ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จันทน์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
แก้วน้ำ (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: เพิ่มข้อความไม่เป็นวิกิขนาดใหญ่ การแก้ไขแบบเห็นภาพ
JBot (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนเนื้อหาอาจละเมิดลิขสิทธิ์ หรือไม่เป็นสารานุกรม ไม่ใช่? แจ้งที่นี่
บรรทัด 12:
 
บางครั้งไม้ชนิดอื่นที่มีน้ำมันหอมแต่คนละตระกูลก็เรียกว่า “จันทน์” ด้วย จันทน์เป็นไม้ที่มีต้นกำเนิดจาก[[อเมริกากลาง]]และ[[อเมริกาใต้]]และ[[แคริบเบียน]] น้ำมันที่ได้จากจันทน์กลั่นที่[[ประเทศเฮติ]]<ref>[http://www.thegoodscentscompany.com/data/es1028831.html amyris wood oil]</ref>
 
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดยวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระโกศจันทน์ พระหีบจันทน์ และท่อนฟืนไม้จันทน์ นับเป็นสิ่งสำคัญในการพระราชพิธี ซึ่งล้วนทำจากไม้จันทน์หอมทั้งสิ้น
 
ผู้เขียนได้ทำจดหมายขอข้อมูลไม้จันทน์หอมไปถึงอธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี ท่านอธิบดีได้ส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์และครอบคลุมทุกด้าน จึงขอนำข้อมูลทั้งหมดมาเผยแพร่ ดังนี้
 
ไม้จันทน์หอมเป็นไม้มีค่าที่หายากชนิดหนึ่ง จัดเป็นไม้มงคลชั้นสูง ใช้ในพระราชประเพณีตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชประเพณีเกี่ยวกับพระบรมศพ โดยนำเอาไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตายเองตามธรรมชาติ ซึ่งเนื้อไม้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มาสร้างพระลองประดับพระโกศพระบรมศพ ตลอดจนใช้ทำฟืน และดอกไม้จันทน์ในพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพ (ณัฏฐภัทร, ๒๕๓๙)
 
ไม้จันทน์หอมเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เนื้อไม้แข็ง ละเอียด กระพี้สีน้ำตาลอ่อน แก่นสีน้ำตาลเข้ม ไสกบ ตบแต่งง่าย ขัดเป็นเงาสวยงามมาก นิยมใช้สร้างบ้านหรือตำหนักของเจ้านายสมัยก่อน ทั้งโครงสร้างบ้านทั่วไปภายในและภายนอก โดยเฉพาะพื้นบ้านจะนิยมกันมาก นอกจากนี้แล้วไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตายเองตามธรรมชาติเนื้อไม้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จึงนิยมเก็บมาเป็นไม้หอมที่มีราคาสูงมาก เพื่อนำมากลั่นเป็นน้ำหอม ใช้ทำเครื่องหอม ธูปหอม ตลอดจนเป็นยาสมุนไพรได้อีกด้วย
 
ไม้จันทน์หอม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mansonia gagei Drumm. วงศ์ STERCULIACEAE และมีชื่ออื่นๆ ที่เรียกกันทั่วไปว่า จันทน์ จันทน์ชะมด จันทน์ขาวหรือจันทน์พม่า (เต็ม, ๒๕๒๓)
 
ไม้จันทน์หอมเป็นไม้คนละชนิดกับจัน หรือจันอิน-จันโอ (Diospyros decandra Lour.) และเป็นคนละชนิดกับไม้กฤษณา (Aquilaria malaccensis) ซึ่งบางท่านก็เรียกว่าไม้หอมเช่นกัน
 
ไม้จันทน์หอมเป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๓๐ เมตร พบขึ้นในป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ตามภูเขาหินปูน ในจังหวัดนครราชสีมา สระบุรี ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ ในต่างประเทศพบในพม่าและอินเดีย (เต็ม, ๒๕๒๓)
 
ลำต้น…มีลักษณะเปลา ตรง เปลือกสีเทาอมขาว หรือเทาอมน้ำตาล แตกเป็นร่อง เปลือกชั้นในเมื่อถากใหม่ๆ จะมีสีขาว ทิ้งไว้แห้งจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล กิ่งอ่อนมีขนประปราย
 
ใบ…เป็นชนิดใบเดี่ยว ติดเรียงสลับ ทรงใบรูปมนแกมรูปหอก แขนงใบออกสีดำ ท้องใบมีขนสีอ่อนๆ ประปราย หลังใบเกลี้ยง ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยห่างๆ ขนาดใบกว้าง ๓-๖ เซนติเมตร ยาว ๘-๑๔ เซนติเมตร โคนใบตัดหรือเว้าเข้าเล็กน้อย และจะเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบสอบแหลมทู่ๆ เนื้อใบค่อนข้างหนา ใบอ่อนมีขนประปราย ใบแห้งออกสีเขียวอ่อนๆ เส้นใบออกจากจุดโคนใบ ๓ เส้น เส้นแขนงใบมี ๔-๖ คู่ ก้านใบยาว ๕-๑๐ มิลลิเมตร มีขนประปราย และจะออกสีดำคล้ำเมื่อใบแห้ง
 
