ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลิลิธ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Cuteystudio (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
Cuteystudio (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 4:
หลักฐานอื่นที่ปรากฏในเอกสารของชาว[[ยิว]] ซึ่งเกี่ยวโยงกับปีศาจสาวลิลิธแห่ง[[อาณาจักรอัคกาด]] ในขณะเดียวกันนักวิชาการได้ตั้งมีการแย้งว่าลิลิธที่ปรากฏในบาบิโลเนียน และลิลิธที่ปราฏในอัคกาเดียนเป็นคนละตนกัน<ref>Freedman, David Noel, ed., [[Anchor Bible Dictionary]], (New York: Doubleday) 1997, 1992. "Very little information has been found relating to the [[Akkadian Empire|Akkad]]ian and [[Babylonia]]n view of these demons. Two sources of information previously used to define Lilith are both suspect."</ref>
==เรื่องราวของลิลิธในตำนาน
[[ไฟล์:Lilith (John Collier painting).jpg|thumb|ลิลิธ (1892) ปรากฏในภาพวาดของ จอห์น คอลลีเออร์]]
[[ไฟล์:Burney Relief Babylon -1800-1750.JPG|thumb|รูปปั้นยุคบาบิโลเนียน ซึ่งหลายคนระบุว่าเป็นลิลิธ แต่ในขณะเดียวกันมีการระบุว่าเป็น[[อิชตาร]]]]
ลิลิธ เป็นผู้หญิงที่พระเจ้าสร้างขึ้นก่อนหน้า 'อีฟ' (EVE) ซึ่งไม่ปรากฏเนื้อหาเกี่ยวกับเธอในพระคัมภีร์[[ไบเบิล]]ฉบับ [[พันธสัญญาเดิม]]ของชาว[[ยิว]]มากนัก พบว่ามีชื่อเธอปรากฏอยู่แค่ครั้งเดียวใน พระธรรมอิสยาห์ บทที่ 34 ข้อที่ 14 แต่กลับพบชื่อและเรื่องราวของเธออยู่มากมายในคัมภีร์อรรถกถา[[ทัลมุด]]แทน ทั้งจากในบท Erubin 18b และ Erubin 100b และ Nidda 24b และ Shab. 151b และ Baba Bathra 73a–b ซึ่งกล่าวในทำนอง[[ปกรณัม]]ว่า ลิลิธ คือผู้หญิงคนแรกของโลกจากการทรงสร้างของพระผู้เป็นเจ้า โดยถูกสร้างขึ้นด้วยดินเช่นเดียวกับอาดัม และเป็นภรรยาคนแรกของ[[อาดัม]] ผู้ชายคนแรกก่อนหน้าที่พระเจ้าจะสร้างอีฟ เธอถือว่าตนเองมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับอาดัมและเรียกร้องความเสมอภาคเท่าเทียมกับเขา เธอจึงไม่ยอมสนองความต้องการของและอยู่ภายใต้คำสั่งของอาดัมซึ่งเธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนเกรี้ยวกราดและชอบใช้อำนาจ เมื่อเขาบอกให้เธอนอนลงเบื้องล่างเขาในการร่วมเพศท่ามิชชันนารี ลิลิธจึงปฏิเสธพร้อมทั้งสาปแช่งอาดัมและได้ทิ้งอาดัมและสวนอีเดนไปอยู่ที่ริมทะเลแดง (Red Sea) เธอได้กลายเป็นคนรักของจอมปีศาจและผลิตลูกวันละ 100 คน ในวงการนักเทววิทยาว่ากันว่าทะเลแดงของลิลิธ ([[Lilith's Red Sea]]) นั้นสามารถเปรียบเทียบได้กับมหาสมุทรเลือดของคาลิมา ([[Kali Ma]]'s [[Ocean of Blood]]) อันเป็นจุดกำเนิดของสรรพสิ่ง แต่ต้องแลกมาด้วยการสังเวยชีวิต
อาดัมโกรธลิลิธมากจึงนำเรื่องไปฟ้องพระเจ้า พระเจ้าจึงได้ส่งเทวทูต 3 องค์ (Sanvi, Sansanvi and Semangelaf) ให้ไปตามลิลิธกลับมายังสวนอีเดน แต่ลิลิธปฏิเสธพร้อมทั้งสาปส่งเทวทูตทั้ง 3 องค์นั้น เทวทูตแจ้งสารจากพระเจ้าถึงลิลิธว่าถ้าเธอไม่ยอมกลับสวนอีเดน พระเจ้าจะพราก
เพื่อตอบโต้การกระทำของพระเจ้า ลิลิธได้กลายเป็นปีศาจ เธอจะใช้ปีกของเธอบินออกไปลักพาตัว
บรรดารับไบในศาสนายิวและพระในศาสนาคริสต์ต่างคัดค้านโดยการอ้างว่า คำเรียกลิลิธไม่ได้มีความหมายบ่งชี้ถึงหญิงคนหนึ่งคนใด แต่อุปมา
บรรทัด 20:
ตลอดระยะเวลาในตำนานโบราณหลากหลายฉบับ เช่น ในความเชื่อของอารยธรรมซูมาเรียน และบาบิโลเนียน ราว 3,500 ปีก่อนคริสตกาล เธอปรากฏในตำนานฐานะจอมปิศาจ ลามาซตู (Lamashtu) ผู้ถูกเนรเทศออกจากสรวงสวรรค์ เนื่องจากเพราะความร้ายกาจของตนเอง
ส่วนในตำนาน
การตีค่าว่าการเรียกร้องสิทธิแบบสตรีนิยมคือความชั่วร้ายและมารยา ซึ่งแสดงออกเป็นนามธรรมในภาพของปีศาจสาวที่ใช้เสน่ห์ยั่วยวนล่อลวงผู้ชาย ชี้ให้เห็นถึงนัยยะทางด้านสังคมและการเมืองของยุคสมัยนั้น
|