ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โจว ซิงฉือ"

'''โจว ซิงฉือ''' หรือ Stephen Chow ([[จีนตัวเต็ม]]: 周星馳, [[จีนตัวย่อ]]: 周星驰, [[พินอิน]]: Zhōu Xīngchí, {{lang-en|Stephen Chow, Stephen Chow Sing-Chi}}) เกิดวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1962 ที่เกาะ[[ฮ่องกง]] เป็นนักแสดง , โปรดิวเซอร์ , ผู้กำกับ , ผู้อำนวยการสร้าง , ผู้เขียนบทภาพยนตร์แนวตลกโปกฮา , แนวตลกล้อเลียน (Parody Movie) ได้รับยกย่องให้เป็น เจ้าพ่อหนังฮา หรือ '''King of Comedy''' ของวงการหนังฮ่องกงและเอเชีย อัจฉริยะตลกผู้บัญญัติหนังแนวคอมเมดี้ - ดราม่า ( Comedy ,- Drama) ไว้บนโลกภาพยนตร์ จากนักแสดงพันล้านดอลล่าห์ฮ่องกง (HKD) สู่ผู้กำกับ ,- ผู้อำนวยการสร้าง พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ (USD) ในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ครอบครองตลาดภาพยนตร์แนวตลกโปกฮาไว้เพียงผู้เดียวตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 30 ปี

โจว ซิงฉือ (Stephen Chow) เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว มีพี่สาวหนึ่งคน น้องสาวสองคน รกรากอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ โจว ซิงฉือ ใฝ่ฝันอยากทำงานวงการภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็ก มีนักแสดงในดวงใจ คือ [[บรูซ ลี]] , [[โจว เหวินฟะ]] และ, [[ว่าน จือเหลียง]] เมื่อเขาเรียนจบการศึกษาระดับมัธยมได้ไปสมัครงานค่าย[[สถานีโทรทัศนทีวีโทรทัศน์ทีวีบี]] (TVB) ฮ่องกง แต่ถูกปฏิเสธจึงสมัครเข้าเรียนการแสดงในโรงเรียนการแสดงของค่ายทีวีบี (TVB)แทน รุ่นเดียวกันกับ [[เหลียง เฉาเหว่ย]] ได้เป็นพิธีกรโทรทัศน์รายการเด็ก 430 Space Shuttle คู่กับ เหลียง เฉาเหว่ย ได้แสดงซีรีส์ให้กับค่ายทีวีบี (TVB) และแสดงภาพยนตร์ แต่เป็นบทตัวประกอบ เป็นส่วนใหญ่

ในปี ค.ศ. 1987 โจว ซิงฉือ ได้แสดงบทสมทบเป็นครั้งแรก ในละครซีรีส์เรื่อง ค่าของคน (The Price Of Growing Up , 1987) ว่าน จื่อเหลียง เป็นพระเอกนำนำแสดง ได้แสดงบทสมทบบนจอเงินเป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์เรื่อง โหดแค่แหลก (He Who Chases Afer the wind , 1988) ว่าน จื่อเหลียง เป็นพระเอกนำนำแสดงเช่นเคย แต่เขาฉายแววความสามารถทางการแสดงอย่างโดดเด่น มากได้รับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยม (Best New Performer) อีกด้วย ต่อมาในปี 1988 ได้รับรางวัลม้าทองคำ (Taiwan Golden Horse Award) สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) จากภาพยนตร์เรื่อง Final Justice (1988) หรือ เฉ่งไอ้คุณโป ทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคเริ่มแรกของการแสดงซีรีส์และภาพยนตร์ โจว ซิงฉือ ได้แสดงในบทสมทบแนวทั่วไป ดราม่า แอ็คชั่น แก็งสเตอร์ ตามความนิยมของตลาดสมัยนั้น จนกระทั่งในปี 1989 ก้าวขึ้นมารับบทพระเอกละครซีรีส์ของค่ายโทรทัศน์ทีวี บี(TVB) ในเรื่อง จอมยุทธสะท้านโลกันตร์ (หรือ [[จอมยุทธผงาดฟ้า]]) หรือ The Final Combat , 1989 ซีรีส์กำลังภายในแนวตลกโปกฮาที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเป็นกระแสนิยมทั่วเกาะฮ่องกง ส่งให้โจว ซิงฉือ ก้าวสู่สถานะพระเอก (Leader Actor) อย่างเต็มตัว จนเป็นที่คาดการณ์ว่า เขาจะโด่งดังจากการเป็นนักแสดงแนวตลกโปกฮา (Comedy) ซึ่งวงการบันเทิงฮ่องกงขาดแคลนมาโดยตลอด

