ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษาซูเมอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Anonimeco (คุย | ส่วนร่วม)
ปรับปรุงบางส่วน
บรรทัด 11:
|iso2=sux|iso3=sux}}
 
'''ภาษาซูเมอร์''' ({{lang-en|Sumerian language}}) เป็นภาษาพูดของชาวซูเมอร์ใน[[เมโสโปเตเมีย]]ตอนใต้เมื่อประมาณ 3,457 ปีก่อนพุทธศักราช ภาษานี้ถูกแทนที่ด้วย[[ภาษาแอกแคด]]เมื่อราว 1,257 ปีก่อนพุทธศักราช แต่ยังคงใช้เป็นภาษาทางศาสนา [[วรรณคดี]]และ[[วิทยาศาสตร์]]ในเมโสโปเตเมียจนถึงราว พ.ศ. 643 หลังจากนั้น ภาษานี้ถูกลืมไปจนพุทธศตวรรษที่ 24 ภาษาซูเมอร์จึงถูกแยกออกจากภาษาโบราณอื่น ๆ ในเมโสโปเตเมีย เช่น ภาษาแอกแคดและ[[ภาษาแอราเมอิก]]
 
== ช่วงเวลา ==
ประวัติการเขียนของภาษาสุเมเรียแบ่งได้เป็นหลายช่วงคือ ภาษาสุเมเรียโบราณ ตั้งแต่ ศตวรรษที่ 31 – 26 ก่อน ค.ศ. ภาษาสุเมเรียคลาสสิก ศตวรรษที่ 26 – 23 ก่อน ค.ศ. ภาษาสุเมเรียใหม่ ศตวรรษที่ 23 – 21 ก่อน ค.ศ. ภาษาสุเมเรียตอนปลาย ศตวรรษที่ 20 – 18 ก่อน ค.ศ. และยุคหลังสุเมเรีย หลัง 1,700 ปีก่อน ค.ศ.
ภาษาสุเมเรียโบราณเป็นจารึกรุ่นแรกสุด พบในสมัยเยมเดต นาสร์ หรืออูรักที่ 3 ในช่วงศตวรรษที่ 31 – 30 ก่อน ค.ศ. ในขณะที่เอกสารบางแหล่งกำหนดให้ช่วงหลัง 2,000 ปีก่อน ค.ศ. เป็นช่วงหลังสุเมเรีย คำว่าหลังสุเมเรียเป็นการอ้างถึงช่วงเวลาที่ภาษานี้กลายเป็นภาษาตายและถูกนำมาใช้โดยชาวบาบิโลเนียและชาวอัสซีเรียในฐานะภาษาเขียน และภาษาคลาสสิกสำหรับใช้ในทางศาสนา ศิลปะและวิชาการ การกลายเป็นภาษาตายคาดว่าเกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดราชวงศ์ที่ 3 แห่งอูร์ ซึ่งเป็นรัฐของชาวสุเมเรียแห่งสุดท้ายในเมโสโปเตเมียเมื่อราว 2,000 ปีก่อน ค.ศ. แต่ตัวเลขนี้ก็เป็นเพียงตัวเลขประมาณ เพราะนักวิชาการบางคนเสนอว่าภาษาสุเมเรียเป็นภาษาตายเมื่อ 2,100 ปีก่อน ค.ศ. เมื่อเริ่มต้นสมัยอูร์ที่ 3 แต่บางคนก็เชื่อว่าภาษาสุเมเรียยังคงเป็นภาษาพูดในพื้นที่ส่วนเล็กๆเล็ก ๆ ของเมโสโปเตเมียใต้ คือ[[นิปปูร์]]และบริเวณใกล้เคียง จนถึง 1,700 ปีก่อน ค.ศ. สถานการณ์เป็นภาษาพูดของภาษาสุเมเรียระหว่าง 2,000 – 1,700 ปีก่อน ค.ศ. เป็นช่วงที่มีเอกสารและรากศัพท์สองภาษาระหว่างภาษาสุเมเรียและภาษาอัคเคเดียอยู่มาก โดยเฉพาะจากนิปปูร์ ควบคู่ไปกับการใช้ภาษาอัคเคเดียนเป็นภาษาราชการในช่วงเวลาเดียวกัน
 
== สำเนียง ==
มีภาษาสุเมเรีย 2 สำเนียงที่มีการบันทึกไว้ สำเนียงมาตรฐานเรียก eme-ĝir (ĝ ออกเสียง [ŋ]) อีกสำเนียงเรียก eme-sal หรือที่เรียกว่าสำเนียงผู้หญิง ซึ่งใช้บรรยายลักษณะที่เกี่ยวกับเพศหญิงในเอกสารบางชิ้น ซึ่งอาจจะใกล้เคียงกับการแบ่งภาษาผู้หญิงในบางวัฒนธรรมเช่นการที่ผู้หญิงใช้[[ภาษาปรากฤต]] และผู้ชายใช้[[ภาษาสันสกฤต]]ในยุคคลาสสิกของอินเดีย
 