ดอก…เป็นดอกขนาดเล็ก สีเหลืองอ่อนๆ หรือสีขาว ออกรวมกันเป็นช่อตามปลายกิ่งและตามง่ามใบใกล้ๆ ปลายกิ่ง ช่อยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร โดยกลีบฐานดอกติดกันเป็นรูปเหยือก ปลายแยกเป็นแฉกแหลมๆ ๕ แฉก ทั้งหมดยาว ๑๐-๑๓ มิลลิเมตร เกสรตัวผู้มี ๑๐ อัน และในจำนวนนี้จะมีเกสรตัวผู้เทียมเสีย ๕ อัน รังไข่มี ๕ พู รวมเบียดกันเป็นรูปเหยือกน้ำ มีขนคลุมแน่น แต่ละพูเป็นอิสระแก่กัน และต่างก็มีหลอดท่อรังไข่ ๑ หลอด ในแต่ละพูมีช่อเดียว และมีไข่อ่อน ๑ หน่วย ออกดอกระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
 
ผล…เป็นผลประเภทผลแห้งแก่แล้วไม่แตก มีปีกเดียว ผลอ่อนมีสีเขียวเมื่อแก่มีสีเหลืองอ่อนจนเป็นสีน้ำตาล ผลมักติดกันเป็นคู่ๆ แต่ไม่ติดเป็นเนื้อเดียวกัน ทรงผลรูปกระสวยเล็กๆ กว้าง ๕-๗ มิลลิเมตร ยาว ๑๐-๑๕ มิลลิเมตร ส่วนปลายของผลมีครีบเป็นปีกรูปสามเหลี่ยม ๑ ปีก กว้าง ๑-๑.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕-๓ เซนติเมตร ก้านผลยาวประมาณ ๕ มิลลิเมตร มีจำนวนผลเฉลี่ยประมาณ ๒,๖๔๓ ผล/กิโลกรัม และผลจะแก่ประมาณเดือนธันวาคมถึงมกราคม
 
เมล็ด…มีเปลือกบางๆ หุ้มภายในผล ผลหนึ่งมี ๑ เมล็ด จำนวนเมล็ดประมาณ ๓,๕๖๕ เมล็ด/กิโลกรัม หรือน้ำหนักของเมล็ดจำนวน ๑,๐๐๐ เมล็ด เท่ากับ ๒๘๐.๐๕ กรัม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเมล็ดประมาณเดือนมกราคม (คงศักดิ์, ๒๕๕๐)
 
ลักษณะเนื้อไม้ มีสีน้ำตาลอ่อน เสี้ยนตรง เนื้อละเอียด เป็นไม้เนื้อแข็ง เลื่อย ไสกบ ตบแต่งง่าย ส่วนแก่นสีน้ำตาลเข้ม มีความถ่วงจำเพาะประมาณ ๐.๙๓ (กรมป่าไม้, ๒๕๒๖)
 
ประโยชน์ ปรากฏหลักฐานการใช้ประโยชน์จากไม้จันทน์หอมมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล กล่าวคือ มักจะใช้จตุชาติสุคนธ์ คือ ของหอมธรรมชาติ ๔ อย่าง ได้แก่ กลิ่นของกฤษณา กะลำภัก จันทน์หอม และดอกไม้หอม ประพรมในพระราชพิธีต่างๆ เช่น พระราชพิธีมงคลถวายพระนามเจ้าชายสิทธัตถะในปฐมวัย นอกจากนี้ยังพบประวัติการใช้ไม้หอมในประเทศไทยยาวนานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นสินค้าหลักแล้วยังใช้เป็นเครื่องบรรณาการอีกด้วย
 
เนื้อไม้นิยมใช้ทำหีบใส่เสื้อผ้า ทำเครื่องกลึง แกะสลักทำเสาหลักเมือง ทำหวี ธูป น้ำหอม เครื่องหอม เครื่องสำอางต่างๆ น้ำอบไทย และใช้ทำยาสมุนไพร น้ำมันที่กลั่นจากเนื้อไม้ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เนื้อไม้ใช้เป็นยาบำรุงประสาท เป็นยาแก้ไข้ แก้โลหิตเสีย แก้ดี แก้กระหายน้ำ อ่อนเพลีย นอกจากนี้แล้ว ขี้เลื่อยยังใช้ทำธูปหอม และที่สำคัญ คือ ดอกไม้จันทน์ที่นิยมใช้ในการเคารพศพในพิธีเผาศพทั่วๆ ไป ตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ในปัจจุบันนั้นไม่สามารถหาไม้จันทน์หอมมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้จันทน์ได้ แต่ยังคงเรียกดอกไม้จันทน์ โดยการประยุกต์มาใช้ไม้อื่นๆ เช่น ไม้โมก หรือไม้ตีนเป็ดแทนไม้จันทน์หอม หรือบางครั้งอาจใช้กระดาษเป็นกลีบดอกแทนก็มีให้เห็นในปัจจุบัน
 
== อ้างอิง ==
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/จันทน์"