ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอกซ์บอกซ์ (เครื่องเล่นวิดีโอเกม)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Username8518 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3:
| logo = [[ไฟล์:Xbox logo.png|200px]]
| image = [[ไฟล์:Xbox-console.jpg|220px]]
| manufacturer = [[ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์]]
| type = [[เครื่องเล่นวิดีโอเกม]]
| generation = [[เครื่องเล่นวิดีโอเกมยุคที่หก|ยุคที่หก]]
บรรทัด 17:
}}
 
'''เอกซ์บอกซ์''' ({{lang-en|Xbox}}) เป็น[[เครื่องเล่นวิดีโอเกม]]รุ่นแรกภายใต้เครื่องเล่นวิดีโอเกมชุดเอกซ์บอกซ์ซึ่งผลิตโดย[[ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์]] วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 ในทวีปอเมริกาเหนือ ตามด้วยประเทศออสเตรเลีย ทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่นในปี 2545<ref name=NA_Rel_Date>{{cite web|url=http://www.microsoft.com/en-us/news/press/2001/nov01/11-14midnightmadnesspr.aspx|title=Xbox Arrives in New York Tonight at Toys "R" Us Times Square - News Center|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> โดยนับเป็นครั้งแรกที่ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์เข้าสู่ตลาดเครื่องเล่นวิดีโอเกม เอกซ์บอกซ์เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมรุ่นที่ 6 ที่เป็นคู่แข่งกับ[[โซนี่|โซนี]][[เพลย์สเตชัน 2]] และ[[เกมคิวบ์|นินเทนโด เกมคิวบ์]] ซึ่งเอกซ์บอกซ์นับว่าเป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมแรกที่ถูกผลิตโดยบริษัทสัญชาติอเมริกานับตั้งแต่เครื่อง[[อาตาริ จากัวร์]] หยุดการผลิตในปี พ.ศ. 2539
 
เอกซ์บอกซ์เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2543 โดยชูจุดเด่นด้านสมรรถนะทางกราฟิกว่าเหนือกว่าคู่แข่ง โดยเครื่องเอกซ์บอกซ์ประกอบไปด้วยซีพียูที่ใช้กันในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอย่างอินเทลเพนเทียม III ความเร็ว 733 เมกะเฮิร์ตซ์ นอกจากนี้ยังถูกระบุว่ามีน้ำหนักและขนาดเหมือนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมแรกที่ประกอบ[[ฮาร์ดดิสก์]]ไว้ภายใน<ref>https://www.nytimes.com/2001/11/08/technology/08GAME.html?pagewanted=all</ref><ref>{{cite web|url=http://www.ign.com/articles/2011/11/23/the-life-and-death-of-the-original-xbox|title=The Life and Death of the Original Xbox|first=Mitch|last=Dyer|date=November 23, 2011|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> ในเดือนพฤศจิกายน 2545 ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ได้เปิดให้บริการ [[เอกซ์บอกซ์ไลฟ์]] บริการแบบเสียเงินเพื่อเล่นเกมแบบออนไลน์และอนุญาตให้ผู้สมัครใช้บริการดาวน์โหลดเนื้อหาและเชื่อมต่อกับให้เล่นอื่นผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์ <ref name="nelson">{{cite web|url=http://majornelson.com/2010/02/05/xbox-live-being-discontinued-for-original-xbox-consoles-and-games/ |title=Xbox Live's Major Nelson » Xbox LIVE being discontinued for Original Xbox consoles and games : |publisher=Majornelson.com |date=April 15, 2010 |accessdate=April 22, 2013}}</ref> ต่างจากบริการออนไลน์อื่น ๆ จากเซก้าและโซนี โดยเอกซ์บอกซ์ไลฟ์นั้นรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต[[อีเทอร์เน็ต]]ซึ่งถูกประกอบไว้มาในเครื่อง ทำให้ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์สามารถตั้งหลักในบริการการเล่นเกมแบบออนไลน์และยังช่วยให้เอกซ์บอกซ์กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับเครื่องเล่นอื่น ๆ ในเครื่องเล่นวิดีโอเกมรุ่นที่ 6 ได้
 
นอกจากนี้ความยอดนิยมในวิดีโอเกมฟอร์มยักษ์อย่าง ''[[เฮโล 2]]'' ได้ช่วยให้เกิดความนิยมในการเกมเล่นออนไลน์ผ่านเครื่องเล่นวิดีโอเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่ง<ref>{{cite web|url=http://uk-microsites.ign.com/history-of-first-person-shooters/|title=History Of First Person Shooters|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> แม้ว่าสิ่งนี้ทำให้เอกซ์บอกซ์ขึ้นมามียอดขายเป็นอันดับ 2 แซงหน้านินเทนโด เกมคิวบ์และ[[ดรีมแคสต์|เซด้า ดรีมแคสต์]] แต่ยังห่างกับเครื่องเพลย์สเตชัน 2 ของโซนี่อยู่มาก
<ref>https://www.nytimes.com/2004/12/13/science/playstation-2-shortage-frustrates-more-than-buyers.html</ref><ref>{{cite web|url=http://news.bbc.co.uk/1/hi/technology/3981475.stm|title=BBC NEWS - Technology - Slimmer PlayStation triple sales|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref>
 
