ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อู๋ เฉี้ยนเหลียน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Zanglaijim (คุย | ส่วนร่วม)
ไวยากรณ์
Jakamae (คุย | ส่วนร่วม)
ไวยากรณ์
บรรทัด 25:
อู๋ เชี่ยนเหลียน (Jacklyn Wu) เกิดที่กรุงไทเป เกาะ[[ประเทศไต้หวัน|ไต้หวัน]] สมัยเรียนประถมเคยอยู่ในวงขับร้องประสานเสียงของโรงเรียนสตรีจงซาน ไต้หวัน สมัยเรียนมัธยมเคยประกวดร้องเพลงได้รางวัลชนะเลิศอันดับที่สอง ในวัยเด็กเธอได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์อเมริกัน เรื่อง Fame เฟม ขยับเท้าก้าวสู่ฝัน , 1980 เรื่องราวของการมุ่งมั่นเป็นดาวเด่นแห่งสถาบันการแสดงและการเต้นรำในกรุงนิวยอร์ก ความประทับใจในภาพยนตร์ดังกล่าว ทำให้เธอตัดสินใจเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยศิลปะแห่งชาติไทเป เกาะไต้หวัน ในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ผู้กำกับชื่อดัง [[ตู้ ฉีฟง]] แห่งเกาะ[[ฮ่องกง]] ไปสะดุดตากับภาพถ่ายของเธอภาพหนึ่ง ภาพถ่ายใบนั้นของเธอ สะท้อนถึงความดื้อรั้นในแววตาของตัวเด็กสาว ชวนหลงใหลน่าค้นหายิ่งนัก จึงตัดสินใจดึงตัวเธอมาแสดงภาพยนตร์ในที่สุด
 
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ หรือ A Moment Of Romance , 1990 หนังจีน[[ฮ่องกง]] ออกฉายในปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ.1990) นำแสดงโดย [[หลิว เต๋อหัว]] เป็นผลงานเรื่องแรกของ อู๋ เชี่ยนเหลียน โดยเธอรับบท "โจโจ้" นางเอกของเรื่อง ผลงานกำกับเรื่องแรกของ [[เฉิน มู่เซิ่ง]] อำนายการสร้างโดย [[ตู้ ฉีฟง]] เรื่องราวความรักของชายหนุ่มผู้มีโลกอันมืดมน(Underworld rag) กับ หญิงสาวผู้ถูกเลี้ยงดูอย่างคุณหนูผู้มีอันจะกิน(A rich heiress) ความรักของหนุ่มสาวคู่นี้ กลายเป็นตำนานรักสุดคลาสสิคแห่งประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีนฮ่องกง(A major classic of Hong Kong cinema) เป็นภาพยนตร์ที่หลิว เต๋อหัว ได้สร้างคาแรกเตอร์ตัวละครที่สมบูรณ์ที่สุดลงบนแผ่นฟิล์ม(The character portrays in the film) ในบทบาทของ "อาหว๋อ" หนังประสบความสำเร็จถล่มทลายไปทั่วเอเชีย ชื่อของ "อาหว๋อ & โจโจ้ " กลายเป็นตัวแทนความรักที่โรแมนติกและรันทดใจที่สุดแห่งยุคนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายที่เกาะฮ่องกง เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1990 และยืนโรงฉายยาวนานถึง 6 สัปดาห์ (14 มิถุนายน 1990 ถึง 26 กรกฎาคม 1990) เกิดปรากฏการณ์กระแสปากต่อปากไปทั่วเกาะฮ่องกง จากหนังทุนต่ำ ธรรมดาเรื่องหนึ่งกลายเป็นหนังที่เปลี่ยนแนวการสร้างภาพยนตร์จีนฮ่องกงในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง มีการสร้างภาพยนตร์หนังสไตล์ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตามกระแสจำนวนมากเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง
 
