ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทุลีป สิงห์"

'''ทุลีป สิงห์''' ({{lang-roman|Duleep Singh}}; 6 กันยายน ค.ศ. 1838 – 22 ตุลาคม ค.ศ. 1893) หรือ '''ทลีป สิงห์''' ({{lang-roman|Dalip Singh}}) พระสมัญญาว่า '''องค์ดำแห่ง[[เพิร์ทเชอร์]]''' ({{lang-en|Black Prince of Perthshire}}) เป็น[[มหาราชา]]องค์พระองค์สุดท้ายแห่ง[[จักรวรรดิซิกข์]] เป็นบุตรพระราชบุตรสุดท้องของมหาราชา[[รณชีต สิงห์]] (Ranjit Singh) กับมหารานี[[ชินท์ เการ์]] (Jind Kaur)<ref>{{cite web|title=The Black Prince of Perthshire|url=http://www.scotsman.com/heritage/people-places/prince-of-punjab-and-perthshire-remembering-maharajah-duleep-singh-1-2506091|website=The Scotsman|accessdate=26 January 2017}}</ref>

หลังจากมหาราชาสี่องค์พระองค์ก่อนหน้าถูกลอบปลงพระชนม์ เจ้าชายทุลีปวัยป 5พระชนม์ห้าชันษา ปีทรงได้สืบทอดราชสมบัติในเดือนกันยายน ค.ศ. 1843 และมหารานีชินท์ผู้เป็นสมเด็จพระชนนีช่วยทำนุบำรุงประคองราชการแผ่นดิน แต่ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1846 เกิด[[สงครามอังกฤษ–ซิกข์ครั้งแรก]] อังกฤษถอดมหารานีชินท์ออกจากฐานันดรไปจำคุกไว้ แล้วตั้งข้าราชการอังกฤษเป็น[[Resident (title)|เรซิเดนต์]] (resident) สำเร็จราชการแทน นับแต่นั้นจนเกือบ 14 สิบสี่ปีให้หลัง เจ้าชายทุลีปมิได้ทรงพบหน้ามารดาพระพักตร์พระชนนีอีกเลย ครั้นเดือนเมษายน ค.ศ. 1849 เจ้าชายทุลีปอายุพระชนม์ได้ 10 ปีสิบชันษา อังกฤษปลดเจ้าชายทุลีปปออกจากราชบัลลังก์ และตั้งนายแพทย์จอห์น ลอกิน (John Login) มาอภิบาลเขาพระองค์แทน พอ ค.ศ. 1853 เจ้าชายทุลีปทรงเข้ารีตเป็นคริสต์ศาสนิกชน

ครั้นอายุ 15 ปีพระชนม์ได้สิบห้าชันษา เจ้าชายทุลีปทรงถูกเนรเทศไปยัง[[บริเตน]] เขาพระองค์ทรงได้รู้จักกับและเป็นที่โปรดปรานของ[[สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร|พระราชินีนาถวิกตอเรีย]] ผู้ซึ่งต่อมามีพระราชหัตถเลขาเกี่ยวกับเจ้าชายทุลีปว่า "ดวงตาคู่นั้น กับฟันเหล่านั้น ช่างสวยเหลือเกิน" (Those eyes and those teeth are too beautiful)<ref name="Eton">[http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/4309213.stm Eton, the Raj and modern India]; By Alastair Lawson; 9 March 2005; BBC News.</ref>

ใน ค.ศ. 1856 เจ้าชายทุลีปทรงพยายามติดต่อกับมารดาพระชนนี แต่จดหมายและคนใช้ที่เขาพระองค์ทรงส่งไปหามารดาพระชนนีถูกข้าราชการอังกฤษในอินเดียดักจับไว้ได้ จึงไปไม่ถึงมารดาพระชนนี ทว่า เจ้าชายทุลีปยังทรงพยายามต่อไป โดยทรงได้ความช่วยเหลือจากนายแพทย์ลอกิน จนที่สุดอังกฤษก็ยอมให้เขาพระองค์พบหน้ามารดาพระชนนีเมื่อวัน 16 มกราคม ค.ศ. 1861 ณ โรงแรมสเปนซ์ (Spence's Hotel) ในนคร[[โกลกาตา]] ทั้งยอมให้เขาพระองค์พามารดาพระชนนีกลับสหราชอาณาจักรด้วย<ref>E Dalhousie Login, ''Lady Login's Recollections, Chapter 14'', Smith Elder, 1916</ref> อดีตมหารานีทรงใช้ชีวิตพระชนม์บั้นปลายบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับจักรวรรดิซิกข์อันยิ่งใหญ่ให้บุตรพระราชบุตรผู้เป็นมหาราชาพลัดแผ่นดินฟัง เจ้าชายทุลีปสิ้นพระชนม์ที่ปารีสเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1893 สิริพระชนมายุ 55 ชันษา