รุ่นถัดมาของเอกซ์บอกซ์คือ [[เอกซ์บอกซ์ 360]] วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ปี 2548 ทำให้ เอกซ์บอกซ์ก็ถูกยุติการทำตลาดในเวลาถัดมาไม่นานเริ่มจากในประเทศที่ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ไม่ประสบความสำเร็จมากนักอย่างญี่ปุ่น ส่วนประเทศอื่น ๆ เริ่มหยุดจำหน่ายในปีถัดมา<ref name="Story of Xbox - VG247">{{cite web|url=http://www.vg247.com/2011/08/02/the-xbox-story-part-1-the-birth-of-a-console/|title=The Xbox Story, Part 1: The Birth of a Console|last=Garratt|first=Patrick|date=August 5, 2011|publisher=vg247.com|accessdate=June 26, 2013}}</ref>โดยเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายในทวีปยุโรปของเอกซ์บอกซ์ คือเกม ''[[เส้าหลินโชว์ดาวน์ (วิดีโอเกม)|เส้าหลินโชว์ดาวน์]]'' ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2550 และเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือคือเกม ''[[Madden NFL 09]]'' ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2551 การให้การสนับสุนสำหรับเอกซ์บอกซ์ที่หมดอายุนั้นสิ้นสุดลงในวันที่ 2 มีนาคม 2551 บริการเอกซ์บอกซ์ไลฟ์สำหรับเอกซ์บอกซ์สิ้นสุดเมื่อ 15 เมษายน 2552
 
== ประวัติ ==
ในปี 2541 วิศวกร 3 คนจากทีม[[ไดเรกต์เอกซ์|ไดเรกเอกซ์]]ของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ ได้แก่ Kevin Bachus, Seamus Blackley, Ted Hase และผู้นำทีมไดเรกเอกซ์ในเวลานั้นอย่าง Otto Berkes ร่วมทีมกันเพื่อทำการแกะแล็ปท็อปยี่ห้อ [[Dell]] เพื่อสร้างตัวต้นแบบของเกมคอนโซลที่มีพื้นฐานซอฟต์แวร์เป็นซอฟต์แวร์จากไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ โดยทีมนี้หวังว่าจะสามารถสร้างเกมคอนโซลที่สามารถมีอาร์ดแวร์มาตรฐานเทียบเท่ากับเกมคอนโซลตัวถัดไปจากโซนีอย่าง เพลย์สเตชัน 2 ซึ่งพวกเขามองว่าได้ดึงนักพัฒนาบางส่วนไปจากการพัฒนาเกมบนวินโดว์ โดยหลังจากทำการประกอบเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ทีมนี้ได้เข้าไปพบกับ [[Ed Fries]] ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายธุรกิจเกมของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ ณ เวลานั้น เพื่อนำเสนอ "ไดเรกเอกซ์ บอกซ์" ตัวต้นแบบ ซึ่งเป็นเกมคอนโซลที่มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยีไดเรกเอกซ์ซึ่งพัฒนาโดยกลุ่มของ Berkes โดยหลังจากได้เห็นผลิตภัณฑ์แล้ว Fries จึงได้ตัดสินใจสนับสนุนไอเดียของทีมที่จะสร้างเกมคอนโซลที่มีพื้นฐานมาจากไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ ไดเรกเอกซ์ขึ้น<ref name=seattletimes_20110525>{{cite news |title=Last of Xbox Dream Team, Otto Berkes Is Moving On |first=Brier |last=Dudley |date=May 25, 2011 |newspaper=The Seattle Time |publisher=Seattle Times Co |page=A12 |quote= Berkes and Hase were among a group of four who first pushed Microsoft to develop a Windows-based gaming system to compete with Sony's PlayStation 2, which was luring game companies from the Windows platform in the late 1990s. The other two were Seamus Blackley, who left in 2002, and Kevin Bachus, who left in 2001.}}</ref><ref name=seattletimes_20110524>{{cite news |title= Exclusive: Microsoft loses last Xbox founder, mobile PC visionary |first=Brier |last=Dudley |url=http://seattletimes.nwsource.com/html/technologybrierdudleysblog/2015137144_its_the_end_of_an.html |newspaper=The Seattle Times |publisher=Seattle Times Co |date=May 24, 2011 |accessdate=May 25, 2011 |quote= In 1998, Berkes and his team ordered a few Dell laptops, took them apart and built the first prototypes of a Windows gaming console. In order to appeal to young people, the name zBar (pronounced zed-BAH) ; laterm Ed Fries was leading Microsoft's games publishing business when the four Xbox founders pitched a "Direct X Box" based on the Windows DirectX graphics technology that was developed by Berkes' team. |archiveurl=https://www.webcitation.org/5yxFmYCBa?url=http://seattletimes.nwsource.com/html/technologybrierdudleysblog/2015137144_its_the_end_of_an.html |archivedate=May 25, 2011}}</ref><ref>{{cite web | url = http://www.ign.com/articles/2018/05/16/how-the-xbox-was-born-at-35000-feet-a-ign-unfiltered | title = How The Xbox Was Born At 35,000 Feet | first = Joseph | last = Knoop | date = May 16, 2018 | accessdate = May 16, 2018 | work = [[IGN]] }}</ref>
 
ระหว่างการพัฒนา ชื่อเดิมของเกมคอนโซลเครื่องนี้อย่าง ไดเรกเอกซ์ บอกซ์ ถูกย่อให้เหลือเพียง "เอกซ์บอกซ์" ทั้งนี้ฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ไม่ได้ชอบชื่อนี้และพยายามเสนอชื่ออื่นขึ้นมาทดแทน ระหว่างการทดสอบในวงจำกัด ชื่อ "เอกซ์บอกซ์" นั้นเป็นหนึ่งในรายการชื่อที่เป็นไปได้ที่จะแสดงให้เห็นว่าชื่อนี้จะไม่เป็นที่นิยมต่อผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตามภายหลังการทดสอบกลับพบว่าชื่อ "เอกซ์บอกซ์" นั้นเป็นที่ต้องการมากกว่าชื่ออื่น ๆ ทำให้ชื่อ "เอกซ์บอกซ์"กลายเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์นี้<ref name=gamasutra_2009-08-14>{{cite web |url=http://www.gamasutra.com/php-bin/news_index.php?story=24831 |title=Interview: Former Microsoft Exec Fries Talks Xbox's Genesis |first=Leigh |last=Alexander |date=August 14, 2009 |work=Gamasutra |publisher=UBM TechWeb |archiveurl=https://www.webcitation.org/5yxGkLXlW?url=http://www.gamasutra.com/php-bin/news_index.php?story=24831 |archivedate=May 25, 2011 |accessdate=May 25, 2011 |quote=Direct X-Box, of course, was truncated to 'Xbox,' -- and "marketing hated the name," says Fries. "They went off and created this whole, long list of better names for the machine." In focus testing, the marketing team left the name 'Xbox' on that long list simply as a control, to demonstrate to everyone why it was a horrible name for a console. "Of course, 'Xbox' outscored, in focus testing, everything they came up with. They had to admit it was going to be the Xbox." |deadurl=yes |df=mdy-all }}</ref>
 
