์ที่สุดเพื่อให้บังคับใช้ได้ตลอดไป </ref>
 
* แบ่งแยกตามเนื้อหาและตามแบบพิธี<ref> หยุด แสงอุทัย, “หลักรัฐธรรมนูญทั่วไป”, (กรุงเทพฯ : วิญญูชน), 2538, หน้า 49. </ref> แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
แบ่งได้ 2 ประเภทคือ**รัฐธรรมนูญตามเนื้อหา<ref> รัฐธรรมนูญตามเนื้อหา หมายความถึง รัฐธรรมนูญซึ่งมีบทบัญญัติบัญญัติถึงข้อความที่เป็นเรื่องของรัฐธรรรมนูญโดยตรง โดยไม่ต้องคำนึงว่าเรียกชื่อกฎหมายนั้นว่าเป็นรัฐธรรมนูญหรือไม่ เช่น Parliament Act 1911 ของสหราชอาณาจักร ซึ่งรูปแบบและลักษณะของกฎหมายฉบับนี้เป็นพระราชบัญญัติ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นรัฐธรรมนูญ. </ref><ref> รัฐธรรมนูญตามแบบพิธี หมายถึง รัฐธรรมนูญซึ่งได้บัญญัติโดยวิธีการบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าเนื้อหาของบทบัญญัตินั้นเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญหรือไม่. </ref>
**รัฐธรรมนูญตามแบบพิธี<ref> รัฐธรรมนูญตามแบบพิธี หมายถึง รัฐธรรมนูญซึ่งได้บัญญัติโดยวิธีการบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าเนื้อหาของบทบัญญัตินั้นเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญหรือไม่. </ref>
 
* แบ่งแยกตามวิธีการแก้ไข<ref> พรชัย เลื่อนฉวี, “กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันการเมือง”, (กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต), 2550, หน้า 45 </ref> แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
**รัฐธรรมนูญที่แก้ไขยาก<ref> รัฐธรรมนูญที่แก้ไขยาก หมายถึง รัฐธรรมนูญที่การแก้ไขเพิ่มเติมกระทำได้ยากกว่าการบัญญัติกฎหมายธรรมดา กระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมมีความซับซ้อนกว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายธรรมดา เช่น รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นต้น </ref>
แบ่ง 2 ประเภทคือรัฐธรรมนูญที่แก้ไขยาก<ref> รัฐธรรมนูญที่แก้ไขยาก หมายถึง รัฐธรรมนูญที่การแก้ไขเพิ่มเติมกระทำได้ยากกว่าการบัญญัติกฎหมายธรรมดา กระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมมีความซับซ้อนกว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายธรรมดา เช่น รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นต้น </ref> **และรัฐธรรมนูญที่แก้ไขง่าย<ref> รัฐธรรมนูญที่แก้ไขง่าย หมายถึง รัฐธรรมนูญที่การแก้ไขเพิ่มเติมกระทำได้โดยวิธีการเดียวกับการแก้ไขกฎหมายธรรมดา กล่าวคือ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้โดยการตราพระราชบัญญัติ เช่น รัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักร อิสราเอล และนิวซีแลนด์ เป็นต้น </ref>
 
