ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แฟรี่เทล ศึกจอมเวทอภินิหาร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Bankpachara (คุย | ส่วนร่วม)
แก้บางจุดให้ถูกต้องครับ ;w;
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 55:
หลายการผจญภัยผ่านไป ในที่สุดเธอได้เข้าร่วมกิจกรรมใหญ่ของแฟรี่เทลอย่างการคัดเลือกจอมเวทระดับ S คนใหม่ นอกจากความท้าทายที่เธอไม่เคยเจอในการผจญภัยอื่น ๆ มาก่อน เหตุการณ์นั้นยังทำให้เธอได้พบกับความน่าสยดสยองของกิลด์แห่งความมืดอันดับหนึ่งของสมาพันธ์บาลามอย่าง กริมัวร์ฮาร์ท ที่นำโดยอดีตหัวหน้ากิลด์แฟรี่เทลคนก่อน '''ฟิลฮิโตะ เกโบลก์(เพรช)''' รวมถึงจอมเวทดำผู้ที่เป็นอมตะและคอยแสวงหาความตายอยู่ตลอด '''เซเรฟ ดรากูนีล''' และ '''แอคโนโลเกีย''' มังกรตัวสุดท้ายในโลกที่ตั้งต้นเป็นศัตรูของมนุษยชาต เหตุการณ์ครั้งนั้นแม้แฟรี่เทลจะเป็นฝ่ายชนะกริมัวร์ฮาร์ท แต่ก็มิอาจหลีกเลี่ยงโชคชะตาของแอคโนโลเกียได้ ท้ายที่สุดสมาชิกหลักของแฟรี่เทลทุกคนถูกผนึกเอาไว้ในเกาะศักดิ์สิทธิ์เทนโรวจิม่าเป็นระยะเวลา 7 ปี
 
7 ปีต่อมา แฟรี่เทลกลายเป็นกิลด์ที่มีอันดับแย่ที่สุด ทำผลงานได้แย่ที่สุด สมาชิกหลักที่ถูกปลดผนึกจึงได้รับหน้าที่ให้ไปกอบกู้ชื่อเสียงของกิลด์กลับคืนมาด้วยการแข่งขันประลองเวทมนตร์ประจำปี แฟรี่เทลสามารถเอาชนะทุกกิลด์ได้อย่างยากเย็น ชัยชนะครั้งนั้นหารู้ไม่ว่าไม่เพียงแค่กี่นาทีนับจากนั้นก็เป็นหายนะของมนุษยชาต เมื่อ '''ฮิซุย''' องค์หญิงของประเทศฟิโอเร่ได้ใช้พลังเวทอัญเชิญเทพแห่งดวงดาว ปลดล็อกประตูมิติ '''อีคลิปส์(Eclipse)''' ที่เชื่อมกับอดีต ทำให้มังกรจากอดีตบุกเข้ามาโจมตีและเกิดเป็นสงครามแบบฉับพลัน สงครามในครั้งนั้นนอกจากทำให้ได้รู้ว่า แอคโนโลเกีย ไม่ใช่มังกรแต่กำเนิด แต่เป็นจอมเวทสังหารมังกรที่กลายร่างเป็นมังกรเต็มขั้นแล้วนั้น ยังเป็นการนำทางไปสู่สงครามใหญ่ที่ไม่ว่าใครก็มิอาจจินตนาการได้ถึง นั่นคือการบุกรุกฟิโอเร่ของกิลด์แห่งความมืด '''ทาร์ทารอส''' โดยมีเป้าหมายคือทำลายระบบเวทมนตร์ให้สิ้นซากด้วยอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของสภาเวทย์มนตร์เวทมนตร์อย่าง '''เฟซ''' และดึงตัวนัตสึกลับคืนสู่การเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุด '''E.N.D อีเธอร์เรียส นัตสึ ดรากูนีล''' อันเป็นมาสเตอร์ที่แท้จริงของทาร์ทารอส นัตสึ เกรย์ และลูซี่ สามารถเอาชนะสงครามนี้ได้อย่างยากเย็น แต่นั่นก็มีเหตุผลมากพอที่จะทำให้ '''มาร์คารอฟ เดรเยอร์''' มาสเตอร์เพียงหนึ่งเดียวของแฟรี่เทลประกาศยุบกิลด์แฟรี่เทล เพราะเมื่อฟิโอเร่ไร้ซึ่งระบบการป้องกันอย่าง เฟซ และเอเทเรี่ยน จึงเป็นโอกาสของกองทัพฝั่งตะวันตกอย่าง อัลบาเรซ อันนำทัพโดยราชาสปริกกันหรือเซเรฟ จะบุกโจมตีจนเกิดเป็นสงครามใหญ่ในอนาคต
 
