== ประวัติ ==
หน่วยทหารพรานจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2521 ตามแนวคิดที่กำหนดไว้ว่า ทหารพราน คือ อาสาของประชาชน หรือเรียกว่านักรบประชาชน มีวัตถุประสงค์จัดตั้งเพื่อต่อสู้กับกองโจร[[พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย]] และขับไล่กองโจรลงจากที่มั่นบนภูเขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ<ref>Ball D. ''The Boys in Black: The Thahan Phran (Rangers), Thailand's Para-Military Border Guards.'' Bangkok, Thailand: White Lotus Press, 2004, 2007, p. 5.</ref> เป็นแนวคิดของพลเอก[[ชวลิต ยงใจยุทธ]] ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกที่[[กองบัญชาการกองทัพไทย]]ในกรุงเทพมหานคร หน่วยทหารพรานประกอบด้วยทหารใหม่จากพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการก่อการกำเริบของคอมมิวนิสต์ ทหารใหม่นั้นจะเข้ารับการฝึกเข้มข้น 45 วัน ได้รับแจกอาวุธสมัยใหม่ และถูกส่งกลับไปยังหมู่บ้านของตนเพื่อดำเนินปฏิบัติการกองโจรต่อคอมมิวนิสต์<ref>Phan Suksan (pseudonym), "''Thahan Phran'': The Thai Army's Combat and Development Force," ''Sena Son Thet'' [Army Information], vol. 33, no. 10, July 1995, p. 12.</ref>
นับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้เปิดฉากทำสงครามการเมือง โดยเปิดเผยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๘ เป็นต้นมา ภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับและ ได้ขยายอิทธิพลไปทั่วประเทศ รัฐบาลได้ทุ่มเทใช้กำลังทุกประเภท รวมทั้งกำลังทหารเข้าปราบปราม เป็นระยะเวลา ๑๐ ปีเศษ ก็ไม่สามารถทำลายกองกำลังของฝ่ายผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ลงได้
หน่วยทหารพรานดำเนินหลายปฏิบัติการต่อ[[ขุนส่า]]ใน[[สามเหลี่ยมทองคำ]]<ref>[http://books.google.com/books?id=Kt4YTyzYFtkC&printsec=frontcover&dq=South-East+Asian+Special+Forces&cd=1#v=onepage&q&f=false Conboy Kenneth, ''South-East Asian Special Forces,'' Osprey Publishing, 1991, p. 49.]</ref> และยังมีส่วนในการปฏิบัติความมั่นคงระหว่างการเผชิญหน้ากันที่ปราสาทพระวิหารใน พ.ศ. 2551 และ 2552<ref>[http://enews.mcot.net/view.php?id=13875 "Thai Army Rangers clash with Cambodian troops near Preah Vihear temple," Jan 24, 2010.]</ref>