นี่เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมแรกของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ภายหลังทำการพัฒนาร่วมกับเซก้าเพื่อพอร์ตไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ วินโดว์ ซีอี ไปยัง ดรีมแคสต์ โดยไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์เลื่อนการเปิดตัวเอกซ์บอกซ์ไปหลายครั้ง เอกซ์บอกซ์ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในที่สาธารณะชนในช่วงครึ่งหลังปี 2542 ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของ[[บิล เกตส์]]ที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ ณ เวลานั้นว่า "พวกเราต้องการให้เอกซ์บอกซ์เป็นแพลตฟอร์มทางเลือกสำหรับนักพัฒนาที่ยอดเยี่ยมและมีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดในโลก"<ref>{{cite press release|url=http://news.microsoft.com/2000/03/10/xbox-brings-future-generation-games-to-life/ |title=Xbox Brings "Future-Generation" Games to Life |publisher=Microsoft |date=March 10, 2000 |accessdate=May 3, 2009}}</ref>
 
เอกซ์บอกซ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2543 ในงาน [[Game Developers Conference]]<ref>{{cite web |url=http://www.microsoft.com/en-us/news/features/2000/03-10xbox.aspx |title=Xbox Brings "Future-Generation" Games to Life |publisher=[[Microsoft]] |date=March 10, 2000 |accessdate=August 12, 2013}}</ref> ผู้เข้าชมต่างประทับใจในเทคโนโลยีของมัน โดย ณ ช่วงเวลาที่บิล เกตส์ทำการประกาศเอกซ์บอกซ์ สถานการณ์ยอดขายของเซก้า ดรีมแคสต์กำลังลดลงและโซนี เพลย์สเตชัน 2 กำลังวางขายในประเทศญี่ปุ่น<ref name="xboxtimeline1">{{cite web|first=Steven L. |last=Kent |url=http://archive.gamespy.com/articles/january04/Xboxtimeline/ |title=Xbox Timeline |publisher=GameSpy.com |date=February 16, 2004 |accessdate=May 3, 2009 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20090425202720/http://archive.gamespy.com/articles/january04/Xboxtimeline/ |archivedate=April 25, 2009 }}</ref> ทั้งนี้เกตส์ได้พูดคุยกับประธานของเซก้า [[Isao Okawa]] เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการให้เอกซ์บอกซ์สามารถเข้ากันได้กับเกมของดรีมแคสต์ แต่การเจรจาล้มเหลวหลังการเจรจาถึงความเป็นไปได้ว่าจะใช้บริการเซก้าเน็ตในการออนไลน์หรือไม่<ref>{{cite web|url=http://kotaku.com/5447897/how-xbox-could-have-helped-the-dreamcast-survive|title=How Xbox Could Have Helped The Dreamcast Survive|first=Brian|last=Ashcraft|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref>
 
ตัวเครื่องเอกซ์บอกซ์เปิดตัวสู่สาธารณะชนโดยเกตส์และนักมวยปล้ำอาชีพ [[ดเวย์น จอห์นสัน|เดอะ ร็อก]] ที่งาน [[Consumer Electronics Show|CES]] 2001 ในลาสเวกัสเมื่อ 3 มกราคม 2544<ref>{{cite web |url=http://news.cnet.com/2100-1040-250632.html |title=Microsoft got game: Xbox unveiled |publisher=[[CBS Interactive]] |work=CNET News |date= January 6, 2001 |accessdate=August 12, 2013 |first=David |last=Becker}}</ref> ถัดมาในเดือนพฤษภาคม ณ งาน E3 2001 ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์เปิดเผยวันวางจำหน่ายและราคา<ref>{{cite web |url=http://uk.gamespot.com/news/e3-2001-microsoft-delivers-xbox-launch-details-2761182 |archive-url=https://archive.is/20130628041548/http://uk.gamespot.com/news/e3-2001-microsoft-delivers-xbox-launch-details-2761182 |dead-url=yes |archive-date=June 28, 2013 |title=E3 2001: Microsoft delivers Xbox launch details |publisher=[[CBS Interactive]] |work=GameSpot.com |date=May 16, 2001 |accessdate=August 12, 2013 |author=Lauren Fielder, Shane Satterfield }}</ref> โดยเกมที่วางจำหน่ายพร้อมเครื่องส่วนใหญ่ก็ประกาศภายในงานนี้ ที่เป็นที่รู้จักกันดีได้แก่ ''[[เฮโล: คอมแบทอิวอลฟด์]]'' และ ''[[เดดออร์อะไลฟ์ 3]]''
 
และเนื่องจากความนิยมอันมหาศาลของเครื่องเล่นวิดีโอเกมในประเทศญี่ปุ่น ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์จึงชะลอการเปิดตัวเอกซ์บอกซ์ในทวีปยุโรปก่อน เพื่อมุ่งเน้นการทำตลาดไปยังตลาดเครื่องเล่นเกมในญี่ปุ่นก่อน ซึ่งแม้ว่าการเปิดตัวในยุโรปจะล้าช้า ก็ได้รับการพิสูจน์ทางยอดขายแล้วว่าประสบความสำเร็จมากกว่าการจัดจำหน่ายเครื่องเอกซ์บอกซ์ในประเทศญี่ปุ่น
 
