ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หลิว เต๋อหัว"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Janjaja (คุย | ส่วนร่วม)
เชื่อมโยง..
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 47:
ในปี 1988 หลิว เต๋อหัว ตัดสินใจออกจากสังกัดค่ายโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) หันมาแสดงภาพยนตร์อย่างเดียว ประสบความสำเร็จสูงมากกับภาพยนตร์ดราม่ารันทด เรื่อง The Truth (1988) หรือ เพชรแท้ทุบไม่แตก (หนังภาคต่อของเรื่อง The Unwritten Law ,1985 หรือ นี่แหล่ะ ดวงใจแม่) ภาพยนตร์โรแมนติคคอมาดี้ เรื่อง The Crazy Companies 1,2 (1988) หรือ บริษัทยุ่งแล้วรวย ภาค 1,2 ได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในหนังอาร์ตแนวแก๊งสเตอร์ เรื่อง As Tears Go By (1988) หรือ ทะลุกลางอก ผลงานกำกับเรื่องแรกของ[[หว่อง ก๊า ไหว่|หว่อง กาไว]] อำนวยการสร้างโดย เติ้ง กวงหยง (Alan Tang) เพียงแค่ชั่วปีเดียว หลิว เต๋อหัวแสดงภาพยนตร์มากถึง 10 เรื่อง ประสบความสำเร็จทางรายได้หลายต่อหลายเรื่องติดๆกันล้วนเป็นภาพยนตร์หลากหลายแนว จึงได้รับฉายาว่า อัศวินแห่งภาพยนตร์(Knight of Movie) พร้อมกับตำแหน่ง พระเอกยอดนิยม(Box Office Star) ของวงการหนังจีน[[ฮ่องกง]] ในปี 1989 หลิว เต๋อหัว ทำสถิติมีผลงานภาพยนตร์มากถึง 16 เรื่องในปีเดียว(รับบทนำ 15 เรื่อง รับเชิญ 1 เรื่อง) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง มีผลงานโด่งดังระดับเอเชียจากภาพยนตร์แนวจีนอินเตอร์ เรื่อง Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก แสดงคู่กับ[[อลัน ทัม]] นักร้องชื่อดังแห่งทศวรรษ 80's ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไปทั่วเอเชีย ภาพยนตร์เรื่อง God of Gamblers (1989) หรือ [[คนตัดคน]] แสดงคู่กับ[[โจว เหวินฟะ]] ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วเอเชีย หลิว เต๋อหัว จึงเป็นพระเอกหนังระดับเอเชียและนานาชาติ เป็นต้นมา
 
อย่างไรก็ตาม หลิว เต๋อหัว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและได้รับยกย่องจากวงการภาพยนตร์โลกว่า เป็นปฐมบท หรือต้นกำเนิดภาพยนตร์แนว แก๊งสเตอร์ ฮีโร่ หรือ '''Heroic Gangster''' หรือ บ้านเรานิยมเรียกว่าหนังแนว "นักรักนักเลง" สัญลักษณ์แห่งหนังแนวนี้ ได้แก่ A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ อันโด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วเอเชียและทุกสารทิศ ซึ่งหลิว เต๋อหัว ถูกยกย่องว่า เป็นผู้สร้างคาแรกเตอร์ หรือบุคลิกตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวหนังแนว Heroic Gangster แต่เพียงผู้เดียว และเป็นเครื่องหมายการค้า(Trademark) ของเขาบนตลาดโลก ภาพลักษณ์ประจำตัวเขาบ้านเรามักเรียกว่า "จิ๊กโก๋มาเฟีย" หรือ "นักเลงกระจอก" (หว๋าไจ๋ : Wah Zai : 華仔) ตายเกือบทุกเรื่อง โดยเขาเป็นผู้พัฒนาตัวละครแนวนี้จากบท "อาหว่า" จากภาพยนตร์เรื่อง As Tears Go By (1988) หรือ ทะลุกลางอก "อาเชี๊ย" จากภาพยนตร์เรื่อง Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก "อาเต๋า" จากภาพยนตร์เรื่อง God of Gamblers (1989) หรือ [[คนตัดคน]] จนมาถึงบท "อาหว๋อ" ในภาพยนตร์เรื่อง A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาพยนตร์แนวนี้ของเขามีมากมาย อาทิเช่น The First Time Is the Last Time (1989) หรือ ถ้าใครย่ำคุณ ผมจะย่ำมัน Dragon in Jail (1990) หรือ จำไว้เมียข้าเจ็บไม่ได้ Hong Kong Godfather (1991) หรือ ทำเนียบเจ้าพ่อเหือด The Prince of Temple Street (1992) หรือ ชีวิตเธอ ชีวิตข้า ชีวิตเดียว เป็นต้น ภาพยนตร์แนวนี้ของเขามักได้เรท PG 18+ (NC-17 ในสหรัฐอเมริกา)จำกัดเรทคนดู แต่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลทั่วทั้งเอเชีย แพร่หลายในตลาดหนังยุโรปและสหรัฐอเมริกา จนทางการรัฐบาลประเทศต่างๆท้วงติงว่า หนังจะส่งผลต่อการสร้างค่านิยมที่ไม่ดี มีพฤติกรรมเลียนแบบหนังอาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมา ทางการฮ่องกงจึงสั่งห้ามสร้างและห้ามฉายภาพยนตร์แนวนี้อีก เป็นเหตุให้หลิว เต๋อหัว เปลี่ยนแนวหนังแก๊งสเตอร์ของเขา เป็นแนว[[อาชญากรรม]](Crime) แทน อาทิเช่น A True Mob Story (1998) หรือ ให้รักนี้ตายไปกับเขา Century of the Dragon (1999) หรือ ทะลุเหลี่ยมมังกร เป็นต้น และได้สร้างอัตลักษณ์เครื่องแต่งกายในภาพยนตร์ของตัวเองด้วย เสื้อกล้ามสีขาวหรือดำ เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์หรือหนัง แว่นตาดำ และสวมสร้อยล็อคล็อกเก็ต ในภาพยนตร์แนวนี้ของเขาทุกเรื่อง
 
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ หรือ A Moment of Romance (1990) สัญลักษณ์แห่งหนังแนว Heroic Gangster ของหลิว เต๋อหัว หนังสุดคลาสสิคแห่งประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีนฮ่องกง(A major classic of Hong Kong cinema) เป็นภาพยนตร์ที่หลิว เต๋อหัว ได้สร้างคาแรกเตอร์ตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุดลงบนแผ่นฟิล์ม(The Character Portrays in The film) ในบทบาทของ "อาหว๋อ" หนังทุนต่ำ ดราม่าแอ็คชั่นรักโรแมนติก แสดงคู่กับ [[แจ็กเกอลิน อู๋|อู๋ เชี่ยนเหลียน]] นางเอกหน้าใหม่ของวงการ(แสดงหนังเป็นเรื่องแรก) ในบทบาทของ "โจโจ้ " เรื่องราวความรักของชายหนุ่มผู้มีโลกอันมืดมน(Underworld rag) กับ หญิงสาวผู้ถูกเลี้ยงดูอย่างคุณหนูผู้มีอันจะกิน(A rich heiress) ความรักของหนุ่มสาวคู่นี้ "อาหว๋อ & โจโจ้ " กลายเป็นตำนานความรักที่สุดแสนโรแมนติกและรันทดใจที่สุดแห่งยุคนั้น ภาพยนตร์ได้สร้างปรากฏการณ์กระแสปากต่อปาก(Word of Mouth) เป็นเรื่องแรกของวงการหนังฮ่องกงและวงการภาพยนตร์เอเชีย จากหนังทุนต่ำ ฟอร์มเล็ก ธรรมดาเรื่องหนึ่งกลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายมหาศาลถล่มทลายเหนือกว่าหนังฟอร์มยักษ์ ทุนสูง หรือหนังระดับ Blockbuster ทั่วเอเชียในยุคนั้น ในเกาะฮ่องกงออกฉายเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1990 และยืนโรงฉายยาวนานถึง 6 สัปดาห์ (14 