ความโด่งดังของ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (A Moment Of Romance , 1990) ส่งให้นางเอกของเรื่อง อู๋ เชี่ยนเหลียน เป็นนางเอกแถวหน้าสุดของวงการหนังจีนฮ่องกง , [[อู๋ เมิ่งต๋า|อู๋ ม่งต๊ะ]] ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม(Best Supporting Actor) จากเวทีฮ่องกง ฟิล์ม อวร์อด เป็นตัวแรกและตัวเดียวในชีวิตการแสดงของเขา ทั้งส่งให้เขาเป็นดาราสมทบแนวลูกคู่พระเอกที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค ก่อนที่จะดังเป็นพลุแตกในบทคู่หูคู่ฮากับ[[โจว ซิงฉือ]] , [[เฉิน มู่เซิ่ง]] จากการกำกับภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก กลายเป็นผู้กำกับที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์จีนฮ่องกงและเป็นผู้กำกับเจ้าประจำให้กับหนังของ[[เฉินหลง]] คาแรกเตอร์ของ[[หลิว เต๋อหัว]] ยังเป็นต้นแบบตัวละคร(Lau 's Characters) ให้กับนักแสดงชื่อดังหลายต่อหลายคน แจ้งเกิดในบทบาทพระเอกภาพยนตร์ อย่างเช่น [[กัว ฟู่เฉิง]] ที่รับบทพระเอกต่อในเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาค 2 (A Moment Of Romance 2 , 1993) อู๋ เชี่ยนเหลียน เป็นนางเอก , [[หลี่หมิง]] รับบทพระเอกในเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาคพิเศษ (Love And The City , 1994) อู๋ เชี่ยนเหลียน เป็นนางเอก , [[เจิ้ง อี้เจี้ยน]] รับบทพระเอกในเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน มีเธอข้างกายแม้ตายก็ยอม (The Mean Street Story , 1995) อู๋ เชี่ยนเหลียน เป็นนางเอก ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆแนวนี้มีมากมาย อย่างเช่น บ้านี้ เพื่อเธอ (Killer's Romance , 1990) รับบทพระเอกโดย นักแสดงเจ้าบทบาท [[เยิ่น ต๊ะหัว]] , เป็นหรือตายไม่เห็นแปลก ก็เพื่อลูกก็เพื่อเธอ (Son on the Run , 1991) รับบทพระเอกโดย ม้อ เส้าชง พระเอกตาโตชื่อดังแห่งปลายยุค 80s , ผ่าหมื่นตายไปหาเธอ (In the Lap of God , 1991) รับบทพระเอกโดย จาง เย่าหยาง นักแสดงสมทบชื่อดังแห่งยุค หรืออย่าง ลูกข้า..ใครอย่าแตะ รับบทพระเอกโดย ดาวร้ายชื่อดังแห่งทศวรรษที่ 90s เฉิน ขุ้ยอัน เป็นต้น บ้านเรามักเรียกหนังแนวนี้ว่า หนังตระกูล "ใครอย่าแตะ" ทั้งเป็นต้นแบบให้หนังจีนฮ่องกงมีเรื่องราวความรักโรแมนติกระหว่างคู่พระนางในเนื้อเรื่องของภาพยนตร์แนว "รักระหว่างรบ" อย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง แตะเธอ...โลกแตกแน่ (Treasure Hunt , 1994) ของสุดยอดนักแสดงระดับตำนาน [[โจว เหวินฟะ]] , เดอะบอดี้การ์ด ขอบอกว่าเธอเจ็บไม่ได้ (The Bodyguard , 1994) ของสุดยอดดารากังฟู [[หลี่ เหลียนเจี๋ย]] พยัคฆ์ไม่ร้าย คัง คัง ฉิก (From Beijing with Love , 1994) ของอัจฉริยะตลก [[โจว ซิงฉือ]] เป็นต้น
 