หนึ่งปีผ่านไป นัตสึรวมกำลังคนก่อตั้งแฟรี่เทลขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยมีเอลซ่าเป็นหัวหน้ากิลด์ เอลซ่าตัดสินใจเข้าไปชิงตัวมาร์คารอฟออกมาจากอาราคิตาเซีย แต่ภารกิจนั้นกลับเป็นจุดชนวนสงครามระหว่างอัลบาเรซกับแฟรี่เทล เพราะเพียงแค่ต้องการ '''แฟรี่ฮาร์ท''' พลังเวทมนตร์อันไร้ขีดจำกัดของ '''เมวิส เวอร์มิลเลียน''' จอมเวทผู้ก่อตั้งแฟรี่เทล สมาชิกทุกคนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อสู้กับกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อปกป้องผู้ก่อตั้งเอาไว้ให้ได้ แต่สุดท้ายเซเรฟก็ได้แฟรี่ฮาร์ทไปครอง นัตสึจึงไม่มีทางเลือกนอกจากฆ่าเซเรฟแม้นั่นจะทำให้ตัวเองต้องตายไปด้วยก็ตาม ด้านลูซี่ที่ได้ E.N.D มาอยู่ในมือ จึงตัดสินใจแก้ข้อความบางอย่างใน E.N.D เพื่อเปลี่ยนให้นัตสึกลับกลายจากปีศาจเป็นมนุษย์ธรรมดา นั่นจึงเป็นโอกาสเดียวที่ทำให้นัตสึเผด็จศึกสงครามนี้ได้สำเร็จ ท้ายที่สุดเซเรฟก็ตายตามความปรารถนา และเมวิสก็ตายตามไปด้วยเช่นกัน แต่ไม่กี่นาทีจากนั้นแอคโนโลเกียก็ปรากฎปรากฏขึ้น พร้อมกับประกาศว่าจะล้างบางมังกรทั้งหมดในโลก จอมเวทสังหารมังกรทั้ง 7 จึงถูกดูดเข้าไปในร่างกายของแอคโนโลเกีย สมาชิกทั้งหมดจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเอาชนะแอคโนโลเกียให้ได้เพื่อที่จะได้กลับไปยังอนาคตใหม่ที่วางไว้และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ
 
หลายปีผ่านไป แฟรี่เทลกลับคืนสู่ความสงบสุขดังเดิมอีกครั้ง พวกเขาจึงตัดสินใจออกเดินทางครั้งใหม่ สู่ภารกิจที่ไม่เคยมีจอมเวทคนใดทำสำเร็จแม้แต่คนเดียว นั่นคือการ [[แฟรี่เทล ศึกจอมเวทอภินิหาร: ภารกิจ 100 ปี|'''ผนึกมังกรทั้ง 5 ที่ยังรับใช้ต่อแอคโนโลเกีย''']]
บรรทัด 256:
;อาวุธของสภาจอมเวท:อาวุธของทางสภาจะใช้ตามระดับความอันตราย ตามความสำคัญ
:*เอเทเรี่ยน - เป็นเวทมนตร์ขั้นสูงสุดที่เกิดจากการบีบอัดพลังเวทหลายๆธาตุหลายๆชนิดบรรจุไว้ในแท่นหินยักษ์ที่เป็นตัวกลางในการยิงพลังเวทที่ชื่อ '''แซทเทิลไลท์ สแควร์ (Satellite Square) ''' ถือเป็นอาวุธไพ่ตายสุดท้ายของสภาจอมเวท มีพลังรุนแรงถึงขนาดล้างประเทศหนึ่งให้หายไปได้ในพริบตา โดยการอนุมัติจำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากสมาชิกของสภาจาก 5 คน จากใน 9 คน แต่ 7 ปีต่อมาได้เปลี่ยนเป็น 9 คน