กลยุทธ์ของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์เพื่อจัดจำหน่ายเอกซ์บอกซ์มีประสิทธิภาพอย่างมาก อย่างเช่นในการเตรียมการสำหรับจัดจำหน่าย ไมโครซอฟท์เข้าซื้อไมโครซอฟต์เข้าซื้อ[[บันจี]]และใช้เกม ''เฮโล: คอมแบทอิวอลฟด์'' เป็นเกมวางจำหน่ายพร้อมเครื่อง เนื่องจากในเวลานั้นวิดีโอเกมชุด ''[[โกลเด้นอาย 007 (วิดีโอเกม พ.ศ. 2540)|โกลเด้นอาย 007]]'' สำหรับ [[นินเทนโด 64]] เป็นหนึ่งในเกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในระดับทั่วไปที่ปรากฏในเครื่องเล่นวิดีโอเกมเช่นเดียวกับเกม ''เพอร์เฟค ดาร์ก'' และ ''[[เมดัลออฟออเนอร์]]'' โดย ''เฮโล: คอมแบทอิวอลฟด์'' กลายเป็นวิดีโอเกมที่เป็นปัจจัยสำคัญให้เอกซ์บอกซ์ขายได้ดี<ref name="xboxtimeline1" /> และส่งผลให้ในปี 2545 ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ได้ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตเครื่องเล่นเกมอันดับสองในตลาดอเมริกาเหนือ นอกจากนี้บริการเอกซ์บอกซ์ไลฟ์ยังทำให้ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์สามารถตั้งหลักในการเล่นเกมออนไลน์และช่วยให้เอกซ์บอกซ์กลายเป็นคู่แข่งกับเครื่องเล่นวิดีโอเกมยุคที่หกเครื่องอื่น ๆ ได้
 
=== การโปรโมท ===
บรรทัด 58:
ในระหว่างการพัฒนาเอกซ์บอกซ์ ได้มีการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ภายในหลายครั้งเพื่อป้องกันการแก้ไขชิพจากบุคคลภายนอก เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผลิตและเพื่อทำให้ไดร์ฟดีวีดีมีความไว้วางใจได้ (เนื่องจากในบางเครื่องที่ใช้ในการทดสอบพบว่าเกิดปัญหาอ่านแผ่นผิดพลาดระหว่างที่ใช้ไดร์ฟดีวีดีของ Thomson) แม้ในเครื่องที่ผลิตออกมาช่วงหลัง ๆ จะใช้ไดร์ฟดีวีดียี่ห้อ Thomson รุ่น TGM-600 และไดร์ฟดีวีดียี่ห้อ Philips รุ่น VAD6011 แต่ยังพบถึงปัญหาที่ไดร์ฟไม่สามารถที่จะอ่านแผ่นดีวีดีรุ่นใหม่ ๆ ได้และยังปรากฏรหัสซึ่งแสดงโค้ดโดยใช้ [[Programmed input/output|PIO]]/[[Direct memory access|DMA]] ในการระบุปัญหา โดยเครื่องที่พบปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถรับสิทธิในการซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องจากการรับประกัน
 
ในปี 2545 ไมโครซอฟท์และไมโครซอฟต์และ [[Nvidia]] เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับข้อพิพาทเกี่ยวกับการกำหนดราคาชิพของ Nvidia สำหรับเอกซ์บอกซ์<ref name="eetimes-chip-dispute">{{cite web|url=http://www.eetimes.com/electronics-news/4094562/Microsoft-takes-Nvidia-to-arbitration-over-pricing-of-Xbox-processors|title= Microsoft takes Nvidia to arbitration over pricing of Xbox processors|accessdate=June 29, 2006|date=April 29, 2002|publisher=[[EE Times]]}}</ref> ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ยื่นฟ้องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ต้องการส่วนลด 13 ล้านเหรียญสำหรับการจัดส่งชิบในปีงบประมาณ 2545 ของ Nvidia ที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อตกลงที่บริษัททั้งสองได้ทำขึ้น นอกจากนี้ยังมีคำร้องว่าต้องการให้มั่นใจอีกว่าชิปที่ผลิตออกมาในอนาคตจะได้รับการลดราคาตามข้อตกลงที่ทำก่อนหน้าและ Nvidia จะผลิตอย่างเต็มที่ตามคำสั่งซื้อจากไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์โดยไม่มีข้อจำกัดทางปริมาณการผลิต เรื่องนี้ได้รับการตัดสินเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2546 โดยไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์โดยทั้งสองฝ่ายต่างทำข้อตกลงกันใหม่<ref>{{cite web|url=http://www.eetimes.com/electronics-news/4090108/Microsoft-and-Nvidia-settle-Xbox-chip-pricing-dispute|title=Microsoft and Nvidia settle Xbox chip pricing dispute|accessdate=June 29, 2006|date=February 6, 2003|publisher=[[EE Times]]}}</ref>
 
ในการเชื่อต่อกับทีวีนั้นเอกซ์บอกซ์มีการให้ AV มาภายในกล่องเพื่อเชื่อมต่อ สัญญาณวีดิทัศน์คอมโพสิตและระบบเสียงทั้งแบบโมโนและสเตริโอสู่ทีวีที่ใช้ขั้วต่อแบบ RCA ในการรับข้อมูล เครื่องที่จัดจำหน่ายในทีวปยุโรปนั้นมีการแถมตัวแปลงจาก RCA สู่พอร์ต SCART เช่นเดียวกับสาย AV มาตรฐาน
บรรทัด 77:
 
