ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โคมระย้า"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tris T7 (คุย | ส่วนร่วม)
เคาะวรรค
ขบต
บรรทัด 3:
'''โคมระย้า''' หรือ '''แชนเดอเลียร์''' ({{lang-en|chandelier}}) เป็นชื่อเรียกลักษณะของ[[โคมไฟ]]ตกแต่งที่แขวนบนเพดาน ซึ่งปัจจุบันโดยทั่วไปจะพบโคมไฟลักษณะนี้ ตามห้องโถงของสถานที่หรูหรา เช่น [[โรงแรม]] หรือ บ้านคนรวย
 
คำว่า "chandelier" เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลเป็นอังกฤษว่า
คำว่า "chandelier" เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลเป็นอังกฤษว่า "candleholder" ซึ่งก็คือเชิงเทียนที่แขวนลงมาจากเพดาน แชนเดอเลียร์ในยุคแรกทำจากไม้รูปกากบาทอย่างง่าย ๆ มีเหล็กแหลมไว้ปักเทียนข้างบน ใช้ในโบสถ์ทั่วยุโรป และในคฤหาสน์ของเศรษฐี ต่อมามีการพัฒนาโดยนำโลหะมาดัดจนมีลวดลายสวยงามประณีตอ่อนช้อย นอกจากจะแสดงถึงฐานะทางการเงินของเจ้าของบ้านที่มีแสงสว่างยามค่ำคืนในยุคนั้นแล้ว เสน่ห์ของแชนเดอเลียร์แบบดั้งเดิมอยู่ที่แสงเทียนและเงาที่เกิดจากลวดลายของแชนเดอเลียร์
 
คำว่า "chandelier" เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลเป็นอังกฤษว่า "candleholder" ซึ่งก็คือเชิงเทียนที่แขวนลงมาจากเพดาน แชนเดอเลียร์ในยุคแรกทำจากไม้รูปกากบาทอย่างง่าย ๆ มีเหล็กแหลมไว้ปักเทียนข้างบน ใช้ในโบสถ์ทั่วยุโรป และในคฤหาสน์ของเศรษฐี ต่อมามีการพัฒนาโดยนำโลหะมาดัดจนมีลวดลายสวยงามประณีตอ่อนช้อย นอกจากจะแสดงถึงฐานะทางการเงินของเจ้าของบ้านที่มีแสงสว่างยามค่ำคืนในยุคนั้นแล้ว เสน่ห์ของแชนเดอเลียร์แบบดั้งเดิมอยู่ที่แสงเทียนและเงาที่เกิดจากลวดลายของแชนเดอเลียร์
 
การนำกระจก แผ่นทองแดง และหินคริสตัลมาห้อยบนแชนเดอเลียร์ในยุคหลังๆทำให้มีแสงระยิบระยับมากขึ้น แต่หินคริสตัลหายากและราคาแพง ในปี ค.ศ. 1676 ช่างทำแก้วชาวอังกฤษจึงได้คิดค้นนำแก้วมาผสมกับสารตะกั่ว (lead oxide) แล้วเจียรจนมีประกายงดงามมากกว่าหินคริสตัล ในช่วงปี ค.ศ. 1700 แชนเดอเลียร์เริ่มมีรูปทรงอ่อนช้อยมากขึ้น เมื่อมีการนำแก้วเป่ามาใช้ประดับแชนเดอเลียร์จากประเทศอิตาลีที่เรียกว่าสไตล์เวเนเชียน (Venetian Style)
เส้น 14 ⟶ 16:
สมัยก่อน หากไปตามโรงแรมต่างๆ ที่มีห้องโถงกว้าง ๆ เรามักจะ เห็นแชนเดอร์เลียร์คริสตัลขนาดใหญ่ รูปทรง Classic เป็นเหมือนพระเอกประจำห้องประชุมเหล่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ แชนเดอร์เลียร์มีการพัฒนาทั้งรูปแบบ วัสดุ และขนาดมากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัยด้วย โดยเราพอจะสรุปรูปแบบของแชนเดอร์เลียร์ที่นิยมนำมาตกแต่งได้ ดังนี้
 
'''''แชนเดอร์เลียร์แบบ Classic'''''   เป็นแชนเดอร์เลียร์รูปแบบดั่งเดิม เน้นสร้างความหรูหรา ภูมิฐาน ตัวแชนเดอร์เลียร์ประดับตกแต่งด้วยเม็ดคริสตัล และ นิยมลวดลายซับซ้อน ละเอียดอ่อน โครงหรือกิ่งก้านมักทำจากแก้ว เม็ดคริสตัลเมื่อกระทบกับแสงไฟจะส่งประกายระยิบระยับ นิยมเม็ดคริสตัลใส ส่วนมากจะใช้งานอยู่ตามตามโบสถ์สำคัญ ๆ ในต่างประเทศหรือสถานที่สำคัญ ๆ ในประวัติศาสตร์ เช่น พระราชวัง หรือ อาคารของรัฐบาล เป็นต้น
 
นอกจากกลุ่มแชนเดอร์เลียร์ คริสตัลแล้ว โคมไฟแชนเดอร์เลียร์ในกลุ่ม Classic ยังรวมไปถึงโคมไฟหิ่นอ่อน จำพวก Alabaster อีกด้วย ซึ่งโคมไฟกลุ่มนี้ จะให้อารมณ์ที่ออกเรียบ และ เย็นกว่า