ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ความหลงตนเอง"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
'''ความหลงตนเอง'''<ref>[http://www.thaiglossary.com/node/27275 Thai Word Repository คลังศัพท์ไทย โดยศูนย์บริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สืบค้นคำว่า narcissism)]</ref> ({{lang-en|narcissism}} ; กลุ่มคนที่มีอาการนี้เรียกว่า ''นาร์ซิสซิสต์'' (narcissist)<ref>[https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/narcissist Cambridge English Dictionary (สืบค้นคำว่า narcissist)]</ref>) คือการแสวงหาความพึงพอใจจากความทะนงตนหรือการยกย่องว่าตนสำคัญกว่าผู้อื่น ความหลงตนเองเป็นแนวคิดของ[[ทฤษฎีจิตวิเคราะห์]] (psychoanalytic theory)ซึ่งถูกแนะนำอย่างแพร่หลายจากเรียงความของ[[ซีคมุนท์ ฟร็อยท์]] ที่ชื่อ ''[[ออน นาร์ซิสซิซึม]]'' (On Narcissism) (1914) โดย[[สมาคมจิตเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกา]]ได้จัดรายการหมวด[[ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง]]ลงใน ''[[คู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต]]'' (DSM) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลจากแนวคิดทางประวัติศาสตร์ของอาการเมกะโลเมเนีย (megalomania){{#tag:ref|เมกะโลเมเนีย (megalomania) คือ ความปรารถนาอันแรงกล้าที่ผิดธรรมชาติเพื่อต้องการอำนาจและการควบคุม หรือความเชื่อที่ว่าบุคคลมีความสำคัญและอำนาจมากกว่าความเป็นจริง โดยในบางครั้งอาจเป็นอาการป่วยทางจิต<ref>[https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/megalomania Cambridge English Dictionary (สืบค้นคำว่า megalomania)]</ref><ref>[https://www.collinsdictionary.com/dictionary/english/megalomania Collins English Dictionary (สืบค้นคำว่า megalomania)]</ref> ซึ่ง [[สวทช.]] ได้ให้ความหมายไว้ว่า "ความรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจหรือมีความสำคัญ"<ref>[http://www.thaiglossary.com/node/70901 Thai Word Repository คลังศัพท์ไทย โดยศูนย์บริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สืบค้นคำว่า megalomania)]</ref>|group=nb}}
ความหลงตนเองยังถูกยกให้เป็นปัญหาทางด้านสังคมหรือวัฒนธรรม ทั้งใช้เป็นปัจจัยใน[[ทฤษฎีลักษณะอุปนิสัย]] (trait theory) ซึ่งใช้ในการสร้างแบบทดสอบบุคลิกภาพต่าง ๆ เช่น แบบทดสอบ[[มิลลอน
== ลักษณะและสัญญาณ ==
บรรทัด 18:
จิตแพทย์แฮตช์คิสส์และ[[James F. Masterson|เจมส์ เอฟ. มาสเตอร์สัน]] ระบุสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า 7 พฤติกรรมร้ายแรงของความหลงตนเอง ไว้ดังต่อไปนี้<ref>Hotchkiss, Sandy & [[James F. Masterson|Masterson, James F.]] Why Is It Always About You?: The Seven Deadly Sins of Narcissism (2003)</ref>
# [[ความอัปยศ|ความไม่ละอายใจ]] (Shamelessness): นาร์ซิสซิสมักภูมิใจในความไม่ละอายใจอย่างเปิดเผย คือ พวกเขาไม่ผูกอารมณ์ไปกับความ
# [[ความคิดเชิงไสยศาสตร์]] (Magical thinking): นาซิสซิสต์เห็นตนเองเป็นคนที่สมบูรณ์แบบโดยใช้การบิดเบือนและสร้างสิ่งลวงตาที่เรียกว่า[[ความคิดเชิงไสยศาสตร์]]
# [[ความทะนง]]ตน (Arrogance): นาร์ซิสซิสต์ที่รู้สึกว่ากำลังสูญเสียความสำคัญ อาจ "เพิ่มมั่นใจในความคิดที่ว่าตนเองสำคัญ" โดยการกดผู้อื่นให้ต่ำลง ลดคุณค่าของผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นอับอายขายหน้า
# [[ความอิจฉาริษยา]] (Envy): นาร์ซิสซิสต์อาจคงไว้ซึ่งความคิดที่ว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่นได้ โดยการดูถูก
# [[การมีสิทธิ์]] (Entitlement): นาซิสซิสต์ยึดถือความคาดหวังซึ่งไม่สมเหตุสมที่ว่าผู้อื่นจะปฏิบัติตัวเป็นอย่างดี
# การหาผลประโชยน์ (Exploitation): สามารถมาได้ในหลายรูปแบบ แต่มักจะเกี่ยวข้องกับการหาผลประโยชน์จากผู้อื่นโดยที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกหรือความสนใจของคนเหล่านั้น ซึ่งผู้นั้นมักตกอยู่ในตำแหน่งที่ต้องยอมจำนนเนื่องมาจากเป็นการยาก
# [[ขอบเขตการปฏิบัติตน|การไม่รู้ขอบเขตการปฏิบัติตน]] (Bad boundaries): นาร์ซิสซิสต์ไม่รู้ถึงขอบเขตในการการกระทำของตน ทำให้ผู้อื่นตีตัวออกห่างและไม่ปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา ใครก็ตามที่จัดหา[[การสนองความหลงตนเอง]] (narcissistic supply) แก่นาร์ซิสซิสต์จะถูกปฏิบัติตนเป็น
== เชิงอรรถ ==
|