ในปี 1990 จากกระแสความดังของภาพยนตร์ เรื่อง God of Gamblers , 1989 หรือ [[คนตัดคน]] ภาค 1 โด่งดังถล่มทลายไปทั่วเอเชีย โจว ซิงฉือ พระเอกตลกหน้าใหม่ของวงการบันเทิงฮ่องกง ได้มารับบทล้อเลียนหนังเรื่อง คนตัดคน ดังกล่าว ในภาพยนตร์ เรื่อง All for the Winner , 1990 หรือ [[คนตัดเซียน]] ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในเกาะฮ่องกง โจว ซิงฉือ กลายเป็นดาราตลกอย่างเต็มตัว (Comedy Star) และเป็นจุดเริ่มต้น หนังแนว'''ตลกล้อเลียน''' (Parody Movie) ของโจว ซิงฉือ เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังสร้างปรากฏการณ์กระแสคู่หูคู่ฮา โจว ซิงฉือ กับ [[อู๋ เมิ่งต๋า|อู๋ เมิ๋งต๋า]] ในโลกภาพยนตร์อีกด้วย ต่อมาทางผู้สร้างภาพยนตร์เจ้าเดิม (ค่าย Win 's Entertainment) ได้นำ โจว ซิงฉือ มาแสดงภาพยนตร์ เรื่อง God of Gamblers 2 , 1990 หรือ คนตัดคน ภาค 2 คู่กับ [[หลิว เต๋อหัว]] ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วเอเชีย โจว ซิงฉือ จึงโด่งดังทั่วเอเชียในพริบตา พร้อมกันนี้ ยังทำให้กับส่งให้เขาก้าวสู่ทำเนียบ พระเอกยอดนิยม (Box Office Star) สายหนัง Comedy หรือ หนังตลกโปกฮา ในตลาดหนังระดับเอเชียอีกด้วย

จากปรากฏการณ์กระแสคู่หูคู่ฮา โจว ซิงฉือ กับ [[อู๋ เมิ่งต๋า|อู๋ ม่งต๊ะ]] ทั้งคู่จึงได้มาแสดงหนังร่วมกันในภาพยนตร์ เรื่อง Fight Back to School , 1991 หรือ คนเล็กนักเรียนโต ภาพยนตร์ทำรายได้อย่างถล่มทลาย ทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วเอเชีย ถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ หนังแนวตลกโปกฮา "โจว ซิงฉือ & อู๋ ม่งต๊ะ" พร้อมส่งให้ดาราสมทบอย่าง อู๋ ม่งต๊ะ กลายเป็นดาราคู่บุญของโจว ซิงฉือ เป็นต้นมา

โจว ซิงฉือ ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลทั้งในเกาะฮ่องกง ทั่วเอเชีย และดังไกลถึงระดับโลก จนวงการหนังฮอลลีวู้ดเปรียบเปรยว่าเขาคือ [[จิม แคร์รีย์]] (Jim Carrey) แห่งเอเชีย สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งเกาะฮ่องกง จัดเก็บยอดรายได้ภาพยนตร์ (box office) ในช่วงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮ่องกงรุ่งเรืองใน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 - ค.ศ. 2005 (รอบ 20 ปี) โจว ซิงฉือ เป็นนักแสดงนำที่มียอดรายได้ภาพยนตร์ (Box Office) รวมกันสูงถึง 1,317,452,311 ล้านเหรียญฮ่องกง (HKD) เป็นพระเอกหนังพันล้าน เป็นประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมหนังจีนฮ่องกง ซึ่งมีเพียงสองคนเท่านั้น คู่กับ [[หลิว เต๋อหัว]] มียอดรายได้ภาพยนตร์ (Box Office) จำนวน 1,733,275,816 ล้านเหรียญฮ่องกง (HKD) ซึ่งวงการหนังฮ่องกงให้ฉายาทั้งสองคนว่า คู่พระเอกขาว - ดำ (Black & White) หรือ พระเอก'''สายฮา''' (โจว ซิงฉือ) - พระเอก'''สายโศก''' (หลิว เต๋อหัว) ทั้งคู่ยังเคยแสดงหนังร่วมกัน ในหนังตลกโปกฮาผสมดราม่าโรมานซ์ เรื่อง Tricky Brains , 1991 หรือ คนกัดคน แสดงเล่นเป็นลูกพี่ลูกน้องมีพ่อคนเดียวกัน (อู๋ ม่งต๊ะ) ในหนังมีการสลับบุคลิกการแสดงกันด้วย ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และเป็นที่ฮือฮาไปทั่วเอเชียอย่างมากมาย ทั้งเป็นจุดเริ่มต้นหนังแนวคอมเมดี้ - ดราม่า ( Comedy ,- Drama) ของโจว ซิงฉือ อีกด้วย

