ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 85:
เกิดในครอบครัวเควกเกอร์ใน West Branch รัฐไอโอวา ฮูเวอร์ได้เข้ารับตำแหน่งกับบริษัททำเหมืองแร่ในกรุงลอนดอน หลังจากได้สำเร็จการศึกษาจาก[[มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด]] ในปี ค.ศ. 1895 หลังจาก[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]ได้ลุกลามมากขึ้น เขาได้กลายเป็นหัวหน้าของคณะกรรมาธิการสำหรับการบรรเทาทุกข์ในเบลเยียม องค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศที่ได้แจกจ่ายอาหารในเบลเยียมที่ถูกยึดครอง เมื่อสหรัฐได้เข้าสู่สงคราม ประธานาธิบดี[[วูดโรว์ วิลสัน]]ได้แต่งตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และฮูเวอร์ได้กลายเป็นที่รู้จักกันในประเทศว่า"พระเจ้าซาร์แห่งอาหาร" หลังสงคราม, ฮูเวอร์ได้เป็นหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการบรรเทาทุกข์ของอเมริกา ซึ่งได้ทำการแจกจ่ายอาหารให้แก่ประชาชนในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก การทำหน้าที่ในช่วงสงครามของฮูเวอร์ได้ทำให้เขากลายเป็นที่โปรดปรานของเหล่าพวกหัวก้าวหน้าหลายคนและเขาไม่ประสบความสำเร็จในการเสนอชื่อของตนในพรรคริพับลิกันลงรับสมัครเลือกตั้งเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ปี ค.ศ. 1920
 
ภายหลังการเลือกตั้ง ปี ค.ศ. 1920 ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกเลือกตั้งมาใหม่จากพรรคริพับลิกันอย่าง[[วาร์เรน จี. ฮาร์ดิง]] ได้แต่งตั้งให้ฮูเวอร์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฮูเวอร์ยังคงทำหน้าที่ต่อไปโดยอยู่ภายใต้การนำของประธานาธิบดี[[แคลวิน คูลิดจ์]] ภายหลังจากฮาร์ดิงได้ถึงแก่อสัญกรรมในปี ค.ศ. 1923 ฮูเวอร์เป็นนักเคลื่อนไหวที่แปลกและสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่มีความโดดเด่น กลายเป็นที่รู้จักกันคือ "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และปลัดกระทรวงของทบวงอื่นๆทั้งหมด" เขาได้มีอิทธิพลในการพัฒนาวิทยุและการเดินทางโดยทางอากาศและได้เป็นผู้นำในการตอบสนองของรัฐบาลกลางถึงเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่รัฐมิสซิสซิปปี ฮูเวอร์ ได้รับชัยชนะในการนำเสนอชื่อของตนในพรรคริพับลิกันลงรับสมัครเลือกตั้งเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ปี ค.ศ. 1928 และได้เอาชนะอย่างเด็ดขาดกับผู้สมัครเลือกตั้งจากพรรคแดโมแครต อัล สมิธ ตลาดหุ้นได้ล่มภายหลังจากฮูเวอร์เข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานและ[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]]ได้กลายเป็นประเด็นที่สำคัญของการเป็นประธานาธิบดีของเขา ฮูเวอร์ติดตามนโยบายต่างๆมากมายในความพยายามที่จะยกระดับเศรษฐกิจให้ดีขึ้น แต่ได้รับการคัดค้านที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาลกลางในความพยายามที่จะบรรเทาทุกข์
 
ในช่วงท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ฮูเวอร์ก็ได้พ่ายแพ้อย่างราบคาบให้กับผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตอย่าง[[แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์]]ในการเลือกตั้งเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ปี ค.ศ. 1932 ฮูเวอร์ได้มีชีวิตอย่างเริ่งร่ากับการเกษียณที่ยาวนานที่สุดมากกว่าประธานาธิบดีคนอื่นๆใดและเขาได้เขียนผลงานเอาไว้มากมาย ภายหลังจากลงจากตำแหน่ง ฮูเวอร์ได้กลายเป็นนักอนุรักษ์นิยมมากขึ้นและเขาได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงกับนโยบายต่างประเทศของโรสเวลต์และโครงการสัญญาใหม่ที่จะถูกนำมาใช้ภายในประเทศ ในปี ค.ศ. 1940 และ 1950 ชื่อเสียงของเขาได้รับการฟื้นฟูในขณะที่เขาทำงานให้กับประธานาธิบดี[[แฮร์รี เอส. ทรูแมน]]และ[[ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์]]ในตำแหน่งต่างๆที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงในฐานะที่เป็นประธานสำนักงานคณะกรรมฮูเวอร์(Hoover Commission) อย่างไรก็ตาม ฮูเวอร์ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในอันดับสูงสุดในการจัดอันดับประวัติศาตร์ของประธานาธิบดีสหรัฐ