ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าเหี้ยนเต้"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 37:
พระเจ้าเหี้ยนเต้ถูกลดพระอิสริยยศจากพระจักรพรรดิหรือฮ่องเต้ เป็น ชนชั้นสูง ตำแหน่ง ซานหยางกง ถูกเนรเทศพร้อมครอบครัวให้ไปอยู่ที่ เมืองซานหยาง และใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบสุขเรื่อยมา โดยท่านกับพระนางโจเฮา มักไปเก็บสมุนไพรบนเขา และท่องไปตามหมู่บ้าน รักษาโรค ช่วยเหลือประชาชน เป็นที่รักใคร่ของผู้คนเป็นอันมาก จนได้ขนานนามว่า แพทย์พญามังกรพญาหงส์ จนพระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จสวรรคตในปี [[พ.ศ. 777]] ขณะมีพระชนมายุ 53 พรรษา ในรัชสมัยของพระเจ้าโจยอย ปิดฉากตำนานแห่งหุ่นเชิดโดยสมบูรณ์ และจากนั้นอีก 26 ปีถัดมา พระนางโจเฮาก็สวรรคตตามไป ในรัชสมัยของพระเจ้าโจฮวน พระศพของทั้งคู่ถูกฝังไว้เคียงข้างกัน ณ สุสานจังหลิง โดยปัจจุบันสุสานแห่งนี้ยังอยู่ในสภาพสมบูณ์ ถึงแม้กาลเวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 1,800 ปี เนื่องจากถูกดูแลอย่างดีจากชาวเมืองซึ่งเชื่อว่าตนเป็นลูกหลานของพระเจ้าเหี้ยนเต้
 
พระเจ้าเหี้ยนเต้มีลูกสาว 3 คน โดยลูกสาว 2 คนแรก เกิดจากสนม ภายหลังได้ยกให้เป็นสนมของพระเจ้าโจผี และเกิดจากพระนางโจเฮา 1 คน คือ องค์หญิงหลิวมั่น ขณะที่ลูกชายซึ่งเกิดจากพระนางฮกเฮา 2 คน ถูกโจโฉฆ่าตายไปพร้อมแม่ คงเหลือบรรดาลูกชายที่เกิดจากสนมส่วนหนึ่ง 4 คน ได้แต่งงานกับชาวเมืองท้องถิ่นซานหยาง กำเนิดเป็นสายตระกูลสืบทอดกันมา จนถึงช่วงปลายราชวงศ์จิ้น ชนเผ่า[[ซฺยงหนู]] ได้กรีฑาทัพเข้ามารุกรานเมืองซานหยาง ทำให้ลื้อของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ชื่อ หลิวอาจือ ตัดสินใจพาครอบครัวและคณะกว่าสองพันคน ลงเรือหนีภัยสงครามไปญี่ปุ่น และได้เข้ารับราชการในราชสำนักญี่ปุ่น เป็นต้นตระกูล ‘ฮาราดะ’ และแยกสายตระกูลออกไปอีกนับสิบสกุล การย้ายไปตั้งถิ่นฐานในญี่ปุ่นครั้งนั้น ได้นำเอาอารยธรรมแบบจีนไปเผยแผ่แก่ญี่ปุ่น ซึ่งขณะนั้นอารยธรรมญี่ปุ่นโบราณยังไม่เจริญนัก ทำให้อารยธรรมญี่ปุ่นส่วนมากได้รับอิทธิพลมาจากจีน และได้รับเอาตัวอักษรแบบจีนซึ่งมีรากฐานมาจากอักษรภาพมาใช้ และโดยผ่านทางสื่อตัวอักษรนี้เอง ชาวญี่ปุ่นได้เรียนความรู้เบื้องต้นทางการแพทย์ การใช้ปฏิทินและดาราศาสตร์ ตลอดจนปรัชญาของลัทธิขงจื๊อ
 
== พระบรมวงศานุวงศ์ ==