ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าเซโจ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 32:
เมื่อกษัตริย์พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์แล้ว ปรากฏว่าทรงเป็นเพียงแค่กษัตริย์หุ่นเชิด อำนาจทั้งหมดตกอยู่แก่ฮวางโบอินและคิมจงซอ ทำให้เจ้าชายที่อาวุโสที่สุดสองพระองค์คือเจ้าชายซูยาง และเจ้าชายอันพย็อง (안평대군, 安平大君) ต้องหาทางฟืนฟูอำนาจให้แก่พระราชวงศ์ กล่าวกันว่าเจ้าชายทั้งสองมีความถนัดกันคนละด้าน คือเจ้าชายอันพยองทรงพระปรีชาด้านการเขียนพู่กัน จึงเป็นที่นิยมชมชอบของปราชญ์ขงจื้อทั่วไป ขณะที่เจ้าชายซูยางทรงสนพระทัยด้านการทหาร<ref>Jae Un-Kang, Jae Eun-Kang. ''The land of scholars: two thousand years of Korean Confucianism''.</ref> โดยทรงวางแผนการยึดอำนาจอย่างมียุทธวิธี ด้วยการสนับสนุนและความช่วยเหลือของควอนนัม (권람, 權擥) และฮันมยองฮี (한명회, 韓明澮)
 
ฮวางโบอินและคิมจงซอหันเข้าหาเจ้าชายอันพยองเพื่อคานอำนาจกับองค์ชายซูยาง ในคในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1453 เจ้าชายซูยางทรงนำทัพเข้าบุกยึดพระราชวังคยองบก สังหารฮวางโบอินและคิมจงซอ เรียกว่า '''รัฐประหารปีคเยยู''' (계유정난, 癸酉靖難) เนรเทศเจ้าชายอันพยองไปเกาะเจจูและประทานยาพิษ เจ้าชายซูยางทรงตั้งพระองค์เองเป็นอัครเสนาบดี กุมการบริหารประเทศไว้ทุกอย่าง ทรงให้มีการปูนบำเหน็จแก่ผู้มีความดีความชอบ (공신, 功臣) ช่วยเหลือพระองค์ในการทำรัฐประหาร
 
ในที่สุด เมื่อค.ศ. 1455 เจ้าชายซูยางก็ได้ทรงบังคับให้พระนัดดาทรงสละราชบัลลังก์ เป็น''แทซังวัง'' ส่วนเจ้าชายเองก็ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเซโจ
 
== รัชสมัย ==