ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระนางสิริมหามายา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Effmedical (คุย | ส่วนร่วม) ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
Effmedical (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 49:
| caption2 = พระนางสิริมหามายาขณะเหนี่ยวกิ่งสาละประสูติการพระพุทธเจ้า ศิลปะยุค[[ราชวงศ์กุษาณ]] (ราวศตวรรษที่ 2-3)
}}
พระนางสิริมหามายาทรงอภิเษกสมรสระหว่างเครือญาติกับ[[พระเจ้าสุทโธทนะ]]แห่งสักกะตามพระราชประเพณี<ref name="ประตู" /><ref name="พุทธะ" /><ref name="พุทธะ1" /><ref name="ดาว" /> หลังการอภิเษกสมรส 20 ปี พระองค์ก็มิได้ทรงพระครรภ์ จนกระทั่งในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ก่อนพุทธศักราช 81 ปี ขณะนั้นพระองค์ในช่วงมัชฌิมวัย<ref name="ภิกษุณี" /> พระองค์ทรงพระสุบินว่า[[จาตุมหาราชิกา]]ยกพระแท่นบรรทมของพระองค์ไปยัง[[ป่าหิมพานต์]] เทพทั้งสี่ได้กราบบังคมทูลเชิญให้พระองค์สรงน้ำในสระอโนดาต ชำระพระองค์ด้วยเครื่องหอมนานาชนิด แล้วเสด็จขึ้นบรรทม ณ พระแท่นภายในวิมานทองบนภูเขาสีเงิน ทรงบ่ายพระพักตร์ไปทิศตะวันออก ขณะนั้นมีพญาช้างเผือกนำดอกบัวขาวกลิ่นหอมแรกแย้มมาถวาย ก่อนร้องเสียงดัง แล้วเดินทักษิณาวัตรรอบพระแท่นสามรอบ ครั้นรุ่งขึ้นจึงกราบบังคมทูลแก่พระภัสดาถึงนิมิตนั้น พระเจ้าสุทโธทนะจึงมีรับสั่งให้[[โหร]]ประจำราชสำนักทำนาย ซึ่งโหรหลวงได้ทำนายไว้ว่า ''"พระนางสิริมหามายาทรงพระครรภ์พระองค์จักมีพระราชโอรส พระราชโอรสนั้นถ้าอยู่ครองราชย์ก็จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ แต่ถ้าเสด็จออกบวชจักได้เป็นพระพุทธเจ้า"''<ref>{{cite web|url= https://www.phuttha.com//พระพุทธเจ้า/ประสูติ/พระนางสิริมหามายาทรงสุบินนิมิต |title= พระนางสิริมหามายาทรงสุบินนิมิต |author=|date= 2553 |work= พุทธะ |publisher=|accessdate= 17 กรกฎาคม 2560}}</ref>
ครั้นเมื่อพระครรภ์
หลังประสูติกาลพระราชกุมารได้สามวัน [[อสิตดาบส]] (Asita) หรือกาฬเทวิลดาบส (Kāḷadevil) นักบวชที่คุ้นเคยกับพระเจ้าสุทโธทนะได้เดินทางมาชื่นชมพระบารมีของพระกุมาร และเมื่อได้ตรวจลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการอย่างละเอียด จึงก้มกราบพระกุมารด้วยความเคารพ พร้อมกับกำสรวลและหัวเราะไปด้วย สร้างความแปลกพระทัยแก่พระเจ้าสุทโธทนะยิ่งนัก พระเจ้าสุทโธทนะจึงทูลถามดาบสว่าเป็นเช่นนี้เพราะเหตุใด อสิตดาบสจึงตอบพระราชปุจฉาว่า ''"ที่หัวเราะเพราะตื้นตันใจที่ได้เจอพระกุมารที่มีบุญญาบารมี มีลักษณะมหาบุรุษครบ 32 ประการ นับว่าหาไม่ได้ในภัททกัปป์นี้ อาตมามีวาสนาแท้ที่ได้เห็น และที่ร้องไห้เพราะพระโอรสเจริญวัยขึ้นจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสดาเอกของโลก พระองค์จะแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลางและที่สุด เสียดายที่อายุอาตมาภาพแก่เกินไป คงไม่อาจได้สดับฟังคำสอนของพระองค์ จึงอดกลั้นน้ำตาไม่ไหว"''<ref name="ดาว1" />
|