รัฐบาลโดย ทบ. ได้วิเคราะห์แนวทางปฏิบัติในขณะนั้นเป็นการปฏิบัติในลักษณะการทหารนำการเมืองเป็นการนำกำลังรบหลักปราบปรามกำลังจรยุทธ์ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรประกอบกับในขณะนั้นภัยคุกคามจากภายนอกประเทศทางด้านกัมพูชาพื้นที่รอยต่อ ทภ.๑ กับ ทภ.๒ มีสถานการณ์ไม่เป็นที่ไว้วางใจ ทบ. มีความจำเป็นต้องถอนกำลังรบหลักในการปราบปราบผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้านกัมพูชากลับมาฝึกฟื้นฟูเพื่อเตรียมป้องกันประเทศตามแนวชายแดนด้านกัมพูชา ทำให้ขาดแคลนกำลังในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในด้านนี้ ทบ.จึงได้จัดทำโครงการหน่วยรบนอกแบบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาข โดยจัดเป็นกำลังกึ่งทหารในลักษณะหน่วยอาสาสมัครพิเศษ ภายใต้ชื่อรหัสโครงการว่า “โครงการ ๕๑๓” และได้เสนอขออนุมัติจัดตั้งไปยังหน่วยเหนือตามลำดับ โดยสุดท้ายคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินการตามโครงการ ๕๑๓ เมื่อ ๑๘ ก.ค. ๒๑ ซึ่งต่อมาในปี ๒๕๒๖ ทบ. ได้อนุมัติให้วันที่ ๑๘ ก.ค. เป็นวันสถาปนาหน่วยทหารพราน
โครงการ ๕๑๓ เป็นหน่วยรบนอกแบบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เดิมมี ๑๒ ชุดควบคุม กำลังพล ๑,๐๐๘ นาย ( กพ.ประจำการ ๔๘ นาย กพ.อส.ทพ. ๙๖๐ นาย ) และเมื่อ ๑๙ ก.ค.๒๒ คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้จัดตั้งเพิ่มอีก ๒๑ ชุดควบคุม รวมเป็น ๓๓ ชุดควบคุม และเปลี่ยนนามหน่วยจากชุดควบคุมมาเป็นกองร้อย จากผลการปฏิบัติของหน่วยทหารพรานนั้นได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สามารถลดอิทธิพลของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้เป็นอย่างดี ทบ. จึงได้จัดตั้งกองร้อยทหารพรานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกพื้นที่ โดยให้อยู่ในความควบคุมดูแลของ ศปก. ทบ. หมายเลขต่างๆคือ
- ศปก.ทบ. ๓๐๙ รับผิดชอบพื้นที่ ทภ.๓ และอีสานตอนบน
- ศปก.ทบ. ๓๑๑ รับผิดชอบพื้นที่ ภาคใต้
- ศปก.ทบ. ๓๑๕ รับผิดชอบพื้นที่ ทภ.๑ และอีสานตอนใต้
ในปลายปี ๒๕๒๓ ทบ. อนุมัติให้ ศปก.ทบ. หมายเลขต่างๆ โอนความรับผิดชอบหน่วยทหารพรานให้กับ ทภ. ต่างๆ ในเขตพื้นที่โดยเรียกว่า ฉก.อส.ทพ.ทภ. และยังคงกำลังบางส่วนไว้กับ ศปก.ทบ. ๓๑๕ โดยให้อยู่ในความควบคุมของชุดควบคุมและประสานงานโครงการ ๕๑๓ “ชค. ๕๑๓ ค่ายปักธงชัย”
ในปี ๒๕๒๔ (๙ มิ.ย. ๒๔) ทบ. ได้อนุมัติให้จัดตั้งหน่วยรับผิดชอบทหารพราน ทบ. ขึ้นเรียกว่า ฉก.อส.ทพ.ทบ. โดยใช้ อฉก.ทพ.ทภ. เป็นแนวทาง มีที่ตั้งหน่วยอยู่ที่ ศปก.ทบ. สวนรื่นฤดี โดยมี จก.ยก.ทบ. เป็นนายทหารโครงการโดยตำแหน่ง เมื่อ ๘ ก.ค. ๒๕ เปลี่ยนแปลงสายการบังคับบัญชาจากขึ้นตรง ยก.ทบ. มาเป็นหน่วยงานหนึ่งใน ศปก.ทบ. และเมื่อ ๑๘ ก.ค.๒๗ ทบ. ได้ออกคำสั่งแก้ไขนามหน่วยของ ฉก.อส.ทพ.ทภ. และ ฉก.อส.ทพ.ทบ. เป็น กกล.ทพ.ทภ. และ กกล.ทพ.ทบ. โดย กกล.ทพ.ทบ. ยังคงตั้งอยู่ใน ศปก.ทบ. สวนรื่นฤดี
หน่วยทหารพรานที่จัดตั้ง ตั้งแต่ ปี ๒๕๒๑ – ๒๕๒๖ รวมทั้งสิ้น ๑๙๙ กองร้อย ทพ. ๒๗ กรม ทพ. จำนวนกองร้อย ในแต่ละ ทภ. ดังนี้
- ทภ.๑ จำนวน ๒๘ กองร้อย
- ทภ.๒ จำนวน ๕๒ กองร้อย
- ทภ.๓ จำนวน ๕๓ กองร้อย
- ทภ.๔ จำนวน ๓๔ กองร้อย
