ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรคฮีโมฟิเลียในราชวงศ์ยุโรป"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
MuanN (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Effmedical (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1:
'''[[โรคฮีโมฟิเลีย]]'''มีบทบาทสำคัญอย่างเด่นชัดมากในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ยุโรปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 [[สมเด็จพระบรมราชินีนาถวิกตอเรีย]]ทรง[[ถ่ายทอดพันธุกรรม]]กลายพันธุ์ไปสู่ราชวงศ์ต่างๆ บนภาคพื้น[[ทวีปยุโรป]] อันรวมไปถึงราชวงศ์[[สเปน]] [[เยอรมนี]]และ[[รัสเซีย]] ผ่านทางพระราชธิดาสองในห้าพระองค์ ([[เจ้าหญิงอลิซแห่งสหราชอาณาจักร]] และ [[เจ้าหญิงเบียทริซแห่งสหราชอาณาจักร]]) [[เจ้าฟ้าชายเลโอโพลด์ ดยุคแห่งอัลบานี|เจ้าฟ้าชายเลโอโพลด์]] พระราชโอรสองค์พระองค์เล็ก ก็ทรงพระประชวรด้วยโรคฮีโมฟิเลีย ด้วยเหตุนี้โรคฮีโมฟิเลียในครั้งหนึ่งจึงเป็นที่นิยมเรียกว่า ''"โรคราชวงศ์" (Royal Disease) '' การทดสอบเถ้ากระดูกจากราชวงศ์โรมานอฟแสดงว่าลักษณะเฉพาะของโรคฮีโรคฮีโมฟิเลียที่ส่งผ่านมาจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียน่าจะเป็น''[[โรคฮีโมฟีเลีย ชนิดบี]] (Haemophilia B) ''<ref name="sciencenow">[http://news.sciencemag.org/sciencenow/2009/10/08-02.html "Case Closed: Famous Royals Suffered from Hemophilia".] Michael Price, ScienceNOW, October 9, 2009.</ref>
 
[[ความผิดปกติทางพันธุกรรม]]ใน[[โครโมโซม X]] แสดงออกให้เห็นในเพศชายเป็นส่วนมากจนเกือบทั้งหมด แม้หน่วยพันธุกรรมความบกพร่องจะถ่ายทอดจากมารดาก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม เพศหญิงซึ่งมีโครโมโซม X อันผิดปกติสามารถส่งผ่านโครโมโซมนั้นไปยังลูกหลานได้ การแสดงออกของความผิดปกติจะเกิดกับเพศชายมากกว่า ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเพศหญิงมีโครโมโซม X สองตัว ในขณะที่เพศชายมีเพียงตัวเดียว หากโครโมโซม X ในเพศชายผิดปกติ จะไม่มีโครโมโซมอีกหนึ่งตัวมาช่วยปกปิดความผิดปกติในพันธุกรรม แต่กระนั้นในจำนวนกรณีศึกษาร้อยละ 30 ไม่พบประวัติของความผิดปกติทางพันธุกรรมเกิดขึ้นภายในครอบครัวและเป็นสภาวะของผลการกลายพันธุ์ของหน่วยพันธุกรรมแบบเฉียบพลัน <ref>{{cite web |url=http://www.hemophilia.org/NHFWeb/MainPgs/MainNHF.aspx?menuid=181&contentid=46&rptname=bleeding |title=Hemophilia B |accessdate=2007-11-21 |format= |work=}}</ref>
 
สมเด็จพระบรมราชินีนาถวิกตอเรียทรงมีการกลายพันธุ์แบบใหม่เกิดขึ้นในระบบพันธุกรรม และทรงเป็นต้นกำเนิดของการแพร่กระจายโรคดังกล่าวนี้ โดย[[เจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งแซ็กซ์-โคบูร์ก-ซาลเฟลด์|เจ้าหญิงวิกตอเรีย ดัชเชสแห่งเคนต์]] พระชนนีราชมารดาไม่ทรงมีประวัติการเป็นโรคฮีโมฟิเลียในพระราชวงศ์ของพระองค์ และเชื้อสายของเจ้าหญิงฟีโอดอรา พระภคินีต่างพระชนนีมารดาในสมเด็จพระบรมราชินีนาถวิกตอเรีย ก็ไม่ทรงมีประวัติของการเป็นโรคดังกล่าวด้วยเช่นกัน ในด้านของ[[เจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุคแห่งเคนต์]] พระชนกราชบิดานั้น ไม่ได้ทรงเป็นโรคฮีโมฟิเลีย และความเป็นไปได้ของการมีชู้รักที่เป็นโรคฮีโมฟิเลียของพระชนนียิ่งเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้เป็นเพราะช่วงอายุขัยที่สั้นของเพศชายซึ่งเป็นโรคฮีโมฟิเลียในช่วง[[คริสต์ศตวรรษที่ 19]]
 
[[เจ้าหญิงวิกตอเรีย พระวรราชกุมารี|เจ้าฟ้าหญิงวิกตอเรีย พระวรราชกุมารี]] พระราชธิดาองค์พระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียมิได้ทรงมีพาหะของโรคฮีโมฟิเลีย เนื่องจากมิปรากฏการเป็นโรคดังกล่าวในเชื้อสายของพระองค์ ส่วน[[เจ้าหญิงเฮเลนาแห่งสหราชอาณาจักร|เจ้าฟ้าหญิงเฮเลนา]] พระราชธิดาองค์พระองค์ที่ห้าอาจจะทรงเป็นหรือมิได้ทรงเป็นพาหะก็ได้ เพราะมีพระโอรสที่มีพระพลานามัยแข็งแร็งแข็งแรงสองพระองค์ที่เจริญพระชันษาถึงวัยหนุ่ม แต่ก็มีพระโอรสสองพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่เมื่อแรกประสูติ ส่วนพระธิดาสองพระองค์ไม่มีพระโอรสหรือธิดาเลย ในขณะที่[[เจ้าหญิงหลุยส์ ดัชเชสแห่งอาร์ไจล์|เจ้าหญิงหลุยส์]] พระราชธิดาองค์พระองค์ที่หกสิ้นพระชนม์โดยไม่มีพระโอรสและธิดา นอกจากนั้น[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7]] [[เจ้าฟ้าชายอัลเฟรด ดยุคแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา|เจ้าฟ้าชายอัลเฟรด]] และ[[เจ้าชายอาร์เธอร์ ดยุคแห่งคอนน็อทและสตราเธิร์น|เจ้าฟ้าชายอาร์เธอร์]] พระโอรสทั้งสามพระองค์ไม่ได้ประชวรด้วยโรคฮีโมฟิเลียเลย อย่างไรก็ดีเจ้าฟ้าชายเลโอโพลด์เป็นพระโอรสที่ประชวรด้วยโรคฮีโมฟิเลีย ส่วนเจ้าฟ้าหญิงอลิซและเจ้าฟ้าหญิงเบียทริซนั้นทรงเป็นพาหะของโรค
 
[[ไฟล์:haemophilia family tree.gif|400px|thumb|แผนผังสายพระโลหิตในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย แสดงบุคคลที่เป็นโรคฮีโมฟีเลีย]]