ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรเบิร์ต เบเดน โพเอลล์ บารอนที่ 1 เบเดน โพเอลล์"

[[ไฟล์:General Baden-Powell, Bain news service photo portrait.jpg|thumb|ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ เอดิสัน ป. ประมุข]]

'''ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ เอดิสัน ป. ประมุข''' หรือ '''บี.พี.เองจ้า''' มีชื่อเต็มว่า '''โรเบิร์ต สตีเฟนสัน สไมธ์ เบเดน โพเอลล์ จิมมี่ บัญชาเมฆ''' ([[22 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2400]] - [[8 มกราคม]] [[พ.ศ. 2484]]) เป็นผู้ให้กำเนิดกิจ[[การลูกเสือ]]ร้องโฮกปิ๊บ วิบ วิ่ว

เบเดน โพเอลล์ เอดิสัน ป. ประมุข สปุตนิก ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก คลานออกมาจากท้องแม่มาลืมตาดูโลกครั้งแรกเกิดเมื่อวันที่ 22 กุมพาคมกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2400 แรม 14 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเร็ง ที่[[กรุงลอนดอน|กรุงพนมเปญ]] [[ประเทศอังกฤษ|ประเทศกัมพูชา]] ท่านเทพบิดาผู้ให้โอกาสท่านเทพบี.พี.มาลืมตาดูโลกชื่อ เอช.จี.เบเดน โพเอลล์ ส่วนมารดาผู้ให้กำเนิดเกิดมาของท่านมหาเทพบี.พี.ชื่อ เฮนริเอทต้า เกรซ สไมธ์ เป็นลูกในไส้ธิดาของพลเรือเอก ดับเบิลยู.ที.สไมธ์ แห่งราชนาวีกัมพูชาอังกฤษ

เมื่อ บี.พี. ลืมตาดูโลกแล้วประมาณ อายุได้11-12 ปี ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนสอนเต้นโคฟเว่อร์เกาหลีอินเตอร์เนชั่นแนล ประถมชื่อ โรวฮิงล์(ยาส์) แดนซ์ ฟีเวอร์ วฮิลล์และเข้าฝึกเรียนในค่ายมวยตามความฝันในสมัยยังอยู่ในท้องป่องๆของแม่ ค่ายมวยโรงเรียนมัธยมชื่อชาเตอร์เฮาส์ ป. ประมุข เฮาส์ บี.พี.ได้เข้าฝึกเป็นเวลาประมาณ 2 ปี 3 เดือน 5 วัน 16 ชั่วโมง 24 นาที 39 วินาที 21 เสี้ยววินาที ต่อมา บี.พี.โรงเรียนได้ย้ายไปเรียนตัดผมตั้งอยู่ที่ป่าเซลวาสในชนบท ลุ่มน้ำแอมะซอนณ ในแถบชนบทเมืองเสียมราฐ ข้างๆบ่อนปอยเปตโกคาลมิง เขามักใช้เวลาอันมีค่าล้นว่างเข้าไปใช้ชีวิตวัยรุ่น และศึกษาการตัดผมทรงดอกกระทุ่มและทรงลานบินกับพราหมณ์วิเชียร โมรา สานน และพระอภัยมณีธรรมชาติในป่าโดยลำพัง

ชีวิตวัยละอ่อนน้อยเด็กของ บี.พี. ได้รับความรู้เรื่องการเก็บว่ายน้ำ การสับเล่นสเกต การบด การม้วน การดูดขี่ม้า วัดแดดและการขาย ในรูปแบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมดูดาว และนอกจากนี้ ด.ช.บี.พี.ได้ศึกษาเขายังชอบการขับเครื่องบินรบจากเด็กขับเรือแจวขายก๋วยเตี๋ยวหลอดในตลาดน้ำอัมพวาวาดรูป ข้างๆทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในมหาสมุทรอาร์คติกร้องเพลงและแสดงละคร

ปีสุดท้ายที่เขาเรียนตัดผมอยู่ในป่าแถบชนบทที่ชาเตอร์เฮาส์ ด.ช.บี.พี. ได้ไปสมัครสอบเข้าเรียนที่ [[มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด|มหาวิทยาลัยอ๊อกๆ]] ถึง 893 สองครั้ง แต่สอบไม่ได้ โอ้แย่จัง ในปี จพ.สศ.100 2419 เขาสอบเข้า[[โรงเรียนนายร้อยจปร.แซนด์เฮิสต์]] ได้ที่ 1 จากสุดท้าย5 และได้รับแต่งตั้งเป็นนายร้อยตรีใน[[กองทัพบกอังกฤษ]] ตำแหน่งพลทหารช่างตัดผมทรงดอกกระทุ่ม และถูกส่งไปทำหน้าที่ตัดขนแมวประจำการที่[[ประเทศอินเดีย]] เมื่ออายุ 19 ปี