=== ระบบปฏิบัติการ ===
เอกซ์บอกซ์ใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะที่ปรับปรุงมาจาก[[เคอร์เนล]]ของวินโดวส์ โดย[[ส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์]]มีลักษณะคล้ายกับที่พบ [[ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ วินโดวส์]]เช่น[[ไดเรกเอกซ์]] 8.1 โดยซอฟต์แวร์นั้นมีพื้นฐานมาจากเคอร์เนลของวินโดวส์ เอ็นที แต่ปรับแต่งล็อกไฟล์<ref>{{cite web|url=http://blogs.msdn.com/xboxteam/archive/2006/02/17/534421.aspx|title=The Xbox Operating System|work=Xbox Team Blog|accessdate=July 3, 2008}}</ref>
 
[[ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้]]ของเอกซ์บอกซ์นั้นเรียกว่าเอกซ์บอกซ์ แดชบอร์ดซึ่งประกอบไปด้วย ซอฟต์แวร์เล่นสื่อที่สามารถเล่นซีดีเพลง ริบซีดีสู่ฮาร์ดดิสก์ในเอกซ์บอกซ์และเล่นเพลงในฮาร์ดดิสก์ที่ริบจากซีดี นอกจากนี้ยังให้ผู้ใช้จัดการเซฟเกม เพลงและเนื้อหาดาวน์โหลดจากบริการเอกซ์บอกซ์ไลฟ์ ให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้และจัดการบัญชีของพวกเขา แดชบอร์ดนั้นสามารถใช้ได้เฉพาะระหว่างที่ผู้ใช้ไม่ได้เล่นเกมหรือภาพยนตร์เท่านั้น โดยสีของแดชบอร์ดมีสีเขียวและดำซึ่งเป็นสีเดียวกับบนตัวเครื่องเอกซ์บอกซ์ ตอนที่เอกซ์บอกซ์วางจำหน่ายในปี 2544 เอกซ์บอกซ์ไลฟ์ยังไม่เปิดให้บริการ ทำให้คุณสใบัติในส่วนออนไลน์ยังไม่สามารถใช้ได้
 
เอกซ์บอกซ์ไลฟ์เปิดให้บริการในปี 2545 แต่ในการที่จะเข้าถึงบริการได้นั้น ผู้ใช้ต้องทำการซื้อชุดเริ่มต้นสำหรับเอกซ์บอกซ์ไลฟ์ ซึ่งประกอบไปด้วยชุดหูฟัง และบัตรสมัครสมาชิกเพิ่มเติม. ระหว่างที่เอกซ์บอกซ์ยังคงได้รับการสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ เอกซ์บอกซ์ แดชบอร์ดได้รับการอัปเดตผ่านเอกซ์บอกซ์ไลฟ์หลายครั้งเพื่อลดการโกงและเพิ่มคุณสมบัติ
=== เกม ===
 
บรรทัด 88:
แม้ว่าเอกซ์บอกซ์จะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทภายนอกที่แข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง แต่เกมเอกซ์บอกซ์ในช่วงต้นจำนวนมากไม่ได้ใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพจนเต็มที่แม้ว่าจะวางจำหน่ายไปเป็นปี โดยเกมเวอร์ชันเอกซ์บอกซ์ของเกมที่ลงให้กับเครื่องเล่นวิดีโอเกมหลายเครื่องนั้นมักจะมาพร้อมกับการเพิ่มคุณสมบัติเล็กน้อยหรือการปรับปรุงด้านกราฟิกเพื่อแยกความแตกต่างจากเครื่องเพลย์สเตช้น 2 และเกมคิวบ์ ซึ่งทำให้จุดขายหลักของเอกซ์บอกซ์ไม่ได้รับการใส่ใจมาก ในช่วงเวลาสั้น ๆ โซนีโต้กลับเอกซ์บอกซ์ด้วยการรักษาเกมที่เป็นที่รอคอยอย่างมากให้เป็นเกมที่ลงเฉพาะเพลย์สเตชัน 2 ในช่วงเวลาหนึ่งอย่างเกมชุด ''[[แกรนด์เธฟต์ออโต]]'' และเกมชุด ''[[เมทัลเกียร์]]'' เช่นเดียวกับนินเทนโดที่รักษาเกมชุด ''[[เรซิเดนต์อีวิล]]'' ให้เป็นเกมเฉพาะเครื่อง[[เกมคิวบ์]] โดยบริษัทภายนอกเด่น ๆ ที่สนับสนุนเอกซ์บอกซ์คือ[[เซก้า]] ซึ่งประกาศว่ามีเกมจำนวน 11 เกมลงเฉพาะบนเอกซ์บอกซ์ในงาน[[โตเกียวเกมโชว์]]<ref>{{cite web|url=https://news.microsoft.com/2001/03/30/sega-and-microsoft-team-up-for-strategic-xbox-alliance/|title=Sega and Microsoft Team Up for Strategic Xbox Alliance - News Center|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> เซก้าได้วางจำหน่ายเกมเฉพาะบนเอกซ์บอกซ์อย่าง ''[[เพนเซอร์ดรากูลออต้า]]'' และ ''[[เจ็ตเซ็ตเรดิโอฟิวเจอร์]]'' ซึ่งได้รับคำชมจากนักวิจารณ์<ref>{{cite web|url=http://www.gamerankings.com/xbox/537421-panzer-dragoon-orta/index.html|title=Panzer Dragoon Orta for Xbox - GameRankings|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.gamerankings.com/xbox/475263-jsrf-jet-set-radio-future/index.html|title=JSRF: Jet Set Radio Future for Xbox - GameRankings|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref>
 