* แบ่งแยกตามกำหนดเวลาในการบังคับใช้<ref> วิษณุ เครืองาม, “กฎหมายรัฐธรรมนูญ”, (กรุงเทพฯ : นิติบรรณาการ), 2530, หน้า 54-55. </ref> แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
แบ่งได้ 2 ประเภทคือ**รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว<ref> รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เป็นรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้เป็นการฉุกเฉินหรือเป็นการล่วงหน้าในบางสถานการณ์ เช่น ภายหลังจากที่มีการปฏิวัติรัฐประหาร มักมีข้อความน้อยมาตราหรือไม่มีบทประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน </ref> และรัฐธรรมนูญฉบับถาวร<ref> รัฐธรรมนูญฉบับถาวร เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นให้มีความสมบูรณ์ที่สุดเพื่อให้บังคับใช้ได้ตลอดไป </ref>
**รัฐธรรมนูญฉบับถาวร<ref> รัฐธรรมนูญฉบับถาวร เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นให้มีความสมบูรณ์ที่สุดเพื่อให้บังคับใช้ได้ตลอดไป </ref>
== รัฐธรรมนูญฉบับแรกของโลก ==
ในวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1215 ขุนนางและพระราชาคณะจำนวน 25 คน ได้บังคับให้[[พระเจ้าจอห์น]]ลงนามในเอกสารที่เรียกว่า "มหากฎบัตร" (The Great Charter, Magna Carta) ซึ่งเป็นสัญญาระหว่าง[[พระมหากษัตริย์]]กับขุนนางและพระสงฆ์ โดยในมหากฎบัตรได้กำหนด ถึงการจัดองค์กรและการบริหารอำนาจของ[[สภาสูง]] (Magnum Concillium) และกำหนดว่าพระมหากษัตริย์จะเก็บ[[ภาษี]]บางอย่างตามที่กำหนดไว้โดยมิได้รับความเห็นชอบจากสภาสูงมิได้ จะจับกุมคุมขังบุคคลได้ก็ต่อเมื่อ มีคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมาย มหากฎบัตรนี้ นักกฎหมายบางท่านเห็นว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรก
เส้น 29 ⟶ 35:
 
== รัฐธรรมนูญในประเทศไทย ==
หลังจากสมัย[[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]]เป็นต้นมาจนถึงสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ประเทศไทยในช่วงสมัย[[อาณาจักรอยุธยา|กรุงศรีอยุธยา]] [[อาณาจักรธนบุรี|กรุงธนบุรี]] หรือ[[อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์)|กรุงรัตนโกสินทร์]]เป็นราชธานี ต่างก็มีกฎหมายสำคัญหลายฉบับ ซึ่งอาจจัดได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญประเภทหนึ่ง แต่กฎหมายเหล่านั้นกระจัดกระจายอยู่ในหลายแห่งไม่เป็นหมวดหมู่เรียบร้อย นอกจากนี้กฎหมายดังกล่าวมีลักษณะเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์ การปกครองแผ่นดิน พระราชอำนาจในการตรากฎหมาย กฎหมายเกี่ยวกับขุนศาลตระลาการมากกว่าจะมีลักษณะเป็นรัฐธรรมนูญตามความเข้าใจในปัจจุบัน คือไม่มีบทจำกัดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไว้<ref> วิษณุ เครืองาม, “กฎหมายรัฐธรรมนูญ”, (กรุงเทพฯ : นิติบรรณาการ), 2530, หน้า 172. </ref> ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] สืบเนื่องจากที่อังกฤษเข้ายึดเมือง[[มัณฑะเลย์]]ของ[[ประเทศพม่า|พม่า]] เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับสยามประเทศ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้[[พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์]] อัครราชทูตสยามประจำ[[ปารีส|กรุงปารีส]] ถวายรายงานและความเห็นต่อประเด็นปัญหานี้ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ได้เรียกประชุม[[พระบรมวงศานุวงศ์]]และ[[ข้าราชการ]]ชั้นผู้ใหญ่ในสถานทูตใน[[ลอนดอน|กรุงลอนดอน]]และ[[ปารีส|กรุงปารีส]]เพื่อระดมความเห็น และได้จัดทำคำกราบบังคมทูล โดยมีเนื้อหาว่า "ประเทศไทยควรเปลี่ยนหลักการพื้นฐานของการปกครองจาก[[สมบูรณาญาสิทธิราชย์]]มาเป็น[[ประชาธิปไตย]] และระบบ[[คณะรัฐมนตรี]] คือ[[รัฐบาล]]ที่ประกอบด้วยรัฐมนตรีประจำ[[กระทรวง]]ต่าง ๆ เพื่อให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพในการรักษากฎหมายให้เกิดความสงบเรียบร้อย และควรปรับปรุงกฎหมายบ้านเมืองเพื่อให้มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงคณะผู้จัดทำคำกราบบังคมทูลว่าทรงขอบพระราชหฤทัย แต่ทรงไม่อาจทำให้ลุล่วงได้ เนื่องมาจากความไม่พร้อมของบุคลากรที่รับภารกิจ
ในรัชสมัย [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] สืบเนื่องจากที่อังกฤษเข้ายึดเมืองมัณฑะเลย์ของพม่า เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้[[พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์]] อัครราชทูตประจำกรุงปารีส ถวายรายงานและความเห็นต่อประเด็นปัญหานี้ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ได้เรียกประชุมพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในสถานทูตในกรุงลอนดอนและกรุงปารีสเพื่อระดมความเห็น และได้จัดทำคำกราบบังคมทูลโดยมีเนื้อหาว่า ประเทศไทยควรเปลี่ยนหลักการพื้นฐานของการปกครองจาก “สมบูรณาญาสิทธิราชย์” มาเป็น “ระบอบชาธิปไตย” และระบบคณะรัฐมนตรี คือคณะรัฐบาลที่ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่าง ๆ เพื่อให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพในการรักษากฎหมายให้เกิดความสงบเรียบร้อย ควรปรับปรุงกฎหมายบ้านเมือง และให้มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงคณะผู้จัดทำคำกราบบังคมทูลว่าทรงขอบพระราชหฤทัย และทรงไม่อาจทำให้ลุล่วงได้ เนื่องมาจากความไม่พร้อมของบุคคลกรที่รับภารกิจ
 