โจว ซิงฉือ ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับภาพยนตร์แนวตลกล้อเลียน (Parody Movie) ที่มีต้นฉบับเป็นวรรณกรรม นวนิยาย เช่น อุ้ยเสี่ยวป้อ จอมยุทธเย้ยยุทธจักร (Royal Tram 1 , 2 / 1992) ถังไป่หู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ( Flirting Scholar , 1993) พยัคฆ์ไม่ร้าย คังคังฉิก (Forbidden City Cop ,1996) หรือ ล้อเลียนหนังดังระดับตำนาน เช่น พยัคฆ์ไม่ร้าย 007 (From Beijing with Love , 1994) เป็นต้น แต่ถึงกระนั้น โจว ซิงฉือ ไม่หยุดความสำเร็จไว้กับหนังตลกแนวล้อเลียน (Parody Movie) เพียงอย่างเดียว ได้คิดค้นหนังตลกในแบบฉบับของตัวเองจนประสบความสำเร็จ ในปี 1991 ได้แสดงภาพยนตร์ดัดแปลงจากการ์ตูนญี่ปุน เรื่อง '''Fist of Fury''' (,1991) หรือ คนเล็กต้องใหญ่ เขาได้สร้างคาแรกเตอร์ตัวละครจนเป็นภาพจำแก่ผู้ชมภาพยนตร์เป็นอย่างมาก โจว ซิงฉือ จึงพัฒนาคาแรกเตอร์ตัวละครในรูปแบบเดียวกันลงในภาพยนตร์จนกลายเป็นอัตลักษณ์ประจำตัวของเขา เช่น คนเล็กกุ๊กเทวดา (The God of Cookery ,1996) คนเล็กไม่เกรงใจนรก (King of Comedy , 1999) ภาพยนตร์ที่เป็นกระแสไปทั่วโลก เช่น นักเตะเสี่ยวลิ้มยี่ (Sholin Soccer , 2001) [[คนเล็กหมัดเทวดา]] (Kung Fu Hustle , 2004) ซึ่งจนวงการภาพยนตร์โลก ยกย่องให้เป็นหนึ่งในแนวหนังของโลก คือ "หนังตลก สไตล์โจวซิงฉือ" หรือ '''Chow 's Comedy''' หนังแนวคอมเมดี้ - ดราม่า ( Comedy ,- Drama) ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว แนวพระเอกต่ำตม(Loser) แต่ต่อสู้จนประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต ในบ้านเราตั้งชื่อหนังของโจว ซิงฉือ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวว่า "คนเล็ก" ตามหนังสไตล์นี้ของเขานั่นเอง เป็นที่รับรู้ของแฟนๆภาพยนตร์ทั่วโลกว่า บรูซ ลี เป็นไอดอลของเขา โจว ซิงฉือได้เลียนแบบบุคลิกการแสดงของบรูซ ลี ลงบนภาพยนตร์ของเขา หลายต่อหลายฉาก หลายต่อหลายเรื่อง ล้วนเป็นการคาราวะนักแสดงในดวงใจของเขาคนนี้ทั้งนั้น

นอกจากนี้ โจว ซิงฉือ ยังมีฝีมือการแสดงอย่างยอดเยี่ยม ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor) จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ เอเชียแปซิฟิก ( Asia Pacific Film Festival) จากภาพยนตร์ เรื่อง Justice My Foot , 1992 หรือ คนเล็กสะท้านยุทธจักร และรางวัลตุ๊กตาทอง (Hong Kong Film Awards) สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor) จากภาพยนตร์ เรื่อง Shaolin Soccer , 2001 หรือ นักเตะเสียวลิ้มยี่ เป็นที่รับรู้ของแฟนๆภาพยนตร์ทั่วโลกว่า บรูซ ลี เป็นไอดอลของเขา และเขาได้เลียนแบบบุคลิกการแสดงของบรูซ ลี ลงบนภาพยนตร์ของเขาหลายต่อหลายฉาก ล้วนแต่เป็นการคาราวะนักแสดงในดวงใจของเขาคนนี้ทั้งสิ้น

ผลงานในระยะหลังของเขา โจว ซิงฉือ ทำหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์ กำกับการแสดง และอำนวยการสร้าง แต่ไม่ได้แสดงหนังเอง เคยได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) จากภาพยนตร์ เรื่อง Shaolin Soccer (2001) หรือ นักเตะเสียวลิ้มยี่ อีกด้วย <ref>[http://www.nangdee.com/name/?person_id=7806 โจว ซิงฉือ]</ref> ด้านชีวิตส่วนตัว โจว ซิงฉือ กำลังคบหากับคู่รักต่างวัยชื่อ [[หลอ ไห่ซาน]]<ref>[http://www.rakseries.com/news/1362 เผยโฉมนางแบบสาววัย 21 แฟนใหม่ตลกซุปเปอร์สตาร์ "โจวซิงฉือ"] {{th}}</ref> ปัจจุบัน โจว ซิงฉือ ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ในการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้และอำนวยการสร้างภาพยนตร์ หนังของเขาทำเงินถล่มทลายในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำสถิติเป็น ผู้กำกับ ,- ผู้อำนวยการสร้าง พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ (USD) คนแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ จากภาพยนตร์ของเขาเพียง 4 เรื่อง แต่แฟนๆภาพยนตร์ทั่วโลก ต่างเฝ้ารอและเรียกร้องให้ โจว ซิงฉือ หวนกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้ง

* THE FINAL COMBAT (1989) หรือ จอมยุทธสะท้านโลกันตร์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่ตอนลงม้วนวีดีโอ เป็น [[จอมยุทธผงาดฟ้า]]

*ตัวประกอบ ในภาพยนตร์เรื่อง A Better Tomorrow , 1986 หรือ โหด เลว ดี ภาค 1 ออกมาฉากเดียวแล้วถูก โจว เหวินฟะ ยิงตาย