ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เบน อี. คิง"

มันยอดเยี่ยมมากเลยยยยยยยยย ทำให้ในปี 2501 คิง (ยังใช้ชื่อนั้นอยู่) ได้เข้าร่วมวงดนตรีแนว [[ดูวอป]] ''ไฟท์คราวน์''<ref name="NYT1">{{cite news|url=http://www.nytimes.com/2015/05/02/arts/music/ben-e-king-soulful-singer-with-the-drifters-dies-at-76.html?_r=0|title=Ben E. King, Soulful Singer, Dies at 76; ‘Stand by Me’ Was One of His Hits|last=Grimes|first=William|date=2015-05-01|publisher=''New York Times''|accessdate=May 1, 2015}}</ref> ปีถัดมาผู้จัดการของวง เดอะดริฟเตอร์ส ไล่สมาชิกวงดั้งเดิมออกทั้งหมด และแทนที่ด้วยสมาชิกไฟท์คราวนด์<ref>{{cite web|last=Jones |first=Soul |url=http://souljoneswords.blogspot.co.uk/2011/06/play-it-again-ben-ben-e-king-interview.html |title=Soul Jones Words: Play It Again, Ben - Ben E. King Interview |publisher=Souljoneswords.blogspot.co.uk |date=2011-06-01 |accessdate=2014-04-19}}</ref> คิงนักร้องแนว [[ริทึมแอนด์บลูส์]] กับวงดนตรีของเขาในสังกัดเพลง [[แอตแลนติก เรดคอร์ดส]] เขายังมีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อเพลงและได้เป็นศิลปินคนแรกในค่ายแอแลนติค เรดคอร์ดสและนำเพลง ''There Goes My Baby'' ของเดอะดริฟเตอร์สไปร้องใหม่ ซึ่งนับว่าประสบสำเร็จโดยมีศิลปินมาร่วมช่วยเหลือ ''ด็อก พูมัส''และ ''มอร์จ ชูแมน'' อาทิเพลง ''Save The Last Dance For Me'' , ''This Magic Moment'' และ ''I Count the Tears''<ref name="The Great Rock Discography"/> คิงอัดเพลงกับวงเดอะดริฟเตอร์สเพียงแค่ 13 เพลง