ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าคนุตที่ 6 แห่งเดนมาร์ก"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 26:
'''พระเจ้าคนุดที่ 6 แห่งเดนมาร์ก''' ({{Lang-da|Knud Valdemarsøn}} ค.ศ. 1163 - 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1202) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่ง[[เดนมาร์ก]] ตั้งแต่ค.ศ. 1182 ถึง ค.ศ. 1202<ref>{{cite EB1911 |wstitle=Canute VI.}}</ref> แหล่งข้อมูลร่วมสมัยระบุว่ากษัตริย์คนุดที่ 6 ทรงเป็นผู้ที่เคร่งในศาสนาอย่างมาก<ref>{{cite web|url =https://snl.no/Knud_4_Valdemarss%C3%B8n|title= Knud 4 Valdemarssøn|publisher =Store norske leksikon |author= Per G. Norseng
|accessdate=August 1, 2018}}</ref>
 
==ภูมิหลัง==
กษัตริย์คนุดที่ 6 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ใน[[พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์ก]] และ[[โซเฟียแห่งมินสก์|เจ้าหญิงโซเฟียแห่งมินสก์]] พระอนุชาของพระองค์คือ [[พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก|เจ้าชายวัลเดมาร์]] ประสูติในปีค.ศ. 1170 ขณะเจ้าชายดนุดมีพระชนมายุ 7 พรรษาในปี 1170 ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเดนมาร์กร่วมกับพระราชบิดา
==รัชกาล==
หลังจากพระราชบิดาสวรรคตในปีค.ศ. 1182 กษัตริย์คนุดที่ 6 จึงทรงเป็นพระประมุขหนึ่งเดียวในเดนมาร์กในปีค.ศ. 1182<ref name=britannica>{{cite web |url= http://global.britannica.com/EBchecked/topic/93332/Canute-VI|title= Canute VI (king of Denmark)|author=<!--Staff writer(s); no by-line.--> |date= |website= |publisher= Encyclopædia Britannica|accessdate=4 March 2014}}</ref> ณ สภาอูร์เนนโฮฟ และต่อมาทรงได้รับการสถาปนาในสภาที่อื่นๆทั่วเดนมาร์ก พระองค์ต้องเผชิญกับกบฏชาวนาแทบจะในทันทีที่[[สคาเนีย]] ชาวนาปฏิเสธที่จะจ่ายส่วยให้บิชอป[[อับซาลอน]] ประชาชนมารวมตัวที่สภาสคาเนียและเลือกฮารัลด์ สเครน หนึ่งในพระสหายของกษัตริย์คานุดให้เป็นตัวแทนของพวกเขาไปเจรจาวิงวอนต่อกษัตริย์ กษัตริย์ทรงปฏิเสธที่จะรับฟังสเครน และทรงระดมพลเพื่อสั่งสอนพวกชาวนา แต่ก่อนที่กษัตริย์จะทรงรวบรวมกองทัพของพระองค์ เหล่าขุนนางของ[[ฮัลลันด์]]และ[[สคาเนีย]] ได้ระดมกองทัพของตนเองเพื่อปราบปรามพวกชาวนากลายเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่[[ดอสเยโบร]]ในแคว้นสคาเนีย กษัตริย์คนุดที่ 6 ทรงมาพร้อมกับกองทัพของพระองค์และสอนบทเรียนแก่ชาวนาด้วยไฟและคมดาบ กษัตริย์คนุดไม่ทรงอ่อนข้อให้ชาวบ้านอย่างมาก ทั้งๆที่บิชอปอับซาลอนทรงทูลขอให้พระองค์หยุด
 
[[จักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] ทรงเคยบังคับให้พระราชบิดาของกษัตริย์คนุดยอมรับให้พระองค์มีอำนาจเหนือกว่า และในปีค.ศ. 1184 จักรพรรดิฟรีดริชทรงส่งพระราชสาส์นมายังกษัตริย์คนุดเพื่อให้ยอมรับพระองค์เป็นเจ้าเหนือหัวอีกครั้ง กษัตริย์คนุดไม่ทรงสามารถตอบได้ จักรพรรดิจึงส่งผู้ส่งสาส์นคนที่สองมาเพื่อข่มขู่ว่าจักรพรรดิทรงพิโรธยิ่งที่กษัตริย์เดนมาร์กไม่ยอมรับจักรพรรดิเป็นเจ้าเหนือหัว บิชอปับซาลอนได้ตอบคณะทูจในพระนามของพระมหากษัตริย์ว่า "คนุตเป็นพระมหากษัตริย์โดยอิสระ พระองค์มีสิทธิในเดนมาร์กมากพอเหมือนกับที่จักรพรรดิมีสิทธิในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และดังนั้นองค์จักรพรรดิไม่ควรจะคาดหวังขอความจงรักภักดีจากที่แห่งนี้"<ref name="Huitfeldt">[[Arild Huitfeldt|Huitfeldt, Arild]]. Danmarks Riges Krønike</ref>
 
