ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
NewFrontierHistoryThai (คุย | ส่วนร่วม)
ประวัติ
NewFrontierHistoryThai (คุย | ส่วนร่วม)
กบฏหวันหมดหลี
บรรทัด 25:
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2334 เดิมชื่อ '''ทัต''' เป็นบุตรคนที่สิบของ[[เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค)]] มารดาคือเจ้าคุณนวล ([[เจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล]]) ซึ่งเป็นพระขนิษฐาใน[[สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี]] สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติเกิดในสาย[[สกุลบุนนาค]]ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก[[เจ้าพระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมัด)]] สมุหนายกชาวเปอร์เซียในรัชสมัย[[สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม]] บิดาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติคือเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค) ดำรงตำแหน่งเป็น[[สมุหกลาโหม]]ในแผ่นดิน[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก]] บ้านของเจ้าพระยาอรรคมหาเสนาอยู่ที่บริเวณกำแพง[[พระบรมมหาราชวัง]]ทางทิศใต้ บริเวณ[[วัดพระเชตุพน]]ฯในปัจจุบัน สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติมีพี่สาวร่วมมารดาได้แก่เจ้าคุณวังหลวง (นุ่น) เจ้าคุณวังหน้า (คุ้ม) และเจ้าคุณปราสาท (ต่าย) และมีพี่ชายร่วมมารดาคือนายดิศ ต่อมาคือ[[สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์]]
 
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ เริ่มรับราชการใน[[รัชกาลที่ 1]] ในตำแหน่ง''นายสนิทหุ้มแพรมหาดเล็ก'' ต่อมาใน[[รัชกาลที่ 2]] ดำรงตำแหน่งเป็น''จมื่นเด็กชา'' หัวหมื่นมหาดเล็กใน[[กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์]]วังหน้า เมื่อกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ทิวงคตในปีพ.ศ. 2360 จึงย้ายกลับมารับราชการในวังหลวงตำแหน่งจางวางมหาดเล็ก ต่อมาได้เลื่อนเป็น ''พระยาศรีสุริยวงศ์'' ในเวลาต่อมา ในพ.ศ. 2361 มีการขยายพระบรมมหาราชวังลงมาทางทิศใต้ พระยาศรีสุริยวงศ์ (ทัต) และพระยาสุริยวงศ์มนตรี (ดิศ) ผู้เป็นพี่ชายจึงย้ายที่อยู่ไปยังริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกใต้[[ชุมชนกุฎีจีน|บ้านกุฎีจีน]]<ref>http://www.bunnag.in.th/history7-home2.html</ref> [[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงแต่งตั้งให้พระยาศรีสุริยวงศ์ (ทัต) ขึ้นเป็น''พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา''จางวางพระคลังสินค้า
 
ในพ.ศ. 2382 [[กบฏหวันหมาดหลี]] หลานสองคน<ref>https://www.royalark.net/Malaysia/kedah4.htm</ref>ของสุลต่าน[[ตวนกูปะแงหรัน]]แห่งไทรบุรีได้แก่ ตนกูมูฮาหมัดซาอัด (Tunku Muhammad Sa'ad) และตนกูมูฮาหมัดอากิบ (Tunku Muhammad Akib) ร่วมมือกับหวันหมาดหลีซึ่งเป็นโจรสลัดใน[[ทะเลอันดามัน]] นำทัพเรือเข้าบุกยึดเมืองไทรบุรีในเดือนมีนาคมพ.ศ. 2382 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯมีพระราชโองการให้พระยาศรีพิพัฒน์ฯ (ทัต) และ[[เจ้าพระยายมราช (บุนนาค ยมนาค)|เจ้าพระยายมราช (บุนนาค)]] ยกทัพเรือลงไปช่วย[[เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย ณ นคร)|เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย)]] ในการปราบกบฏไทรบุรี พระยาศรีพิพัฒน์ฯและเจ้าพระยายมราชยกทัพถึงเมืองสงขลาในเดือนเมษายน พบว่าพระภักดีบริรักษ์ (แสง) ได้ยึดเมืองไทรบุรีไว้ได้แล้ว
 
ขณะนั้นเกิดสงครามระหว่างสุลต่าน[[มูฮัมหมัดที่ 2 แห่งกลันตัน|มูฮัมหมัดที่ 2]] (Muhammad II) แห่งกลันตัน และเต็งกูหลงไซนัลอะบิดิน (Tengku Long Zainal Abidin) เจ้าเมืองบังโกล (Banggol) หรือ "พระยาบาโงย" พระยาบาโงยยกทัพเข้าโจมตีเมืองกลันตัน สุลต่านมูฮัมหมัดแห่งกลันตันสู้ไม่ได้จึงมีหนังสือถึงพระยาศรีพิพัฒน์ฯ (ทัต) ขอความช่วยเหลือจากสยามเข้าช่วยปราบพระยาบาโงย พระยาศรีพิพัฒน์ฯมีตราเรียกให้ทั้งสุลต่านมูฮัมหมัดและพระยาบาโงยมาเจรจาสงบศึกกันที่เมืองสงขลา สุลต่านมูฮัมหมัดไม่ยอมมาและพระยาบาโงยหลบหนีไปตรังกานู พระยาศรีพิพัฒน์ฯจึงส่งพระยาไชยานำกำลังไปจับตัวสุลต่านมูฮัมหมัดมาพบพระยาศรีพิพัฒน์ฯที่เมืองสงขลา เมื่อสุลต่านมูฮัมหมัดยินยอมสงบศึกแล้ว พระยาศรีพิพัฒน์ฯจึงปล่อยตัวสุลต่านมูฮัมหมัดกลับไปยังกลันตันตามเดิม
 
เมื่อเจ้าพระยานครฯ (น้อย) ถึงแก่อสัญกรรมในเดือนพฤษภาคมพ.ศ. 2382 พระยาศรีพิพัฒน์ฯจึงจัดระเบียบการปกครองของไทรบุรีใหม่ โดยให้ตนกูอาหนุ่มขึ้นเป็นสุลต่านแห่งไทรบุรี และแบ่งรัฐไทรบุรีออกเป็นสามหน่วยการปกครองได้แก่[[สตูล]] [[ปะลิส]] และไทรบุรีเดิม ให้ตนกูมูฮัมหมัดอากิบเป็นเจ้าเมืองสตูล<ref>http://human.skru.ac.th/husoconference/conf/O16.pdf</ref> ให้ตวนไซยิดฮุสเซน (Tuan Syed Hussein) เป็นเจ้าเมือง[[ปะลิส]] หลังจากเสร็จสิ้นงานราชการที่หัวเมืองมลายูแล้ว พระยาศรีพิพัฒน์ฯจึงสร้างเจดีย์บนเขาเมืองสงขลาเรียกว่า "เจดีย์ขาว" เคียงคู่กับ "เจดีย์ดำ" ซึ่งเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ) ผู้เป็นพี่ชายได้สร้างขึ้นเมื่อยกทัพปราบหัวเมืองมลายูในพ.ศ. 2375
 
ต่อมาในรัชกาลที่ 4 โปรดให้เรียกพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาว่า '''เจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ''' และโปรดเกล้าให้เป็น '''สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ''' ให้สำเร็จราชการทุกสิ่งใน[[พระนคร]] รวมทั้งว่าที่พระคลังสินค้า คนทั่วไปนิยมเรียกท่านว่า "สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย" (เรียก[[สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค)|สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์]] พี่ชายของท่านว่าว่า "สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่")