ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เบอร์นาร์ด มอนต์โกเมอรี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24:
ในช่วง[[สมัยระหว่างสงคราม]] เขาได้บัญชาการกองพัน(หน่วย)ที่ 17 รอยัล ฟิวซิเลียร์(Royal Fusiliers) และต่อมา กองพันที่ 1 กรมทหารรอยัล วอร์วิกเชียร์ ก่อนที่จะมาเป็นผู้บัญชาการกองพลน้อยทหารราบที่ 9 และเจ้าหน้าที่นายพลผู้ซึ่งบังคับบัญชา(GOC) ในกองพลทหารราบที่ 8
 
ในช่วง[[การทัพทะเลทรายตะวันตก]]ในสงครามโลกครั้งที่สอง มอนต์โกเมอรีได้บัญชาการกองทัพบริติชที่ 8 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1942 ตลอดจนถึง[[ยุทธการที่อัลอะละมัยน์ครั้งที่สอง]] และชัยชนะครั้งสุดท้ายของ[[ฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง|ฝ่ายสัมพันธมิตร]]ใน[[การทัพตูนิเซีย|ตูนีเซีย]]ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1943 ต่อมาเขาก็ได้บัญชาการกองทัพบริติชที่ 8 ในช่วงระหว่าง[[การบุกครองเกาะซิซิลีของฝ่ายสัมพันธมิตร|ฝ่ายสัมพันธมิตรบุกครองเกาะซิซิลี]]และ[[การบุกครองอิตาลีของฝ่ายสัมพันธมิตร|อิตาลี]] และเป็นผู้บัญชาการกองทัพบกฝ่ายสัมพันธมิตรทั้งหมดในช่วง[[การบุกครองนอร์ม็องดี|ยุทธการที่นอร์ม็องดี]]([[ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด]]) ตั้งแต่ดีเดย์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1944 จนถึง 1 กันยายน ค.ศ. 1944 เขายังคงบัญชาการกองทัพกลุ่มที่ 21 สำหรับส่วนที่เหลือของการทัพยุโรปตะวันตกเหนือ รวมทั้งความพยายามที่ล้มเหลวในการข้ามแม่น้ำไรน์ในช่วง[[ปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดน]]
 
เมื่อกองทัพบกเยอรมันได้บุกทะลวงผ่านแนวป้องกันของอเมริกันในเบลเยียมในช่วง[[ยุทธการตอกลิ่ม]] มอนต์โกเมอรีได้รับคำสั่งจากทางด้านเหนือของส่วนที่ยื่นออกมา(Bulge) รวมทั้งได้บัญชาการเป็นการชั่วคราวต่อกองทัพสหรัฐที่หนึ่งและเก้า ซึ่งได้ปล่อยให้เยอรมันเข้ารุกไปยังทางเหนือของส่วนที่ยื่นออกมา ในขณะที่กองทัพสหรัฐที่สามภายใต้บัญชาการของนายพลแพตตันได้เข้ามาคลายวงล้อมที่บัสตอญจากทางใต้