มิถุนายน 1990 ถึง 26 กรกฎาคม 1990) เกิดกระแสปากต่อปากไปทั่วเกาะ[[ฮ่องกง]] กลายเป็นหนังที่เปลี่ยนแนวทางการสร้างภาพยนตร์ในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง จากประเภทยิงปืน ระเบิดภูเขา เผากระท่อม หันมาใช้อาวุธประเภทมีด หน้าไม้ [[ศิลปะป้องกันตัว]] มีการสร้างตามกระแสจำนวนมากเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง บุคลิกของหลิว เต๋อหัว ยังเป็นต้นแบบตัวละคร(Lau 's Characters) ในหนังฮ่องกงและภาพยนตร์ทั่วเอเชีย ทั้งยังเป็นไอดอลที่มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตวัยรุ่นทั่วเอเชียยาวนานถึงทุกวันนี้ แฟนๆภาพยนตร์จะเรียกหลิว เต๋อหัว ว่า "หว๋าไจ๋" (Wah Zai : 華仔 แปลว่า นักเลง) เป็นชื่อเล่นของเขา หลิว เต๋อหัว ยังถูกยกย่องให้เป็น ไอคอนหรือสัญลักษณ์หนังรักโรแมนติกแนว Badboy & Goodgirl ทั้งเป็นต้นแบบให้หนังจีนฮ่องกงและภาพยนตร์เอเชียมีเรื่องราวความรักโรแมนติกระหว่างคู่พระนางลงในเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ (หรือที่บ้านเรามักใช้คำสื่อสารให้เข้าใจว่า เรื่องราวความ "รักระหว่างรบ") และเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่มสาวทั่วเอเชียใฝ่ฝันที่จะขี่มอเตอร์ไซด์ได้สง่างามเหมือนเขา ตัวละคร "อาหว๋อ" ยังนำมาเป็นต้นแบบเขียนเป็นหนังสือ[[การ์ตูนจีน]]เรื่อง Teddy Boy(古惑仔) ซึ่งต่อมาได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 1996 ในชื่อเรื่อง Young and Dangerous หรือชื่อไทย [[กู๋หว่าไจ๋]] บทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้รับความนิยมมากมาย มีทั้งหมด 4 บทเพลง ขับร้องโดย Wong Ka Kui นักร้องนำวง Beyond ทั้งหมด 3 บทเพลง และบทเพลงที่ 4 เพลงผู้หญิงร้อง 天若有情.青春无悔 ขับร้องโดย Shirley Yuen (袁鳳瑛) ได้รับความนิยมล้นหลาม มีการแปลงเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยในบทเพลง "อยู่ไปเพื่อใคร" ล่าสุดนำมาแปลงเป็นเพลงสากลในบทเพลง "Tomorrow Will Come" (Trish Thuy Trang) และตัวละคร "อาหว๋อ" ได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่งในผลงานแสดงนำของเขา ในเรื่อง Needing You (2000) หรือ ใช่เลย! รักเธอเต็มเอ๋อ
บรรทัด 65:
ในปี 2004 - 2014 เป็นยุคเริ่มแรกเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ใน[[จีนแผ่นดินใหญ่]] หลิว เต๋อหัว มีผลงานแสดงนำและร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์สัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่ อย่างเช่น เรื่อง จอมคนหัวใจไม่ลวงรัก (A world without thieves ,2004) , จอมใจบ้านมีดบิน (House of Flying Daggers ,2004) และเขาก็เป็นนักแสดงนำ(Leader Actor) ผู้มียอดรายได้ภาพยนตร์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง(No.1 Boxoffice Actor) ใน[[จีนแผ่นดินใหญ่]]ในรอบ 10 ปี (2004 - 2014) ภาพยนตร์ประเภทขายนักแสดงนำ(Film Star) มีภาพยนตร์เข้าฉายในช่วงนี้นับเฉพาะสถานะนักแสดงนำ 15 เรื่อง