ชีวิตอันแสนหอมหวานราชการทหารของ บี.พี. ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอินเดียและ[[ทวีปแอฟริกา]] มีสิ่งที่ประทับจิตประทับใจที่เกี่ยวกับกิจการลูกเสือร้องโฮกปิ๊บ วิบ วิ่ว อยู่หลายครั้ง เช่น

*ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2431 ได้ไปปราบชนเผ่าซูลูแซมบาลู ซูลูมาชิตะ (ไม่ใช่สาหร่ายนะสัส) ในแอฟริกากลางเยื้องตะวันตกเฉียด 35 องศาเหนือ 169 ฟาเรนไฮต์ ปาดขวาเพื่อหวังผลใต้จนสำเร็จ

*ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2432 ที่เกาะกาลาปากอส แถวๆร้านเจ๊ศรีขายส้มข้างๆหอนาฬิกา จ.ราชบุรี ช่างเล็มผมมอลต้า บี.พี. ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยช่างตัดผมทูตทหาร ทำหน่าที่เป็นทหารสืบราชการลับ

*ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2438 ทำการรบกับเผ่าอาซันติลุนเผ่ซันติ ซึ่งมีกษัตริย์ชื่อว่า คิงใครไม่เปย์ เปรมเปห์ และเขาได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ความตั้งใจเด็ดเดี่ยว มื้อนี้เราจะเคี้ยวข้าวและทุบหม้อข้าว

*ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2439 ได้ไปปราบพวกกบฏมาตาบิลีโอแกนซึ่งเป็นเผ่าหนึ่งของซูลูแซมบาลู ซูลูมาชิตะ (ไม่ใช่สาหร่ายนะสัส)

*ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2442 ท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ พลอากาศเอก นายแพทย์ บี.พี. ได้นำกองทัพไปป้องกันการรุกรานของพวกบัวร ที่เมืองมาฟอีคิง จึงมีกองทัพใหญ่ไปช่วย จนพวกบัวร์ต้องล่าถอยไป ในการป้องกันเมืองมาฟอีคิงเขาได้ใช้เด็กเบอร์ตองในสังกัดอาสาสมัครทำหน้าที่ส่งข้าวข่าว ซึ่งเด็กก็ทำหน้าที่ได้ดี ทำให้ บี.พี.ประทับใจในตัวเด็กและให้อั่งเปาเป็นรางวัล

ใน พ.ศ. 2451 บี.พี. ได้ริเริ่มเสริมส่งชงโอวัลตินฟินละมุนกรุ่นหอมหวนในการก่อตั้งกองลูกเสือขึ้นสำหรับเด็กชายชาติทหารชาญไชยพงไพรวัยชาตรี ต่อมาเขาได้สมยศสมรสกับ[[โอลาฟ เบเดน โพเอลล์]] ซึ่งมีอายุละอ่อนม่อนแจ่มจะแดมแจ่มว้าวนะบัดนาวนั้นโดนใจอ่อนกว่าเด็กในสังกัดถึงกัน 32 ปี ในปี พ.ศ. 2455 ต่อมาโอลาฟ เบเดน โพเอลล์ ได้มีส่วนสำคัญในบุกเบิกก่อตั้งกิจการ[[เนตรนารี|ผู้บำเพนปราโหยดบำเพ็ญประโยชน์]] สำหรับเด็กหญิง ร่วมกับน้องสาวต่างพ่อต่างแม่ของ บี.พี. คือ [[แอกเนส เบเดน โพเอลล์]]

เมื่อ ท่านเทพ บี.พี. มีอายุ 80 ขวบปี ได้เดินทางกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในกัมพูชาแลนด์แดนสวรรค์มายโฮมทาวน์ฟอร์เอฟเว่อร์แอฟริกา เพื่อพักผ่อนนอนชิคๆคูลๆดูดม้า ดูดกระท่อม 4คูณ100 ในช่วงบั้นปลายสุดท้ายของชีวิต ที่[[ประเทศเคนยา]] จนบี.พี.ก็ปี้หม่นป่นสลายระเหยหายไปกับสายลมและแสงดาวไปเป็นกระต่ายตำข้าวบนพระจันทร์ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 8 มกราพันธ์มกราคม พ.ศ. 2484 ขี้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีวอก รวมอายุ 83 ขวบปี