ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปาโบล ปิกาโซ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nomedizas (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{เก็บกวาด}}
{{Infobox artist
| name = ปาโบล ปีกัสโซปิกาโซ
| bgcolour = yellow
| name = ปาโบล ปีกัสโซ
| image = Pablo picasso 1.jpg
| imagesize = 200px
| caption = ปาโบล ปีกัสโซปิกาโซ ในปี ค.ศ. 1962
| birth_name = ปาโบล ดิเอโก โฆเซ ฟรันซิสโก เด เปาลา ฆวน เนโปมูเซโน มาริอา เด โลส เรเมดิโอส ซิเปรียโน เด ลา ซานติซิมา ตรินิดัด รุยซ์ อี ปิกาโซ<ref name="CatRez">[https://books.google.com/books?ei=zvyDVN_EHJflauangugB&hl=fr&id=MlNGAQAAIAAJ&dq=Pablo+Diego+Jos%C3%A9+Francisco+picasso%2C+zervos&focus=searchwithinvolume&q=Pablo+Diego+Jos%C3%A9+Francisco Pierre Daix, Georges Boudaille, Joan Rosselet, ''Picasso, 1900–1906: catalogue raisonné de l'oeuvre peint'', Éditions Ides et Calendes, 1988]</ref>
| birth_name = Pablo Diego José Francisco de Paula Juan Nepomuceno María de los Remedios Cipriano de la Santísima Trinidad Ruiz y Picasso
| birth_date = {{birth date |df=yes|1881|10|25|}}
| birth_place = [[มาลากา]] [[สเปน]]
| death_date = {{death date and age |df=yes|1973|4|8|1881|10|25}}
| death_place = [[มูแฌ็ง]] [[ฝรั่งเศส]]
| nationality = [[ชาวสเปน]]
| field = จิตรกรรม
| movement = [[บาศกนิยม]], [[ลัทธิเหนือจริง]]
| spouse = {{marriage|[[โอลกะ คะโคลวะ]]|1918|1955|end={{abbr|d.|died}}}}<br/>{{marriage|[[ฌาเกอลีน ร็อก]]<br>|1961}}
| works =
| patrons =
| awards =
}}
[[ไฟล์:Picasso Signatur-DuMont 1977.svg|250px|right|Signatur Pablo Picasso]]
'''ปาโบล รุยซ์ ปีกัสโซปิกาโซ''' ({{lang-es|Pablo Ruiz Picasso}}; {{IPAc-en|p|ɪ|ˈ|k|ɑː|s|oʊ|,_|-|ˈ|k|æ|s|oʊ}};<ref>[http://dictionary.reference.com/browse/picasso "Picasso"]. ''[[Random House Webster's Unabridged Dictionary]]''.</ref> {{IPA-es|ˈpaβlo piˈkaso|langpron}}; [[25 ตุลาคม]] [[ค.ศ. 1881]][[8 เมษายน]] [[ค.ศ. 1973]]) [[จิตรกร]]เอกของโลก เป็นบุคคลที่นิตยสาร TIME''ไทม์'' ยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์มากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ปีกัสปิกาโซเกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1881 ที่เมือง[[มาลากา]] [[แคว้นอันดาลูซิอา]]ทางตอนใต้ของ [[ประเทศสเปน]] เป็นบุตรชายคนโตของดอนโคเซโฆเซ รุยซ์ อี บลัสโก (ค.ศ. 1838-1838–1913) กับมารีริอา ปีกัสโซปิกาโซ อี โลเปซ บิดาเป็นครูสอนศิลปะในมหาวิทยาลัย งานของปีกัสปิกาโซเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ แต่การเปลี่ยนแปลงทิศทางรูปแบบของผลงานนั้นเกิดจากหรืออาจได้รับแรงบันดาลใจมาจาก [[เฟอร์นานเดอแฟร์น็องด์ โอริเวียร์ออลีวีเย]] (Fernande Olivier) ซึ่งเป็นคนรักคนแรกของเขา และเขาได้แต่งงานครั้งที่ 2 กับแจ็คเกอรีนฌาเกอลีน โร๊คร็อก ในปี ค.ศ. 1961 และเขาจบชีวิตศิลปินลงในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1973 เสียชีวิตในวัย 91 ปี
 
