ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระมหาชนก"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 9:
[[ไฟล์:Borobudur_ship.JPG|thumb|250px|ภาพแกะสลักเรื่องพระมหาชนก ในระเบียง[[พระมหาสถูปบุโรพุทโธ]] [[เกาะชวา]] [[อินโดนีเซีย]]]]
พระเจ้ามหาชนก กษัตริย์แห่งกรุงมิถิลา มีพระราชโอรสสองพระองค์ พระนามว่า "อริฏฐชนก" และ "โปลชนก" เมื่อสวรรคตแล้ว พระอริฏฐชนกได้ครองราชสมบัติและทรงตั้งพระโปลชนกเป็นอุปราช พระโปลชนกทรงรับใช้พระอริฏฐชนกด้วยความภักดีมาโดยตลอด แต่อำมาตย์ผู้ใกล้ชิดได้กราบทูลพระอริฏฐชนก คอยใส่ร้ายว่าพระอุปราชโปลชนกคิดไม่ซื่ออยู่บ่อยครั้ง พระอริฏฐชนกจึงมีพระราชบัญชาให้จองจำพระโปลชนก พระโปลชนกได้ตั้งจิตอธิษฐานให้เครื่องจองจำหักทำลายลงและสามารถหลบหนีไปยังชายแดนกรุงมิถิลาได้ มีผู้คนเข้ามาสวามิภักดิ์กับพระโปลชนกจำนวนมาก พระองค์จึงตัดสิน
ต่อมาพระเทวีมีพระประสูติกาล ตั้งพระนามพระโอรสตามพระอัยกาว่า "มหาชนก" เมื่อพระมหาชนกเจริญวัยขึ้นและได้ทราบความจริง ก็คิดจะไปค้าขายตั้งตัว แล้วจะเอาเงินทุนที่ได้จากการค้าขายมาใช้ในการชิงราชสมบัติคืน จึงนำเอาสมบัติกึ่งหนึ่งของพระมารดาไปขาย แลกเป็นสินค้าออกเรือไปยังสุวรรณภูมิ ระหว่างทางในมหาสมุทร เรือต้องพายุล่มลง ลูกเรือตายหมดยังแต่พระมหาชนกรอดผู้เดียว ทรงอดทนว่ายน้ำในมหาสมุทรด้วยความเพียร 7 วัน 7 คืน จนได้พบ[[นางมณีเมขลา]] เมื่อนางมณีเมขลาได้โต้ตอบข้อธรรมะกับพระมหาชนกจนเป็นที่พอใจแล้ว นางจึงอุ้มพระมหาชนกไปส่งยังมิถิลานคร ฝ่ายมิถิลานคร พระโปลชนกได้ประชวรและเสด็จสวรรคต เหลือเพียงพระราชธิดานาม "สีวลีเทวี" ก่อนสวรรคตทรงตั้งปริศนาเรื่องขุมทรัพย์ทั้งสิบหกไว้สำหรับผู้จะขึ้นครองราชย์ต่อไป แต่ไม่มีผู้ใดไขปริศนาได้ เหล่าอำมาตย์จึงได้ประชุมกันแล้วปล่อยราชรถ ราชรถก็แล่นไปยังที่มหาชนกบรรทมอยู่ เหล่า
อยู่มาวันหนึ่งพระมหาชนกได้เสด็จประพาสพระราชอุทยาน ที่พระราชอุทยานนั้นมีต้นมะม่วงต้นใหญ่อยู่สองต้น ต้นหนึ่งมีผลรสชาติวิเศษยิ่งนัก อีกต้นหนึ่งไม่มีผล พระองค์เสวยผลของต้นมะม่วงที่มีผลเพียงเล็กน้อยแล้วเสด็จ
== อ้างอิง ==
|