ในปี ค.ศ. 1991 เธอได้แสดงคู่กับหลิว เต๋อหัว อีกครั้งหนึ่ง เป็นผลงานเรื่องที่สองของเธอ ในภาพยนตร์เรื่อง Casino Raider 2 , 1991 หรือชื่อไทย ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก ภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะอยู่คนละจักรวาลกับ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (A Moment Of Romance , 1990) ต้นฉบับ แต่ได้รับอิทธิพลจากกระแสความโด่งดังของผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (A Moment Of Romance , 1990) อย่างชัดเจน ต่อมาเธอได้รับบทนางเอกอีกครั้งใน ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาค 2 (A Moment Of Romance 2 , 1993) ในภาคนี้หลิว เต๋อหัว ปฏิเสธบทพระเอกให้เหตุผลว่า "อาหว๋อ" ได้ตายไปแล้วเรื่องราวความรักในภาคแรกจบไปแล้ว ภาคสองต้องเป็นความรักบทใหม่ จึงเปลี่ยนมอบบทพระเอกเป็นให้นักร้องชื่อดังแห่งทศวรรษที่ 90s [[กัว ฟู่เฉิง]] , เฉิน มู่เซิ่ง กำกับการแสดงอีกครั้ง , [[ตู้ ฉีฟง]] อำนวยการสร้างเหมือนเดิม ยังคงเลือกนางเอกเป็นเธอคนเดิม ก่อนที่ภาค 3 จะสร้างตามมาในปี พ.ศ. 2539 A Moment Of Romance 3 , 1996 หรือชื่อไทย ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาค 3 ไม่มีวันไหน ไม่คิดถึงเธอ ตู้ ฉีฟง กำกับการแสดงแทนผู้กำกับคนเดิม เป็นการโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งของ "หลิว เต๋อหัว & อู๋ เชี่ยนเหลียน" โดยเปลี่ยนธีมหนังจากแนวขี่มอเตอร์ไซด์ เป็นการขับขี่เครื่องบินย้อนยุคสมัยสงครามโลกตามข้อเสนอของหลิว เต๋อหัว ซึ่งเคยใช้เป็นธีมหนังแนวขับเครื่องบินขับไล่ในเรื่อง แค้นทั้งโลก เพราะเธอคนเดียว (The Adventurers , 1995) ที่แสดงคู่กับ อู๋ เชี่ยนเหลียน มาแล้วก่อนหน้านั้นเพียงปีเดียว หากจะกล่าวว่า อู๋ เชี่ยนเหลียน คือ สัญลักษณ์ของหนัง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (A Moment Of Romance) ก็คงจะไม่เกินเลยนัก
 
จากความสำเร็จอย่างถล่มทลายของ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (A Moment Of Romance , 1990) อู๋ เชี่ยนเหลียน กลายเป็นนางเอกแถวหน้าสุดของวงการภาพยนตร์ฮ่องกงและเอเชียอย่างมหัศจรรย์ มีผลงานภาพยนตร์ตามมาอีกกว่า 30 เรื่อง เธอยังได้แสดงภาพยนตร์คู่กับพระเอกหนังชื่อดังของเกาะฮ่องกงหลายต่อหลายคนอย่าง อย่าง[[โจว เหวินฟะ]] ,ในเรื่อง เลสลี่Treasure จางHunt , โจว1994 ซิงฉือหรือ แตะเธอ..