ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สุลต่านสุลัยมาน ชาห์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Armonthap (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 22:
 
== ประวัติ ==
สุลต่านสุลัยมาน(ชาห์) เป็นบุตรชายคนโตของท่านโมกอล ซึ่งอพยพครอบครัวจากเมืองสาเลห์(ชวาภาคกลาง)<ref>[http://www.oknation.net/blog/kt/2010/06/29/entry-1 “พิทักษ์คุมพล”สาแหรก"สุลต่านสุลัยมาน" โดย เอกราช สุลัยมาน บิล ฮัจยียะมีน]</ref> <ref>[http://www.navy.mi.th/navic/document/840806b.html ประวัติตระกูลสุลต่านสุลัยมาน ร้อยโท สมบัติ เศวตครุฑมัต ]</ref> โดยทางเรือมาตั้งหมู่บ้านที่ตำบลหัวเขาแดง ริมทะเลปากอ่าวสงขลา ในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ ในประมาณปีพ.ศ. 2145 สมเด็จพระเอกาทศรถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นข้าหลวงผู้สำเร็จราชการนครสงขลา และดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปี พ.ศ. 2163 จึงถึงแก่อสัญกรรม ท่านสุลัยมานจึงขึ้นครองนครสงขลาแทนบิดาในปี พ.ศ. 2163 ในฐานะผู้สำเร็จราชการนครสงขลา ในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ต่อมาในปีพ.ศ. 2173 เจ้าพระยากลาโหมศรีสุริยวงศ์ ปราบดาภิเษกเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ปราสาททอง ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง" (ครองราชย์ พ.ศ. 2173-2199) ท่านสุลัยมานเห็นว่ามิใช่เป็นการสืบราชสันตติวงศ์ตามกฎมนเฑียรบาล จึงประกาศแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา และได้ประกาศเป็นรัฐอิสระตั้งแต่ปี พ.ศ. 2173 <ref>สายสกุล สุลต่าน สุลัยมาน พ.ศ. 2144-2531 กรุงเทพ: อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ หน้า 13-14</ref>
 
สุลต่านสุลัยมาน(ชาห์) เป็นบุตรชายคนโตของท่านโมกอล ซึ่งอพยพครอบครัวจากเมืองสาเลห์(ชวาภาคกลาง)<ref>[http://www.oknation.net/blog/kt/2010/06/29/entry-1 “พิทักษ์คุมพล”สาแหรก"สุลต่านสุลัยมาน" โดย เอกราช สุลัยมาน บิล ฮัจยียะมีน]</ref> <ref>[http://www.navy.mi.th/navic/document/840806b.html ประวัติตระกูลสุลต่านสุลัยมาน ร้อยโท สมบัติ เศวตครุฑมัต ]</ref> โดยทางเรือมาตั้งหมู่บ้านที่ตำบลหัวเขาแดง ริมทะเลปากอ่าวสงขลา ในสมัย[[สมเด็จพระเอกาทศรถ]] ในประมาณปีพ.ศ. 2145 สมเด็จพระเอกาทศรถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นข้าหลวงผู้สำเร็จราชการนครสงขลา และดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปี พ.ศ. 2163 จึงถึงแก่อสัญกรรม ท่านสุลัยมานจึงขึ้นครองนครสงขลาแทนบิดาในปี พ.ศ. 2163 ในฐานะผู้สำเร็จราชการนครสงขลา ในสมัย[[พระเจ้าทรงธรรม]] ต่อมาในปีพ.ศ. 2173 เจ้าพระยากลาโหมศรีสุริยวงศ์ ปราบดาภิเษกเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ปราสาททอง ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง" (ครองราชย์ พ.ศ. 2173-2199) ท่านสุลัยมานเห็นว่ามิใช่เป็นการสืบราชสันตติวงศ์ตามกฎมนเฑียรบาล จึงประกาศแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา และได้ประกาศเป็นรัฐอิสระตั้งแต่ปี พ.ศ. 2173 <ref>สายสกุล สุลต่าน สุลัยมาน พ.ศ. 2144-2531 กรุงเทพ: อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ หน้า 13-14</ref>
 