ในปี 2545 และ 2546 การวางขายเกมที่มีชื่อเสียงสูงช่วยให้โมเมนตัมของเอกซ์บอกซ์ดีขึ้นและแยกตัวออกจากออกจากเพลย์สเตชัน 2 ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ยังเข้าซื้อกิจการของแรร์ที่ทำเกมฮิตจำนวนมากบนเครื่องนินเทนโด 64 เพื่อที่จะขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทเกมภายใน<ref name="ign.com">{{cite web|url=http://www.ign.com/articles/2002/09/24/microsoft-buys-rare|title=Microsoft Buys Rare|first=Aaron|last=Bouldling|date=September 24, 2002|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> บริการเอกซ์บอกซ์ไลฟ์เริ่มให้บริการช่วงหลังปี 2545 พร้อมกับเกมอย่าง ''โมโตจีพี'' ''เมชแอสซอล'' และ''ทอม แคลนซี่ส์ โกสต์ รีคอน'' โดยเกมขายดีและได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกหลายเกมก็ออกตามมาเช่นทอม แคลนซี สปลินเตอร์ เซลล์และ ''[[สตาร์ วอร์ส: ไนทส์ออฟดิโอลด์รีพับลิค (วิดีโอเกม)|สตาร์ วอร์ส: ไนทส์ออฟดิโอลด์รีพับลิค]]'' เมื่อข้อตกลงของ [[Take-Two Interactive]] ที่จะทำเกมลงเฉพาะกับโซนีมีการแก้ไขเพื่อให้ ''[[แกรนด์เธฟต์ออโต III]]'' และภาคต่อวางจำหน่ายบนเอกซ์บอกซ์ บริษัทจัดจำหน่ายอื่นก็เริ่มที่จะนำเกมลงเอกซ์บอกซ์ โดยออกวางจำหน่ายห่างจากเวอร์ชันเพลย์สเตชัน 2 หลายเดือน
 
ปี 2547 เป็นปีที่เกมเฉพาะเครื่อง ''[[เฟเบิล]]''<ref>{{cite web|url=http://www.gamerankings.com/xbox/516688-fable/index.html|title=Fable for Xbox - GameRankings|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> และ [[นินจาไกเด็น (วิดีโอเกม พ.ศ. 2547)|''นินจาไกเด็น'']]<ref>{{cite web|url=http://www.gamerankings.com/xbox/561532-ninja-gaiden/index.html|title=Ninja Gaiden for Xbox - GameRankings|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> ซึ่งทั้งคู่กลายเป็นเกมที่ได้รับความนิยมบนเอกซ์บอกซ์<ref>{{cite web|url=http://www.ign.com/articles/2004/09/23/fable-sells-big|title=Fable Sells Big|first=David|last=Adams|date=September 23, 2004|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> ในช่วงครึ่งหลังปี เฮโล 2 ออกวางจำหน่ายและกลายเป็นสื่อบันเทิงซึ่งทำรายได้สูงสุดภายในวันแรก ณ เวลานั้นที่ 125 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ<ref>{{cite web|url=http://news.cnet.com/Halo-2-clears-record-125-million-in-first-day/2100-1043_3-5447379.html| title='Halo 2' clears record $125 million in first day|accessdate=September 30, 2007|last=Becker|first= David|date=November 10, 2004| publisher=News.com}}</ref> และกลายเป็นเกมที่ขายดีที่สุดบนเครื่องเอกซ์บอกซ์<ref name="halo2sales">{{cite web | author=Asher Moses | date=August 30, 2007 | url=http://www.smh.com.au/news/biztech/prepare-for-allout-war/2007/08/30/1188067256196.html | title=Prepare for all-out war | publisher=[[The Sydney Morning Herald]] | accessdate=July 16, 2008 | quote=Combined, the first two Halo games have notched up sales of more than 14.5 million copies so far, about 8 million of which can be attributed to Halo 2, which is the best-selling first-generation Xbox game worldwide.}}</ref> เฮโล 2 กลายเป็นเกมที่เป็นจุดขายของระบบเกมที่สามต่อภายในปีนั้นจาก ''[[MechAssault|เมชแอสซอล]]'' & ''[[Tom Clancy's Rainbow Six 3: Raven Shield#Tom Clancy's Rainbow Six 3|ทอม แคลนซี เรนโบว์ซิกส์ 3]]'' นอกจากนี้ในปีนั้นไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ยังได้ตกลงกับ EA ที่จะนำเกมที่ยอดนิยมมาลงบนเอกซ์บอกซ์ไลฟ์เพื่อสร้างความนิยมในบริการของพวกเขา
 
ปี 2548 มีเกมเฉพาะเครื่องที่ได้รับความนิยมอย่าง ''[[Conker: Live & Reloaded]]'' และ [[Forza Motorsport (video game)|''ฟอร์ซ่ามอเตอร์สปอร์ต'']] นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ยังได้เริ่มวางจำหน่ายเอกซ์บอกซ์ 360 ซึ่งเป็นรุ่นถัดมา เกมอย่าง ''[[Kameo: Elements of Power]]'' และ ''[[Perfect Dark Zero|เพอร์เฟคดาร์ก ซีโร่]]'' ซึ่งเดิมทีนั้นถูกพัฒนาเพื่อลงเอกซ์บอกซ์<ref name="ign.com"/> กลายเป็นเกมวางจำหน่ายพร้อมเครื่องเอกซ์บอกซ์ 360 แทน โดยเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายสำหรับเอกซ์บอกซ์ได้แก่เกม ''[[Madden NFL 09]]'' ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2551
 
