ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Sodacan (คุย | ส่วนร่วม)
vector version available (GlobalReplace v0.6.5)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 22:
| footnotes =
}}
'''ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิง พูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา''' (นามสกุลเดิม ไกรยง) ([[12 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2453]] - [[23 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2558]]) เป็นราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/E/062/32.PDF ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ศาสตราจารย์ยงยุทธ ยุทธวงศ์ ศาสตราจารย์พูนพิศ อมาตยกุล)]</ref> เกิดในปลายรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรีของนายฮันส์ ไกรเยอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมันและนางเจียม ไกรยง ข้าหลวงในพระราชวังสวนสุนันทา ขณะอายุ 3 ปีครึ่ง บิดามารดาได้นำไปถวายตัวกับ[[สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง]] ได้รับพระราชทานชื่อ “พูนทรัพย์” แต่เนื่องจากยังเล็กมาก จึงทรงฝากให้[[สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร|สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร]] ทรงเลี้ยงดูไปก่อน โดยโปรดให้นอนหน้าพระแท่นบรรทม จากนั้นได้เจริญวัยอยู่ใน[[พระราชวังพญาไท]] เป็นเวลานานถึง 20 ปี และด้วยการอุปการะเลี้ยงดูอย่างดี ทำให้ท่านเป็นผู้ที่มีกิริยาวาจา เรียบร้อย สง่างาม ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ มีแววเฉลียวฉลาดตั้งแต่วัยเด็ก [[สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร|สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร]] จึงทรงสนับสนุนให้ได้เรียนที่[[โรงเรียนราชินี]] เมื่อจบการศึกษาแล้ว ได้เข้าเรียนต่อใน[[คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] โดยสำเร็จเป็นอักษรศาสตร์บัณฑิตรุ่นแรก และได้รับราชการในสังกัดกรมสามัญศึกษา [[กระทรวงศึกษาธิการ]] ต่อมาได้รับทุนบาเบอร์[[ประเทศสหรัฐอเมริกา]]ไปศึกษาต่อด้านจิตวิทยาการศึกษาที่[[มหาวิทยาลัยมิชิแกน]] แล้วจึงโอนมารับราชการเป็นอาจารย์ประจำที่ [[คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] นอกจากนี้แล้วยังเป็นผู้ก่อตั้ง[[ทุนธนชาต]] และ[[ธนาคารนครหลวงไทย]]
 
== ชีวิตครอบครัว ==
บรรทัด 37:
ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ ถือเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความห่วงใยในการดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง ท่านได้เป็นประธานกรรมการรณรงค์เพื่อภาษาไทยของ[[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] และเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งวันภาษาไทยแห่งชาติ และเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งวันภาษาไทยแห่งชาติ ซึ่งในที่สุดรัฐบาลก็ได้มีมติประกาศให้วันที่ [[29 กรกฎาคม]] ของทุกปีเป็น[[วันภาษาไทยแห่งชาติ]] โดยถือเอาวันที่[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว]]เสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมการประชุมวิชาการเรื่อง การใช้ภาษาไทย ที่ [[คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2505]]
และด้วยจิตใจที่มีแต่ให้และระลึกถึงสังคมส่วนรวมตลอดเวลา ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ ได้มอบที่ดินชายทะเลหาดแสงจันทร์ อ.เมือง จ.[[ระยอง]] จำนวน 2 ไร่ 54.3 ตารางวา ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อใช้ในกิจการของคณะครุศาสตร์ ตั้งแต่ [[พ.ศ. 2521]] ปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์บริการวิชาการ จิรายุ-พูนทรัพย์” ภายใต้การดูแลของคณะครุศาสตร์ และในปี [[พ.ศ. 2549]] ได้ถวายที่ดินและบ้านที่ตนพำนักแก่[[สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] ซึ่งทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะครุศาสตร์และ[[กรุงเทพมหานคร]] จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ให้เยาวชนและผู้สนใจทั่วไปได้ใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้
หลังจากเกษียณอายุราชการ ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ยังมีกุศลจิต ช่วยเหลือสังคมโดยเป็นนายกสโมสร ประธานมูลนิธิ และผู้ก่อตั้งที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ สภาการศึกษาแห่งชาติ สภาวิจัยแห่งชาติ สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ทุนธนชาติ ธนาคารนครหลวงไทย ฯลฯ ด้วยจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเสียสละโดยมุ่งประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ทำให้ผลงานแห่งชีวิตที่ผ่านมาของท่านผู้หญิงเป็นที่ปรากฏชัดในระดับชาติและนานาชาติมาต่อเนื่องยาวนาน จนได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็นปูชนียาจารย์คนแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นผู้ได้รับการประกาศเกียรติคุณในฐานะบุคคลที่ทำประโยชน์แก่การศึกษาของชาติอย่างสูงยิ่งในการตัดงาน ครอบรอบ 100 ปี กระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์เป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์คุโณปการต่อชาติอย่างมากมาย รัฐบาลจึงได้มีมติยกย่องท่านให้เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี [[พ.ศ. 2552]] อีกด้วย