== การจัดจำแนก ==
มีการศึกษาเกี่ยวกับการจัดจำแนกภาษาสุเมเรียหลายแบบทั้งที่เป็นภาษารูปคำติดต่อหรือไม่เป็น ในฐานะที่เป็นภาษาเขียนภาษาแรกของโลก ทำให้บางข้อเสนอมีลักษณะชาตินิยมแฝงอยู่ ตัวอย่างของกลุ่มภาษาที่มีข้อเสนอให้จัดภาษาสุเมเรียรวมอยู่ด้วย ได้แก่ [[ตระกูลภาษายูราลิก]] [[กลุ่มภาษาเตอร์กิก]] กลุ่มภาษาฮูร์โร-ยูราเทีย กลุ่มภาษามุนดา [[ตระกูลภาษาดราวิเดียน]] กลุ่มภาษานอสตราดิก กลุ่มภาษาโดเน-คอเคเซียน
 
== ระบบการเขียน ==
ภาษาสุเมเรียจัดเป็นภาษาแรกของโลกที่เป็นภาษาเขียน ช่วงก่อนที่จะเป็นภาษาเขียนคาดว่าอยู่ในช่วง 3,500 – 3,000 ปีก่อน ค.ศ. ช่วงนี้บันทึกแบบ[[โลโกแกรมตัวหนังสือคำ]]โดยไม่มีเนื้อหาทางภาษาศาสตร์หรือสัทวิทยาอยู่ เอกสารเก่าที่สุดในยุคนี้คือคิชแทบเล็ต ซึ่งมีการใช้เครื่องหมายในยุคนี้ 939 แบบ
 
บันทึกที่มีเนื้อหาทางภาษาชัดเจนพบในสมัยเยมเดท นัสร์ ในช่วงศตวรรษที่ 31 – 30 ก่อน ค.ศ. ในประมาณ 2,600 ปีก่อน ค.ศ. สัญลักษณ์โลโกแกรมตัวหนังสือคำถูกปรับให้มีรูปแบบคล้ายรูปลิ่ม เพื่อให้เหมาะต่อการกดลงในดินเหนียวที่เปียก โดยมีเครื่องหมาย 468 แบบที่ใช้ในยุคนี้ อักษรแบบรูปลิ่มนี้ได้ถูกปรับไปใช้เขียนภาษาอัคคาเดียนแอกแคด ในสมัยต่อมา ในช่วงสมัยอูร์ที่ 3 ประมาณศตวรรษที่ 21 ก่อน ค.ศ. ภาษาสเมเรียนเขียนด้วยอักษรรูปลิ่มที่แสดงแนวคิดเป็นส่วนใหญ่ จึงถูกนำไปใช้ต่อในอักษรรูปลิ่มสำหรับภาษาอัสซีเรียโบราณ
 
บันทึกที่มีเนื้อหาทางภาษาชัดเจนพบในสมัยเยมเดท นัสร์ ในช่วงศตวรรษที่ 31 – 30 ก่อน ค.ศ. ในประมาณ 2,600 ปีก่อน ค.ศ. สัญลักษณ์โลโกแกรมถูกปรับให้มีรูปแบบคล้ายรูปลิ่ม เพื่อให้เหมาะต่อการกดลงในดินเหนียวที่เปียก โดยมีเครื่องหมาย 468 แบบที่ใช้ในยุคนี้ อักษรแบบรูปลิ่มนี้ได้ถูกปรับไปใช้เขียนภาษาอัคคาเดียน ในสมัยต่อมา ในช่วงสมัยอูร์ที่ 3 ประมาณศตวรรษที่ 21 ก่อน ค.ศ. ภาษาสเมเรียนเขียนด้วยอักษรรูปลิ่มที่แสดงแนวคิดเป็นส่วนใหญ่ จึงถูกนำไปใช้ต่อในอักษรรูปลิ่มสำหรับภาษาอัสซีเรียโบราณ
== ไวยากรณ์ ==
===นาม===
คำนามภาษาซูเมอร์มีรากศัพท์ 1-2 พยางค์ สำหรับโครงสร้างง่าย ๆ เช่น igi = ตา, e = วิหาร, หรือ nin = ผู้หญิง คำประสมเช่น lugal (จาก lu "ผู้ชาย" และ gal "ยิ่งใหญ่") คำนามอาจประกอบด้วยเครื่องหมายการกและแสดงหน้าที่ในประโยค เพิ่มคำแสดงความเป็นเจ้าของบุรุษที่ 3 –ani เป็น lugal.ani = พระราชาของเขา/ของหล่อน คำนามสามารถแสดงความเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องใช้เครื่องหมาย เช่น Ur. Namma = ผู้ชายแห่งนัมมา เครื่องหมายการกแสดงความเป็นเจ้าของ .k ไม่ออกเสียงในกรณีนี้
 
===กริยา===
คำกริยาภาษาซูเมอร์โดยทั่วไปมี 1-2 พยางค์ มีการเชื่อมต่อ สกรรมกิริยาและอกรรมกิริยา มีจุดมุ่งหมายสองแบบ การลงท้ายคำกริยามีสามแบบคือ บุรุษที่ 1 เอกพจน์ –en บุรุษที่ 1 พหูพจน์ -en-dè-en และ บุรุษที่ 2 พหูพจน์ -en-zè-en อย่างไรก็ตาม ระบบคำกริยาของภาษาซูเมอร์ซับซ้อนกว่าภาษาสมัยใหม่เช่นภาษาอังกฤษ และถือว่าเป็นกรณีแตกต่างจากภาษาอื่นในด้านที่ว่าเป็นภาษาที่พัฒนาระบบการเขียนขึ้นเองโดยไม่ได้รับอิทธิพลจากระบบการเขียนอื่น