โลกแตกแน่ , กัวGod ฟู่เฉิงof ,Gamblers หลี่หมิงReturns , เจิ้ง1994 อี้เจี้ยนหรือ คนตัดคน ตอน เกาจิ้งตัดเอง เธอยังได้แสดงโฆษณานาฬิกายี่ห้อ Solvil et Titus คู่กันอีกด้วย อย่างเช่นผลงานคู่กับ[[กัว ฟู่เฉิง]] ในเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาค 2 (A Moment Of Romance 2 , 1993) และภาพยนตร์ค่ายชอว์บราเดอร์ เรื่อง ตายไม่ว่าขอให้เห็นหน้าเธอ (The Bare-Footed Kid , 1993) ผลงานคู่กับ[[โจว เหวินฟะ]] ในเรื่อง Treasure Hunt , 1994 หรือ แตะเธอ..โลกแตกแน่ , God of Gamblers Returns , 1994 หรือ คนตัดคน ตอน เกาจิ้งตัดเอง เธอยังได้แสดงโฆษณานาฬิกายี่ห้อ Solvil et Titus คู่กันอีกด้วย ผลงานคู่กับ[[เลสลี่ จาง]] ในเรื่อง กระซิบรักให้โลกคลั่ง (The Phantom Love , 1995) หนึ่งในหนังสุดประทับใจของใครหลายคน ผลงานคู่กับ[[เจิ้ง อี้เจี้ยน]] ในเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน มีเธอข้างกายแม้ตายก็ยอม (The Mean Street Story , 1995) ผลงานคู่กับ[[หลี่หมิง]] ในเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาคพิเศษ (Love And The City , 1994) และ ชีวิตข้าขอกล้าที่จะรัก (Eighteen Springs , 1997) หนังเมโลดรามาย้อนยุคของผู้กำกับ[[แอนน์ ฮุย]] ที่มีนักร้องนักแสดงชื่อดังอย่าง[[เหมย ยั่นฟาง|เหมย เยี่ยนฟาง]] ร่วมแสดงนำกับเธอ ผลงานคู่กับ[[โจว ซิงฉือ]] ในภาพยนตร์ฉลองเทศกาลตรุษจีนปี 1997 เรื่อง กระทิงซู่ ปุ๊เหลียวฉิงส์ ภาค 2 (All s Well End s Well , 1997) ด้านฝีมือการแสดง เธอมีภาพยนตร์จีน[[ไต้หวัน]] เรื่อง ผู้หญิงตัดอร่อย (Eat Drink Man Woman , 1994) ของผู้กำกับ[[หลี่ อัน|อั้ง ลี]] หรือ หลี อัน ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเอเชียแปซิฟิกในปีนั้นไปครอง เธอยังเคยรับบท "เซียว เหล่งนึ่ง" ในซีรีส์กำลังภายในสุดฮิตอย่าง Return of the Condor Heroes (1998) หรือ มังกรหยก ภาค 2 ตอน จอมยุทธอินทรี (1998) คู่กับเหริ่น เสียนฉี พระเอกและนักร้องเจ้าของฉายาไม่หล่อแต่เร้าใจ ซีรีส์งานสร้างของเกาะ[[ไต้หวัน]] ผลงานล่าสุดของเธอ คือเรื่อง Jiang Hu , 2004 หรือ เฉีอนคมโคตรเจ้าพ่อ ผลงานอำนวยการสร้างและนำแสดงของ[[หลิว เต๋อหัว]] พระเอกคู่ขวัญของเธอ ก่อนที่เธอจะหายหน้าไปจากวงการภาพยนตร์ แต่ยังคงมีผลงานแสดงในละครซีรีส์ของไต้หวัน [[จีน]]แผ่นดินใหญ่ และ[[สิงคโปร์]] เป็นระยะๆ นอกจากนี้ ในช่วงยุค 90 อู๋ เชี่ยนเหลียน ยังเคยมีผลงานเพลงหลายอัลบั้มอีกด้วย
 
ในด้านชีวิตส่วนตัว เป็นที่รู้กันว่า อู๋ เชี่ยนเหลียน ไม่ค่อยได้เปิดเผยถึงเรื่องราวรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตคู่ของเธอให้คนอื่นรับทราบนัก ในต้นยุค 90 เคยมีข่าวคบหากับ ถั่ว จงหวา นักแสดงหนุ่มชาวไต้หวัน ยาวนานกว่า 10 ปี ถึงขั้นหมั้นหมายกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่เลิกรากันเมื่อปี 1999 (พ.ศ.2542)