== บริการ ==
 
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2545 ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์เปิดให้บริการเอกซ์บอกซ์ไลฟ์ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สมัครเพื่อที่เล่นเกมของเอกซ์บอกซ์แบบออนไลน์กับผู้ใช้คนอื่น ๆ ที่สมัครบริการเดียวกันทั่วโลกได้ รวมถึงดาวน์โหลดเนื้อหาใหม่ ๆ สู่งฮาร์ดดิสก์ของเครื่องได้โดยตรง บริการออนไลน์นี้ทำงานผ่านเฉพาะการเชื่อต่ออินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบรนด์เท่านั้น โดยมีสมัครใช้บริการจำนวน 250,000 คนภายใน 2 เดือนแรก<ref>{{cite web|url=http://games.ign.com/articles/381/381618p1.html |title=Xbox Live Subscriptions Double Expectations |accessdate=September 30, 2007 |author=Coleman, Stephen |date=January 7, 2003 |publisher=IGN |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20070314203443/http://games.ign.com/articles/381/381618p1.html |archivedate=March 14, 2007 }}</ref> ในเดือนกรกฎาคม 2547 ไมโครซอฟท์ประกาศว่าเอกซ์ไมโครซอฟต์ประกาศว่าเอกซ์บอกซ์ไลฟ์มีผู้ใช้บริการครบ 1 ล้านคน ในเดือนเดียวกันของปีถัดมายอดสมาชิกเพิ่มเป็น 2 ล้านคน ในเดือนกรกฎาคม 2550 มีผู้ใช้จำนวน 3 ล้านราย โดยในเดือนพฤษภาคม ปี 2552 มีจำนวนผู้สมัครใช้บริการ 20 ล้านราย<ref>{{cite web|url=https://www.engadget.com/2009/05/28/microsoft-touts-30-million-xbox-360s-sold-20-million-xbox-live/ |title=Microsoft touts 30 million Xbox 360s sold, 20 million Xbox LIVE members |publisher=Engadget |accessdate=November 11, 2010}}</ref> ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 มีการประกาศว่าเอกซ์บอกซ ไลฟ์สำหรับเอกซ์บอกซ์จะหยุดให้บริการในวันที่ 14 เมษายน 2553<ref name="nelson"/> บริการนี้หยุดตามที่วางแผนไว้ แต่กลุ่มผู้เล่นจำนวน 20 คนยังสามารถใช้บริการได้อยู่นานนับเดือน โดยการเปิดเครื่องเล่นวิดีโอเกมให้เชื่อมต่อกับเกมเฮโล 2 ค้างไว้<ref>{{cite web|url=http://www.eurogamer.net/articles/people-still-playing-halo-2-somehow|title=People still playing Halo 2 somehow|date=April 26, 2010|accessdate=June 4, 2010|publisher=[[Eurogamer]]}}</ref>
 
== ยอดขาย ==
บรรทัด 124:
ในเดือนพฤศจิกายน 2544 เอกซ์บอกซ์ได้วางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือและขายหมดอย่างรวดเร็ว โดยการวางจำหน่ายในภูมิภาคนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยใน 3 เดือนแรกสามารถขายได้ 1.53 ล้านเครื่องซึ่งมากกว่ารุ่นถัดมาอย่างเอกซ์บอกซ์ 360 เช่นเดียวกับ [[เกมคิวบ์]] [[เพลย์สเตชัน 3]] [[วียู]]และแม้แต่ [[เพลย์สเตชัน 2]] และ[[วี]]<ref>{{cite web|last=Orland |first=Kyle |url=https://arstechnica.com/gaming/2013/02/wii-u-has-historically-bad-january-sells-about-50000-units-in-us/ |title=Wii U has historically bad January, sells about 50,000 units in U.S |publisher=Arstechnica.com |date=February 15, 2013 |accessdate=April 25, 2014}}</ref>
 
เอกซ์บอกซ์ขายได้ทั้งหมด 24 ล้านเครื่องทั่วโลก ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2549 จากข้อมูลของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์<ref name="gamers_catch" /> โดยแบ่งเป็น 16 ล้านเครื่องในทวีปอเมริกาเหนือ 6 ล้านเครื่องในทวีปยุโรป 2 ล้านเครื่องในทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์
 