== วัยเด็ก ==
ในวัยเด็ก เขาฉายแววการเป็นศิลปินระดับโลกด้วยการพูดคำว่า "piz,ปิซ pizปิซ" [(มาจากคำว่า "lápiz" (''ลาปิซ)'' ที่แปลว่าดินสอใน[[ภาษาสเปน]]) เป็นคำแรก แทนที่จะพูดคำว่า "แม่" เหมือนเด็กทั่วไป บิดาของเขาเป็นอาจารย์สอนวาดภาพ ซึ่งอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาได้รับพรสวรรค์นี้มาตั้งแต่ยังเด็ก ปีกัสปิกาโซได้รับจานสีและพู่กันเป็นของขวัญวันเกิดตอนอายุ 6 ขวบจากบิดา ครั้งนึงที่บิดาของปีกัสปิกาโซกำลังวาดรูปนกพิราบของเขาอยู่นั้น สิ่งที่น่าทึ่งก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อบิดาของเขาออกไปจากห้องเพื่อทำอะไรบางอย่าง ปีกัสปิกาโซได้เข้าไปในห้อง แล้ววาดภาพนกพิราบต่อจนเสร็จ เมื่อบิดาเขากลับเข้ามาจึงได้พบว่าภาพที่วาดนั้น เสร็จสมบูรณ์และเห็นว่าสวยกว่าที่ตนเองวาดเสียอีก และเมื่อเขาอายุเพียงแค่ 15 ปี เขาได้มีสตูดิโอเป็นของตัวเอง
 
== วัยทำงาน ==
หลังจากเริ่มต้นอย่างผิดพลาดด้วยการเป็นนักเรียนด้านศิลปะที่เมืองมาดริดและช่วงโบฮีเมี่ยนในเมืองบาร์เซโลนา เขาได้เดินทางมาที่ปารีสครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1900 ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงด้านศิลปะ และได้ย้ายอาศัยอยู่อย่างถาวรเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1904
 
ภาพเขียนของปีกัสปิกาโซแบ่งเป็นช่วงต่าง ๆ ได้ ดังนี้
# Blue Period 1901-1904 (ยุคสีน้ำเงิน)
# Rose Period 1904-1906 (ยุคสีชมพู)
# African-Influenced (ยุคอิทธิพลแอฟริกา)
# Cubism (ยุคบาศกนิยม)
# Classicism and surrealism (ยุคคลาสสิกนิยมแบบแผนและเหนือจริง)
# Later works (ยุคสุดท้าย)
 
=== ยุคสีน้ำเงิน ===
อยู่ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1901-1901–1904 ปีกัสปิกาโซจมลงไปในภาวะซึมเศร้ารุนแรง เขาวาดภาพสีเดียวเป็นหลักในเฉดสีของสีฟ้า สีเขียวและสีฟ้าอ่อนผสมกับสีอื่น ๆ ทำให้งานของเขาในช่วงนี้มีลักษณะที่อึมครึม เขาได้รับแรงบันดาลใจในการวาดภาพลักษณะนี้จากการเดินทางผ่านประเทศสเปนและการฆ่าตัวตายของ[[การ์ลัส กาซาแฌมัส]] เพื่อนของเขาคาร์ลอ Casagemas แต่วาดผลงานในเมืองปารีส เขาเลือกใช้สีที่เรียบง่ายและถ่ายทอดเรื่องเศร้าโศก เช่นเรื่องโสเภณี ขอทานและ ขี้เมา เป็นภาพวาดที่สะท้อนชีวิตของผู้คนในสังคมเมืองปารีสที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่เพื่อเป็นการเสียดสีหรือวิจารณ์สังคมในขณะนั้น เป็นต้น
 
=== ยุคสีชมพู ===
[[ไฟล์:Garçon à la pipe.jpg|thumb|left|upright|Pablo Picasso, ''[[Garçon à la pipe]], (Boy with a Pipe),'' 1905, [[Rose Period]](ยุคสีชมพู)]]
อยู่ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1904-1904–1906 เป็นภาพที่วาดด้วยโทนสีที่สดใสด้วยโทน เช่น สีส้ม สีชมพู และสีเนื้อ ซึ่งเป็นโทนสีที่ตรงกันข้ามกับยุคสีน้ำเงิน ซึ่งในช่วงปี ค.ศ. 1904 เป็นช่วงที่เขาได้มีความสุขในจากความสัมพันธ์กับคนรักคนแรกของเขาคือ เฟอร์นานเดอ โอริเวียร์ [[Fernandeแฟร์น็องด์ Olivierออลีวีเย]] และประกอบกับสภาพจิตใจที่ดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้งานของเขามีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขามักวาดภาพในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับลวดลายข้าวหลามตัด นักแสดง และตัวตลกเป็นต้น
 