:*เฟซ - มรดกสีขาว เป็นความลับของสภาจอมเวท ที่มีสมาชิกไม่กี่คนที่รู้ คืออาวุธระเบิดพลังเวทมนตร์ รูปเสาหินที่บนยอดเป็นหน้าคน 3 พันจุด เมื่อทำงาน จะทำลายอีเทอร์นาโนทั้งหมดในอากาศซึ่งจะส่งผลให้จอมเวทย์ไม่สามารถใช้พลังของเวทย์มนตร์เวทมนตร์ได้ วิธีทำลายคือคำสั่งทำลายตัวเองที่ระบบคำสั่งมือระยะใกล้ แต่เฟธถูกทำลายโดยฝีมือของมังกร 4 ตัวที่สร้างดราก้อนสเลเยอร์(ยกเว้นอิกนีล)
;สมาพันธ์บาลาม:คือกิลด์แห่งความมืดระดับมหาอำนาจ 3 แห่งมารวมกัน ประกอบด้วยโอราเชียน เซส , กริมมัวร์ ฮาร์ท , ทาร์ทารอส โดยทั้ง 3 จะมีกิลด์ย่อยในสังกัดจำนวนมากเป็นกองทัพ 7 ปีต่อมาหลังจากการทำลายล้างของแอคโนโลเกีย กิลด์แห่งความมืดระดับมหาอำนาจในสมาพันธ์บาลามเหลือเพียงแต่ทาร์ทารอส ในเรื่องทั้ง 3 กิลด์ที่มีจอมเวทระดับ S หรือผู้ที่แข็งแกร่งในกิลด์ที่เป็นสมาชิกหลัก ที่ถูกเรียกเป็นกลุ่ม ที่ยศอยู่ต่ำกว่า กิลด์มาสเตอร์ คือ
:*โอราเชียน เซส - กุญแจคำอธิษฐานทั้ง 6 มี 6 คน
บรรทัด 266:
;อานิม่า:เวทมนตร์มิติเวลาขั้นสูง ที่เก็บเกี่ยวพลังเวทจากโลกอื่นๆ ดูดสิ่งต่างๆเข้ามา กลายสภาพให้เป็นลาคริม่า กับเป็นประตูเชื่อมมิติด้วยกัน แต่อนิม่าไม่มีผลกับดราก้อนสเลเยอร์ แต่ถ้าอานิม่าสลับขั้วจะทำให้เวทมนตร์ในเอโดราสทั้งหมดถูกส่งมาที่เอิร์ธแลนด์แทน
;เอกซ์ซีด:สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติเอโดลาส เป็นเผ่าพันธุ์แมวยืน 2 ขา กับพูดได้ มีสติปัญญากับความคิดนั้นใกล้เคียงกับมนุษย์มาก เป็นเพียงเผ่าเดียวที่ใช้เวทมนตร์สายลมในการเสกปีกบินได้อย่างอิสระ แต่พละกำลังจะอ่อนแอกว่ามนุษย์ ปัจจุบันอาศัยอยู่ในมิติเอิร์ธแลนด์
;โดม่า อานิม:ในภาษาเอโดราสแปลว่า นักรบมังกร คืออาวุธต้องห้ามที่ถูกผนึกไว้ที่โลกเอดราส หุ่นยนต์มังกรยักษ์ที่ดูดซับพลังเวทเป็นพลังงาน มีเกราะป้องกันพลังงานเวทมนตร์จากด้านนอก ถ้าเปรียบเทียบกับเอิร์ธแลนด์ ก็คือแอคโนโลเกียเวอร์ชั่นเวอร์ชันหุ่นยนต์ยักษ์ที่ถูกบังคับจากภายใน
;Lost Magic:เวทมนตร์ที่สาบสูญในอดีตเมื่อ 400 ปีที่แล้ว มีข้อเสียคือถ้าใช้มากเกินไปจะทำให้ร่างกายแปรสภาพไปตามชนิดของ Lost Magic ที่ใช้ แล้วก็ตายในที่สุด
;ก็อดสเลเยอร์:จอมเวทที่ถูกพระเจ้า(ความจริงเป็นมนุษย์ที่ใช้ Lost Magic) เลี้ยงดูกับถูกถ่ายทอดเวทมนตร์ให้มีความสามารถเหมือนกับดราก้อนสเลเยอร์ รวมทั้งใช้เวทมนตร์ปราบพระเจ้าได้ เวทมนตร์ที่ก็อดสเลเยอร์ใช้ลักษณะเป็นธาตุกับมีสีดำ เป็น Lost Magic รูปแบบหนึ่ง เป็นธาตุที่ดราก้อนสเลเยอร์กินไม่ได้ แต่กินเวทของดราก้อนสเลเยอร์ได้ กับไม่ฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าด้วยการกินเวทได้ ซึ่งผู้ที่เป็นก็อดสเลเยอร์ในเรื่อง ได้แก่