จักรพรรดิทรงพิโรธยิ่งเมื่อได้รับคำตอบจากกษัตริย์คนุด แต่ทรงวุ่นวายจากปัญหาทางใต้ พระองค์จึงมีพระราชโองการให้[[บอกุสลอว์ที่ 1 ดยุกแห่งพอเมอเรเนีย]] ขุนนางในดินแดนของพระองค์ระดมพลเพื่อโจมตีเดนมาร์ก ดยุกบอกุสลอว์เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดี จึงระดมพลกองทัพเรืออย่างรวดเร็วถึง 500 ลำ ข่าวการวางแผนโจมตีครั้งแรกมาถึง[[ยาโรมาร์ที่ 1 เจ้าชายแห่งรือเงิน]] เขาจึงรีบแล่นเรือไปยังซีแลนด์เพื่อแจ้งเตือนข่าว กษัตริย์ทรงประทับอยู่ที่จัตแลนด์ในขณะนั้น ดังนั้นการปกครองราชอาณาจักรจึงอยู่ในมือของบิชอปอับซาลอน และได้สั่งระดมเรือจากซีแลนด์ ฟูเนินและสคาเนียให้ประชุมพลร่วมกันในอีก 6 วัน อับซาลอนนำกองทัพเรือไปตั้งรับทัพเรือของบอกุสลอว์ที่รือเงิน เมื่อกองทัพศัตรูไม่มาเสียที อับซาลอนจึงให้หน่วยสอดแนมไปสืบเรื่องราวของกองทัพพอเมอเรเนีย เขาจึงสั่งให้ทหารกลับขึ้นฝั่งเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลอีสเตอร์ครั้งที่สอง ในช่วงงานเทศกาล หนึ่งในหน่วยสอดแนมของเขาวิ่งเข้ามาในโบสถ์และตะโกนว่ามองเห็นกองทัพศัตรูผ่านในกลุ่มหมอก อับซาลอนได้ตะโกนจากแท่นบูชาว่า "ตอนนี้ล่ะ ข้าจะให้ดาบของข้าร้องเพลงมิสซาเพื่อสรรเสริญพระเจ้า!"<ref name="Huitfeldt"/>
 
กองทัพเรือเดนมาร์กรีบถอนสมอเรือและแล่นผ่านกลุ่มหมอกมุ่งตรงไปยังกองทัพเรือของพอเมอเรเนีย ดยุกบอกุสลอว์มองไม่เห็นกองเรือเดนมาร์กจนกระทั่งกองเรือเข้ามาใกล้แล้วและพวกเดนส์ร้องตะโกนข่มขวัญ พวกพอเมเรเนียหวาดกลัวยิ่งนัก พวกเขาพยายามแล่นเรือออกไป แต่เนื่องจากพวกเดนส์อยู่ใกล้เกินไปจนไม่อาจเลี้ยวเรือหักหลบได้ ทหารพอเมเรเนียนตื่นตะหนกและเริ่มกระโดนหนีจากเรือหนึ่งไปอีกเรือหนึ่ง พวกเดนส์เหวี่ยงตัวลงเรือศัตรูเพื่อทำการปล้นสดมภ์ แต่บิชอปแับซาลอนตะโกนสั่งให้วางสิ่งของต่างๆและบุกไปยังเรือต่อไป แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ทำตาม และด้วยเรือเพียงเจ็ดลำ อับซาลอนสามารถปิดล้อมกองเรือของพอเมอเรเนีย ยึดเรือศัตรูได้ 35 ลำ อับซาลอนส่งตัวดยุกบอกุสลอว์ไปเข้าเฝ้ากษัตริย์คนุดที่จัตแลนด์ บอกุสลอว์พ่ายแพ้ จักรพรรดิจึงล้มเลิกความคิดที่จะปกครองเดนมาร์ก<ref name="Huitfeldt"/>
 
กษัตริย์คนุดทรงบุกโจมตีพอเมอเรเนียสองครั้ง และในปีค.ศ. 1185 ทรงบีบบังคับให้ดยุกบอกุสลอว์ยอมรับพระองค์ในฐานะเจ้าเหนือหัว จนกระทั่งถึงปีค.ศ. 1972 พระมหากษัตริย์เดนมาร์กทุกพระองค์ทรงใช้พระอิสริยยศ "[[พระมหากษัตริย์แห่งชาวเวนด์]]" (De Venders Koning) โดยมีอาณาจักรดัชชี มณฑลและภูมิภาคเข้ามาในเขตราชอาณาจักรเดนมาร์กเป็นเวลาหลายศตวรรษ กษัตริย์คนุดทรงดำเนิน[[สงครามครูเสด]]ต่อต้านลัทธิเพแกน[[ชาวเอสโตเนีย]] ในปีค.ศ. 1197<ref name="Huitfeldt"/>
 
 
==อ้างอิง==