- ชค.๕๑๓ จำนวน ๓๒ กองร้อย
๑ ต.ค. ๓๖ ตามแผนพัฒนากองทัพ ปี ๒๕๓๕ – ๒๕๓๙ ทบ. ได้อนุมัติให้ปรับลดกำลังทหารพราน ลง ๕๐ %
คงเหลือ ๑๑๑ กองร้อย ทพ. ๑๗ กรม ทพ. และให้ปรับรวมหน่วย กกล.ทพ.ทบ. กับ ชค.๕๑๓ ค่ายปักธงชัย เข้าเป็นหน่วยเดียวกันเรียกว่า กกล.ทพ.ทบ. ค่ายปักธงชัย ปฏิบัติงานตามโครงการ ๕๑๓ ภายใต้การกำกับดูแลของ ศปก.ทบ. ๓๑๕ ตั้งแต่ ๑ ต.ค. ๓๖
ค่ายปักธงชัยกำเนิดเมื่อ ๑๕ พ.ย. ๒๒ โดย ฯพณฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกได้กรุณาตั้งชื่อค่ายและเดินทางมาเปิดด้วยตนเอง ขณะนั้นมีหน่วยงาน ๒ หน่วยงาน คือ ชุดควบคุมและประสานงานโครงการ ๕๑๓ ( ชค.๕๑๓ ) และที่บังคับการทางยุทธวิธีร่วม ๑๒ (ทกย.ร่วม๑๒)
ค่ายปักธงชัย เป็นแหล่งผลิตอาสาสมัครทหารพรานโดยตรงของกองทัพบก แรกเริ่มได้ทำการฝึกจัดตั้งอาสาสมัครทหารพรานที่ ค่ายฝึกรบพิเศษที่ ๙ บ.หนองตะกู ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน ๒๓ กองร้อย หลังจากนั้นค่ายปักธงชัยจึงได้ดำเนินการฝึกจัดตั้งเองโดยตลอด พื้นที่เดิมค่ายปักธงชัยนั้นเป็นสนามยิงปืนใหญ่ของ มทบ.๓ เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อ ๒๓ ก.ค. ๒๒ และสร้างแล้วเสร็จเมื่อ ๑๐ พ.ย. ๒๒ กระทำพิธีเปิดเมื่อ ๑๕ พ.ย. ๒๒ ต่อมาเมื่อ ๓๐ ก.ย. ๔๓ ทบ. ได้อนุมัติให้ กกล.ทพ.ทบ. ค่ายปักธงชัย ปิดการบรรจุหน่วย โดยปรับโอนกำลังพลทั้งหมดให้กับ ทภ. ต่างๆ
<br />
== ข้อโต้เถียง ==
== หน่วยพิเศษ ==
พ.ศ. 2522 การหลั่งไหลเข้ามายังประเทศไทยของผู้อพยพชาวกัมพูชากลายเป็นปัญหาการเมืองสำคัญและเป็นประเด็นความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากการที่ผู้อพยพหลายพันคนเคยเป็นนักรบ[[เขมรแดง]] นายกรัฐมนตรีไทย [[เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์]] ทหารอาชีพซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาก่อน ประกาศให้อำเภอติดชายแดนอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกและอนุมัติให้การอำนวยการรวม กองบัญชาการทหารสูงสุด ควบคุมและจัดความปลอดภัยให้แก่ผู้อพยพ กองบัญชาการทหารสูงสุดสนองโดยจัดตั้ง ''หน่วยเฉพาะกิจ 80'' ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 หน่วยทหารพรานพิเศษนี้ได้รับมอบหมายหน้าที่ป้องกัน การจัดการผู้ลี้ภัย และจัดหาอาหารและอาวุธให้แก่ฝ่ายขัดขวางต่อต้านเวียดนามซึ่งประเทศไทยสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขมรแดง เช่นเดียวกับ[[แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติประชาชนเขมร]]และ Armee Nationale Sihanoukiste หรือ ANS ระหว่างการมีอยู่ช่วงสั้น ๆ ของหน่วยเฉพาะกิจ 80 หน่วยถูกกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งถูกยุบยกเลิกไปในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2531{{อ้างอิง}}
== อาวุธ ==
|