=== ยุคอิทธิพลแอฟริกันแอฟริกา ===
อยู่ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1906-1906–1909 เป็นช่วงเวลาที่ปีกัสปิกาโซวาดในสไตล์ที่ได้รับอิทธิพลจากงานประติมากรรมแอฟริกันแอฟริกาที่ถูกนำกลับไปยังพิพิธภัณฑ์ในกรุงปารีส เป็นผลมาจากการขยายตัวของจักรวรรดิฝรั่งเศสในแอฟริกา โดยงานประติมากรรมจากแอฟริกาเป็นแรงบันดาลใจสำหรับบางส่วนของการทำงานของเขา ความสนใจของเขาถูกจุดประกายโดยอองรี[[อ็องรี มาตีติส]] ที่แสดงให้เขาเห็นหน้ากากจากภูมิภาคแดนของในทวีปแอฟริกา โดยผลงานในช่วงยุคนี้ได้มีอิทธิพลพัฒนาส่งต่อมาช่วงบาศกนิยมอีกด้วย
 
=== ยุคบาศกนิยม ===
ยุคบาศกนิยมเป็นยุคความเคลื่อนไหวทางศิลปะอาวองการ์ดล้ำยุคในศตวรรษที่ 20 ริเริ่มโดยปาโบล ปีกัสโซ (Pablo Picasso)ปิกาโซ และจอร์จส์[[ฌอร์ฌ บราค (Georges Braque)บรัก]] ได้เปลี่ยนรูปโฉมของจิตรกรรมและประติมากรรมสไตล์ยุโรป รวมไปถึงดนตรีและงานเขียนที่เกี่ยวข้อง สาขาแรกของบาศกนิยมเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Analytic Cubism ("[[บาศกนิยมแบบวิเคราะห์]]" (analytical cubism) เป็นความเคลื่อนไหวทางศิลปะที่มีอิทธิพลรุนแรงและมี ความสำคัญอย่างมากในฝรั่งเศส แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานนักระหว่าง ค.ศ. 1907 และ 1907–1911 ความเคลื่อนไหวในช่วงที่สองนั้นถูกเรียกว่า Synthetic Cubism ("[[บาศกนิยมแบบสังเคราะห์]]" (synthetic cubism) ได้แพร่กระจายและตื่นตัวจนกระทั่ง ค.ศ. 1919 เมื่อความเคลื่อนไหวของลัทธิเหนือจริงเป็นที่นิยม
 
ปีกัสปิกาโซและบราคพยายามเน้นคุณค่าของปริมาตรกับอากาศซึ่งสัมพันธ์กันเต็มไปหมดในภาพ อีกทั้งไม่เห็นด้วยในหลักการของพวกอิมเพรสชั่นนิสต์ผู้นิยม[[ลัทธิประทับใจ]] ซึ่งละเลยความสำคัญของรูปทรงและปริมาตร ศิลปินต่างสำรวจความละเอียดของสิ่งที่พวกเขาต้องการวาด ด้วยการทำลายรูปทรงเหล่านั้นให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่ปะติดปะต่อกัน รูปทรงบางรูปอาจทับซ้อนกัน หรือเหลื่อมล้ำกันและกัน โดยมีจุดประสงค์สำคัญในเรื่องปริมาตรเป็นเป้าหมายสูงสุด การสร้างภาพที่มีการจัดวางแบบผสมผสานแปลกใหม่ ไม่เน้นกฎเกณฑ์ และนำเสนอภาพแง่มุมต่างๆต่าง ๆ และที่สำคัญศิลปินทั้งสองเน้นว่า ผลงานคิวบิสม์บาศกนิยมไม่ใช่งานสามมิติ แต่มีมิติที่สี่เช้ามา ซึ่งได้แก่ มิติของเวลา ที่สัมพันธ์กับการรับรู้ของมนุษย์ พร้อมกันนี้อาน์อันนาสันได้เปรียบเทียบระหว่างลัทธิโฟวิสม์กับคิวบิสม์ [[คติโฟวิสต์]]กับบาศกนิยมไว้ว่า แนวทางของโฟวิสม์คติโฟวิสต์มีลักษณะการสร้างงานในการใช้สีที่โดดเด่นกว่าลัทธิอื่น แต่การนำเสนอรูปร่างของคนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ในขณะที่ลัทธิคิวบิสม์บาศกนิยมสามารถนำไปเป็นแนวทางการสร้างศิลปะลัทธิอื่นๆอื่น ๆ ได้ต่อไป เช่น [[ลัทธิเค้าโครง|งานโครงสร้าง]] (Constructivismconstructivism) [[ลัทธิเหนือจริง|งานเหนือจริง]] (Surrealismsurrealism) รูปแบบของ [[ลัทธิบาศกนิยม]] เป็นต้น
 
