ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หม่อมเจ้าชวลิตโอภาศ กิติยากร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 6:
หลังจากสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถเสด็จทิวงคต ใน[[พินัยกรรม]] ทรงมอบทรัพย์สินมรดกทุกอย่างให้หม่อมเจ้าชวลิตโอภาสเพียงผู้เดียว ทรงมอบพระโอรสให้อยู่ในความดูแลของท่านหญิง และจะมีสิทธิ์ในมรดกก็ในเมื่อท่านหญิงสิ้นชีพิตักษัยแล้วเท่านั้น
 
พระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงเห็นด้วยกับพินัยกรรม ความไม่เห็นด้วยสะท้อนมาจาก ทรงยับยั้งพินัยกรรมไม่ให้มีผลบังคับใช้ ดังนั้นแทนที่หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสจะเข้าครอบครองทรัพย์สินทั้งหมด ก็กลายเป็นว่าทั้ง[[หม่อมคัทริน|แคทยา]] ท่านหญิงและ[[พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์]] ต่างได้รับเงินปันผลจากผลประโยชน์ของกองมรดก แต่มรดกส่วนใหญ่ยังอยู่เฉยๆ ต่อมาคือทรงเรียก[[วังปารุสกวัน]]กลับคืนมาเป็นของ[[พระมหากษัตริย์]] ส่วนหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสต้องย้ายไปพำนักที่วังที่ท่าเตียน ซึ่งเคยอยู่มาก่อนจะได้เป็นชายา
 
หนึ่งปีต่อมา เมื่อหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสจะเสกสมรสใหม่กับ[[หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ กิติยากร]] พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเห็นชอบที่จะให้คืนมรดกกลับไปให้พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์เสียก่อน จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เสกสมรสได้