มียอดรายได้ภาพยนตร์มากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เขายังเป็นผู้ปลุกกระแสภาพยนตร์แอ็คชั่น - [[ภาพยนตร์กำลังภายใน|กำลังภายใน]] - [[แฟนตาซี]] ให้ได้รับความนิยมในจีนแผ่นใหญ่และทั่วโลกอีกครั้ง ในเรื่อง [[ตี๋เหรินเจี๋ย ดาบทะลุคนไฟ]] (Detective Dee, and the Mystery of the Phantom Flame ,2010) ทั้งพลักดันให้ผู้กำกับคนดัง[[ฉีเคอะ]] กลับมายิ่งใหญ่ในโลกภาพยนตร์อีกครั้ง หลิว เต๋อหัว ยังร่วมสนับสนุนภาพยนตร์ทุนสร้างจีนแต่ใช้[[ภาษาอังกฤษ]]เรื่องแรกของโลก เพื่อความเป็นสากลอย่างเรื่อง The Great Wall (2016) ปัจจุบัน สถานะนักแสดงนำ(Leader Actor) ในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลมีผลงานภาพยนตร์ออกฉายอย่างต่อเนื่อง นับจากปี 2015 ถึงแค่ปี 2019 หลิว เต๋อหัว มีผลงานนับเฉพาะสถานะนักแสดงนำเข้าฉายแล้ว 9 เรื่อง มียอดรายได้ภาพยนตร์มากกว่า 1,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ(USD) ล่าสุดภาพยนตร์เรื่อง The White Storm 2 - Drug Lords (2019) ผลงานสร้างและนำแสดงของเขาทุนสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เข้าฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำรายได้มากกว่า 190 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) สร้างสถิติรายได้มากกว่าทุนสร้างหลายเท่าตัวอีกครั้งหนึ่ง จนเป็นที่คาดการณ์ว่า แม้จะเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ใน[[จีนแผ่นดินใหญ่]]อย่างเต็มรูปแบบ หลิว เต๋อหัว ยังคงสถานะนักแสดงนำ(Leader Actor) เป็นอันดับหนึ่งต่อไป
 
ในประเทศไทย หลิว เต๋อหัว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากภาพยนตร์ เรื่อง A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ออกฉายในปี พ.ศ. 2533 ถึงสองรอบ รอบแรกฉายวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2533 ทำรายได้กว่า 18 ล้านบาท มีกระแสเรียกร้องให้นำกลับมาฉายใหม่ รอบ 2 ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ทำเงินกว่า 5 ล้านบาท รวมรายได้ตลอดการฉายในโรงภาพยนตร์มากกว่า 23 ล้านบาท เป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปี 2533 ของประเทศไทย (ไม่นับรวมหนังกลางแปลงที่ออกฉายต่อเนื่องยาวนานหลายปี) และในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ได้นำกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง ต่อมามีภาพยนตร์ เรื่อง Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ ออกฉายปี พ.ศ. 2538 ทำเงินไปกว่า 40 ล้านบาท เป็นหนังทำเงินสูงสุดของเขาในไทยเป็นสถิติถึงทุกวันนี้ ภาพยนตร์เรื่องที่ 100 ของเขา เรื่อง A Fighter's Blue (2000) หรือ หัวใจข้า หัวใจนาง หัวใจหลอมเพชร ถ่ายทำในประเทศไทย ในวันที่ 17 มกราคม 2560 หลิว เต๋อหัว ได้เกิดอุบัติเหตุตกม้าได้รับบาดเจ็บที่กระดูกเชิงกราน ระหว่างถ่ายทำโฆษณาที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันรักษาตัวหายดีเป็นปกติ กลับมาทำงานบันเทิงในปลายปี 2561 เรียบร้อยแล้ว
 
== ชีวิตส่วนตัว ==