ในผลงานศิลปะของบาศกนิยมนั้น วัตถุจะถูกทำให้แตกเป็นชิ้น วิเคราะห์ และประกอบกลับขึ้นมาใหม่ในรูปลักษณ์ที่เป็นนามธรรมแทนที่จะแสดงวัตถุให้เห็น จากเพียงแค่มุมมองเดียว จิตรกรนั้นได้ถ่ายทอดวัตถุจากหลายแง่มุมเพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงวัตถุที่ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่กว้างขึ้น บ่อยครั้งนักที่ผืนราบดูเหมือนจะตัดกันในมุมที่เป็นไปโดยบังเอิญ ปราศจากความสอดคล้องของความลึก ส่วนพื้นหลังและผืนราบแทรกเข้าไปในระหว่างกันและกันเพื่อที่จะทำให้เกิด พื้นที่ที่ไม่ชัดเจนอย่างผิวเผิน ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะเฉพาะของบาศกนิยม
 
=== ยุคคลาสสิกนิยมแบบแผนและเหนือจริง ===
ในช่วงเวลาดังต่อไปนี้เป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ปีกัสปิกาโซเริ่มผลิตงานในรูปแบบนีโอ[[ลัทธิคลาสสิกนี้ใหม่]] การ "กลับไปทำงานแบบตามสั่ง" ตามรูปแบบที่เคยมีมา นี้เห็นได้ชัดในการทำงานของศิลปินชาวยุโรปจำนวนมากในช่วงปี ค.ศ. 1920 รวมทั้ง[[อ็องเดร Andre Derainเดอแร็ง]], Giorgio[[จอร์โจ Deเด Chiricoกีรีโก]], Gino[[จีโน Severiniเซเวรีนี]], ศิลปินของการเคลื่อนไหวกลุ่ม Objectivity''[[น็อยเออซัคลิชไคท์]]'' ใหม่และจากกลุ่ม Novecento Italiano''[[โนเวเชนโตอีตาเลียโน]]'' ภาพวาดปีกัสปิกาโซและภาพวาดจากช่วงเวลานี้คล้ายคลึงกับรูปแบบผลงานของ [[Raphaelราฟาเอล]] and และ[[Ingresฌ็อง-โอกุสต์-ดอมีนิก แอ็งกร์]] เนื้อหางานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของปีกัสโซปิกาโซคือ ''[[เกร์นิกา (ปิกาโซ)|เกร์นิกา]]'' เป็นภาพของเขาจากการระเบิดของเยอรมันเยอรมนีในช่วงสงครามกลางเมืองในสเปนบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ แสดงถึงความไร้มนุษยธรรมทารุณโหดร้ายและความสิ้นหวังของสงคราม
 
=== ยุคสุดท้าย ===
[[ไฟล์:2004-09-07 1800x2400 chicago picasso.jpg|thumb|upright|The ''[[Chicago Picasso]]]]
ผลงานสุดท้ายของปีกัสปิกาโซเป็นการผสมของรูปแบบวิธีในการแสดงออกในงานของเขาจนกระทั่งจบชีวิต ปีกัสปิกาโซเพิ่มเติมและแสดงออกผลงานของเขาอย่างมีมีสีสันและจาก ค.ศ. 1968 จนกระทั่งถึง ค.ศ. 1971 เขาผลิตผลงานออกมามากมายทั้งภาพวาดและแกะสลักทองแดงหลายร้อยชิ้น โดยผลงานส่วนใหญ่นั้นถูกปฏิเสธไม่ได้รับการยอมรับเนื่องจากเป็นผลงานที่สื่อความอย่างอนาจาร แต่ภายหลังเมื่อปีกัสปิกาโซได้เสียชีวิตลง กระแสทิศทางของศิลปะก็ได้เปลี่ยนแปลงจาก Abstract expressionism [[ลัทธิสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม]]และกระแสรูปแบบศิลปะแบบ [[Neo-expressionismลัทธิสำแดงพลังอารมณ์ใหม่]] (neo-expressionism) ในเวลาต่อมา
 
== อ้างอิง ==
เส้น 68 ⟶ 65:
* http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1
 
{{คอมมอนส์|Pablo Picasso|ปาโบล ปิกาโซ}}
{{wikiquote}}