ในรัชสมัยของ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ได้ทรงจัดให้มีการตั้งเมืองจำลอง[[ดุสิตธานี]]ขึ้นเพื่อทดลองเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น ซึ่งเทียบได้กับการปกครองจังหวัด โดยได้ทรงประกาศใช้ธรรมนูญลักษณะปกครองคณะนคราภิบาล (ดุสิตธานี) พระพุทธศักราช 2461<ref> บุญศรี มีวงศ์อุโฆษ, “กฎหมายรัฐธรรมนูญ”, (กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์), 2551, หน้า 206-207. </ref> ขึ้นใช้บังคับในเขตจังหวัดดุสิตธานีด้วย
 
ต่อมาในรัชสมัยของ[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานอยู่แต่เดิมที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนชาวไทยในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475 แต่เมื่อถึงเวลาก็มิได้พระราชทานเนื่องจากอภิรัฐมนตรีสภากราบบังคมทูลทัดทานไว้ว่ายังไม่ถึงเวลาอันสมควร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 [[คณะราษฎร]]จึงได้ทำ[[การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475|การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศ]]จากระบอบ[[สมบูรณาญาสิทธิราชย์]]เป็นระบอบ[[ประชาธิปไตย]]<ref> วิษณุ เครืองาม, “กฎหมายรัฐธรรมนูญ”, (กรุงเทพฯ : นิติบรรณาการ), 2530, หน้า 191. </ref> และได้มีการประกาศใช้[[พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475]] เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475<ref> พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475, ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 49, 27 มิถุนายน 2475, หน้า 166-179. </ref> ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475<ref> รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 49, 10 ธันวาคม 2475, หน้า 529-551. </ref> ซึ่งถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรกของประเทศไทย
 
นับจากวันที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญมาแล้วทั้งสิ้น 20 ฉบับ ฉบับปัจจุบันคือ [[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560]] จำนวน 279 มาตรา ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2560 เป็นฉบับแรกใน รัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]] (รัชกาลที่ 10)<ref>[https://www.voicetv.co.th/read/478119 รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ประกาศใช้แล้ว 279 มาตรา]</ref><ref>[http://www.bbc.com/thai/live/thailand-39503352 สด: การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับที่ 20]</ref>
 
== ดูเพิ่ม ==