ยอดขายของเอกซ์บอกซ์ในแต่ละเดือนนั้นทั้งหมดแทบจะตามหลังยอดขายของเพลย์สเตชัน 2 ยกเว้นในเดือนเมษายน 2547 ที่เอกซ์บอกซ์ขายดีกว่าเพลย์สเตชัน 2 ในสหรัฐอเมริกา<ref>{{cite web |url=http://uk.gamespot.com/news/xbox-officially-outsells-ps2-in-us-6099369 |archive-url=https://archive.is/20130628041554/http://uk.gamespot.com/news/xbox-officially-outsells-ps2-in-us-6099369 |dead-url=yes |archive-date=June 28, 2013 |title=Xbox officially outsells PS2 in US |publisher=[[CBS Interactive]] |work=GameSpot.com |date=May 26, 2004 |accessdate=August 12, 2013 |first=Tor |last=Thorsen }}</ref> แม้จะมียอดขายห่างจากเพลย์สเตชัน 2 เป็นอย่างมาก เอกซ์บอกซ์ถือว่าประสบความสำเร็จ (อย่างมากในทวีปอเมริกาเหนือ) มียอดขายในอันดับสองของเครื่องเล่นวิดีโอเกมรุ่นที่ 6 อย่างมั่นคง
=== ญี่ปุ่น ===
แม้จะมีการประชาสัมพันธ์อย่างหนักในประเทศญี่ปุ่น<ref>{{cite web |url=http://thegia.psy-q.ch/sites/www.thegia.com/news/0202/n22a.html |title=Xbox launches in Japan |publisher=The Gaming Intelligence Agency |date=February 22, 2002 |accessdate=August 12, 2013 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20131212122449/http://thegia.psy-q.ch/sites/www.thegia.com/news/0202/n22a.html |archivedate=December 12, 2013 |df=mdy-all }}</ref><ref>{{cite web |url=http://www.theage.com.au/articles/2002/02/22/Japan-xbox.htm |title=Xbox unleashed in Japan |publisher=The Age Company Ltd. |date=February 22, 2002 |accessdate=August 12, 2013}}</ref> แต่ทว่ายอดขายของเครื่องเอกซ์บอกซ์ในประเทศญี่ปุ่นกลับได้ย่ำแย่เป็นอย่างมาก (460,000 เครื่องจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2554)<ref>{{cite web|url=http://uk.ign.com/articles/2011/11/23/the-life-and-death-of-the-original-xbox?page=2 |title=The Life and Death of the Original Xbox|publisher=''IGN UK'' |accessdate=April 25, 2014}}</ref> นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าที่เอกซ์บอกซ์จะมีปัญหาในการต่อกรกับโซนีและนินเทนโดก่อนที่จะวางจำหน่ายในญี่ปุ่น โดยจะต้องแข่งกับของเล่นที่คล้ายกันและบางอย่างของเอกซ์บอกซ์ไม่เหมาะสำหรับสังคมในญี่ปุ่น (เช่นขนาดของเครื่อง) ทั้งยังขาดเกมที่วางจำหน่ายพร้อมเครื่องที่น่าสนใจสำหรับญี่ปุ่นเช่นเกมแนวสวมบทบาท<ref>{{cite web |url=http://www.taipeitimes.com/News/worldbiz/archives/2002/02/21/0000124876 |title=Game-over for Xbox in Japan? |publisher=[[Taipei Times]] |date=February 21, 2002 |accessdate=August 12, 2013}}</ref> โดยในสุดสัปดาห์ของ 14 เมษายน 2545 ยอดขายของเอกซ์บอกซ์ห่างจากคู่แข่งอย่างโซนีและนินเทนโดเป็นอย่างมากรวมทั้งยอดขายของ [[WonderSwan]] และ [[เพลย์สเตชัน]]<ref>{{cite web |url=http://uk.ign.com/articles/2002/04/18/japan-gcn-sales |title=Japan GCN sales |publisher=''[[IGN Entertainment]]'' |date=April 18, 2002 |accessdate=August 12, 2013}}</ref> ในเดือนพฤศจิกายน 2545 หัวหน้าเอกซ์บอกซ์ในประเทศญี่ปุ่นได้ลาออก นำไปสู่การหารือกันถึงอนาคตของเอกซ์บอกซ์ ที่มียอดขายเพียง 278,860 เครื่องนับตั้งแต่วางจำหน่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2545<ref>{{Citation|date=December 2002| title = Xbox dead in Japan?| magazine = [[GamesTM]]| issue = 1| publisher = [[Imagine Publishing]]| page = 11| issn = 1478-5889| url = https://archive.org/details/gamesTM001| accessdate = April 25, 2014| quote = "Xbox is failing in Japan, there's no denying it. Despite the country's fascination with America, it seems uneasy investing in a non- Japanese product; so far just 278,860 Xbox consoles have been sold, compared to almost 700,000 GameCubes during the same period. These embarrassing figures have resulted in Hirohisa Ohura, Director of Xbox Japan, being moved to a different department within Microsoft, hinting that a certain amount of re-structuring is about to take place."}}</ref><ref>{{cite web |url=http://www.pinoyexchange.com/forums/showthread.php?t=124138 |title=Japan Xbox chief steps down |publisher=PinoyExchange Forums |date=November 10, 2002 |accessdate=August 12, 2013}}</ref> ในสุดสัปดาห์ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2547 เอกซ์บอกซ์ขายได้เพียง 272 เครื่อง ซึ่งแย่กว่าเพลย์สเตชันที่ขายได้มากกว่า 4 เท่า<ref>{{cite web |url=http://www.gamepro.com/microsoft/xbox/games/news/37034.shtml |archiveurl=https://web.archive.org/web/20040817075442/http://www.gamepro.com/microsoft/xbox/games/news/37034.shtml |title=Xbox Outsold by PS one in Japan |publisher=[[IDG Entertainment]] |work=GamePro.com |date=July 23, 2004 |accessdate=August 12, 2013 |archivedate=August 17, 2004 |author=Funky Zealot}}</ref> ที่เอกซ์บอกซ์ทำได้ แต่ทว่า ขายได้มากกว่าเกมคิวบ์ในสุดสัปดาห์ของวันที่ 26 พฤษภาคม 2545<ref>[https://archive.is/20130628041503/http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:V9EFkJlkfloJ:http://m.computerandvideogames.com/49940/xbox-overtakes-gamecube-in-japan%2Bxbox+overtakes+gamecube&oe=utf-8&rls=org.mozilla:en-US:official&client=firefox-a&hl=en&ct=clnk Xbox overtakes GameCube in Japan]</ref> แม้จะมีความพยายามของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์ แต่เกมที่น่าสนใจแนวญี่ปุ่นบางเกมที่เป็นเกมเฉพาะสำหรับเอกซ์บอกซ์ เช่น เดด ออร์ อไลฟ์ 3 หรือนินจาไกเด็นซึ่งมีส่วนอย่างมากต่อยอดขายเอกซ์บอกซ์ในญี่ปุ่น
 
โดยรุ่นถัดมาอย่างเอกซ์บอกซ์ 360 สามารถขายได้ 1.6 ล้านเครื่องในเดือนกุมภาพันธ์ 2014<ref>{{cite web|last=Phillips |first=Tom |url=http://www.eurogamer.net/articles/2014-02-26-wii-u-has-finally-overtaken-xbox-360-in-japan |title=Wii U has finally overtaken Xbox 360 in Japan • |publisher=Eurogamer.net |date=February 26, 2014 |accessdate=April 25, 2014}}</ref>
บรรทัด 144:
 
[[หมวดหมู่:เครื่องเล่นวิดีโอเกม]]
[[หมวดหมู่:ไมโครซอฟท์ไมโครซอฟต์]]
{{เครื่องเกมยุคที่หก}}
{{ออกปี|2544}}