ต่อมาในปี พ.ศ. 2173 [[เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์]] ปราบดาภิเษกเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่ง[[ราชวงศ์ปราสาททอง]] ทรงพระนามว่า "[[สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง]]" (ครองราชย์ พ.ศ. 2173-2199) ท่านสุลัยมานเห็นว่ามิใช่เป็นการสืบราชสันตติวงศ์ตาม[[กฏมนเฑียรบาล]] จึงประกาศแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับ[[กรุงศรีอยุธยา]] และได้ประกาศเป็นรัฐอิสระตั้งแต่ปี พ.ศ. 2173 <ref>สายสกุล สุลต่าน สุลัยมาน พ.ศ. 2144-2531 กรุงเทพ: อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ หน้า 13-14</ref>
ครั้นต่อมาในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(ครองราชย์ พ.ศ. 2199-2231) ในปี พ.ศ. 2223 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยารามเดโช(ชู)เป็นแม่ทัพยกทัพหลวงไปร่วมกับทัพหัวเมืองภาคใต้ มีกองอาสาสมัครโปรตุเกสและดัชท์ร่วมด้วย ยกไปปราบรัฐสุลต่านสงขลาจนได้รับชัยชนะ (ขณะนั้นท่านมุสตอฟาพระโอรสองค์โตของสุลต่านสุลัยมานเป็นสุลต่านเมืองสงขลาอยู่ เนื่องจากสุลัยมานสิ้นพระชนม์ไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2211) ในครั้งนั้น สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สลายเมืองสงขลาเสียแล้วให้ท่านมุสตอฟาย้ายไปอยู่ที่เมืองไชยา อันเป็นหัวเมืองตรีอยู่ทางเหนือของนครศรีธรรมราช ส่วนท่านฮะซันและฮูเซ็นให้อพยพเข้ามาที่กรุงศรีอยุธยา <ref>ประวัติศาสตร์ ตระกูล สุลต่าน สุลัยมาน กรุงเทพ : อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ หน้า 112-123</ref>
 
 
ครั้นต่อมาในสมัยแผ่นดิน[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]](ครองราชย์ พ.ศ. 2199-2231) ในปี พ.ศ. 2223 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยารามเดโช(ชู)เป็นแม่ทัพยกทัพหลวงไปร่วมกับทัพหัวเมืองภาคใต้ มีกองอาสาสมัครโปรตุเกส[[โปรตุเกต]]และดัชท์ร่วมด้วย ยกไปปราบรัฐสุลต่านสงขลาจนได้รับชัยชนะ (ขณะนั้นท่านมุสตอฟาพระโอรสองค์โตของสุลต่านสุลัยมานเป็นสุลต่านเมืองสงขลาอยู่ เนื่องจากสุลัยมานสิ้นพระชนม์ไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2211) ในครั้งนั้น สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สลายเมืองสงขลาเสียแล้วให้ท่านมุสตอฟาย้ายไปอยู่ที่เมือง[[ไชยา]] อันเป็นหัวเมืองตรีอยู่ทางเหนือของ[[นครศรีธรรมราช]] ส่วนท่านฮะซันและฮูเซ็นให้อพยพเข้ามาที่กรุงศรีอยุธยา <ref>ประวัติศาสตร์ ตระกูล สุลต่าน สุลัยมาน กรุงเทพ : อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ หน้า 112-123</ref>
ท่านฮะซันนั้นได้เข้ามารับราชการอยู่ในกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในภายหลังต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชา พระยารามเดโช(ชู)เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชเป็นกบฏ พระยาราชวังสัน(มะหมุด)ซึ่งเป็นบุตรชายคงจะอยู่ไม่ได้หรืออาจเกิดเหตุการณ์ใดกับท่าน สมเด็จพระเพทราชาจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านฮะซันดำรงตำแหน่งพระยาราชวังสันแทน พระยาราชวังสัน(ฮะซัน)มีบุตรชื่อ ขุนลักษมณา(บุญยัง) ซึ่งต่อมาเป็นบิดาของเจ้าพระยาจักรี(หมุด)
 
 
ท่านฮะซันนั้นได้เข้ามารับราชการอยู่ในกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในภายหลังต่อมาในรัชสมัย[[สมเด็จพระเพทราชา]] พระยารามเดโช(ชู)เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชเป็นกบฏ พระยาราชวังสัน(มะหมุด)ซึ่งเป็นบุตรชายคงจะอยู่ไม่ได้หรืออาจเกิดเหตุการณ์ใดกับท่าน สมเด็จพระเพทราชาจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านฮะซันดำรงตำแหน่งพระยาราชวังสันแทน พระยาราชวังสัน(ฮะซัน)มีบุตรชื่อ ขุนลักษมณา(บุญยัง) ซึ่งต่อมาเป็นบิดาของ[[เจ้าพระยาจักรี(หมุด)]]
 
==สายสกุลสุลต่านสุลัยมาน(ชาห์)ผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์พระยาราชวังสัน==