ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 1 แห่งแคลเรนซ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Darkydury (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
Wedjet (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1:
{{ใช้ปีคศ|width=280px}}
{{กล่องข้อมูล ขุนนางอังกฤษ
| name = จอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุคแห่งแคลเรนซ์ที่ 1
เส้น 5 ⟶ 4:
| caption = <small>ตราจอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุคแห่งแคลเรนซ์</small>
| titles = สมาชิกในราชตระกูลยอร์คแลงคาสเตอร์
| birth_date = [[21 ตุลาคม]] [[ค.ศ. 1449]]<br />
| birth_place =
| death_date = [[18 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1478]]<br />
| death_place =
| father = [[ริชาร์ด แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 3 แห่งยอร์ก]]
เส้น 16 ⟶ 15:
| work =
}}
{{ใช้ปีคศ|width=280px}}
'''จอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 1 แห่งแคลเรนซ์''' ({{lang-en|'''George Plantagenet, 1st Duke of Clarence'''}}); ([[21 ตุลาคม]] [[ค.ศ. 1449]] - [[18 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1478]]) จอร์จ แพลนแทเจเนต เป็นบุตรชายคนที่สามของ[[ริชาร์ด แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 3 แห่งยอร์ก]] และ[[ซิซิลิ เนวิลล์]] และเป็นพระอนุชาของ[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4]] และพระเชษฐาของ[[สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าริชาร์ดที่ 3]]
ดยุคแห่งแคลเรนซ์มีบทบาทสำคัญในความขัดแย้งในการอ้างสิทธิในการครองราชบัลลังก์ที่ทำให้เกิด[[สงครามดอกกุหลาบ]] และถูกประหารชีวิตในข้อหา[[กบฏต่อแผ่นดิน]]ในการวางแผนโค่นราชบัลลังก์ของพระเชษฐา[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4]]
 
<br />
 
== วัยเยาว์ ==
จอร์จ แพลนแทเจเนตเป็นบุตรชายที่รอดชีวิตคนที่สามของ[[ริชาร์ด แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 3 แห่งยอร์ก|ริชาร์ด แพลนแทเจเนต ดยุคแห่งยอร์ก]]และ[[เซซิลี เนวิลล์ ดัชเชสแห่งยอร์ก|เซซิลี เนวิลล์]] เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1449 ที่[[ปราสาทดับลิน]] ในช่วงที่บิดากำลังทำหน้าที่เป็น[[ข้าหลวงใหญ่แห่งไอร์แลนด์]] จอร์จมีพี่น้องร่วมบิดามารดาสองคน คือ เอ็ดเวิร์ด (ต่อมาคือ[[พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ]]) และริชาร์ด (ต่อมาคือ[[พระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ]])
 
 
ดยุกแห่งยอร์ก บิดาของจอร์จเป็นบุคคลสำคัญใน[[สงครามดอกกุหลาบ]] โดยเป็นผู้ท้าทายฝ่าย[[ราชวงศ์แลงคัสเตอร์|แลงคัสเตอร์]]ด้วยการอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์อังกฤษจนถูกสังหารใน[[ยุทธการเวคฟิลด์|สมรภูมิเวคฟิลด์]]ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1460 ศีรษะของเขาถูกสวมมงกุฎกระดาษเป็นการเยาะเย้ยและถูกเสียบประจานที่มิกเคิลเกตในเมือง[[ยอร์ก]] เอ็ดมันด์ เอิร์ลแห่งรัตแลนด์ บุตรชายคนที่สองของดยุคก็ถูกสังหารในสมรภูมิเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยมารดาของจอร์จได้ส่งตัวจอร์จกับน้องชาย คือ ริชาร์ด ไป[[แคว้นบูร์กอญ|บูร์กอญ]]
 
 
เอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งมาร์ช พี่ชายของจอร์จสานต่อการอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์ของฝ่าย[[ราชวงศ์ยอร์ก|ยอร์ก]]และเอาชนะฝ่ายแลงคัสเตอร์ได้ที่มอร์ติเมอร์ส์ครอสในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1461 จากนั้นได้ประกาศตนเป็นกษัตริย์ที่[[ยุทธการที่ทาวตัน|ทาวตัน]]ใน[[ยอร์กเชอร์]]ในวันที่ 29 มีนาคม ซึ่งตรงกับ[[วันอาทิตย์ใบลาน]]ของปี ค.ศ. 1461 เอ็ดเวิร์ดปราบกองกำลังแลงคัสเตอร์ภายใต้การนำของดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ตและเดินทางเข้าสู่ลอนดอนในเดือนมิถุนายน จากนั้นได้เข้ารับการสวมมงกุฎเป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ที่[[วิหารเวสต์มินสเตอร์]]
<br />
 
== ดยุคแห่งแคลเรนซ์ ==
[[ไฟล์:George Plantagenet, Duke of Clarence.jpg|left|thumb|จอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุคแห่งแคลเรนซ์]]
กษัตริย์คนใหม่มีความกรุณาต่อน้องชายทั้งสอง พระองค์ได้แต่งตั้งจอร์จซึ่งขณะนั้นมีอายุ 11 ปีเป็นดยุคแห่งแคลเรนซ์ในปี ค.ศ. 1461 และตั้งเป็นข้าหลวงใหญ่แห่งไอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1462 ส่วนริชาร์ดได้รับแต่งตั้งเป็นดยุคแห่งกลอสเตอร์ ความไม่ลงรอยกันระหว่างพี่น้องเริ่มก่อตัวขึ้นในปี ค.ศ. 1464 เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดแต่งตั้ง[[เอลิซาเบธ วูดวิลล์]] ภรรยาของอัศวินฝ่ายแลงคัสเตอร์เป็นพระราชินี คนในครอบครัวที่ต่ำต้อยและโลภมากของพระราชินีได้รับพระราชทานตำแหน่งใหญ่ๆ เพื่อให้สมกับฐานะใหม่ของพระนาง สร้างความผิดหวังให้แก่ขุนนางเก่าแก่ โดยเฉพาะ[[ริชาร์ด เนวิลล์ เอิร์ลที่ 16 แห่งวอริก|ริชาร์ด เนวิลล์ เอิร์ลแห่งวอริค]] ลูกพี่ลูกน้องและไพร่ฟ้าผู้ทรงอำนาจของกษัตริย์ที่ต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ "เอิร์ลแห่งวอริคผู้สร้างกษัตริย์ (วอริค เดอะ คิงเมกเกอร์)"
 
 
ในช่วงราวปี ค.ศ. 1468 ดยุคแห่งแคลเรนซ์ตกอยู่ใต้อิทธิพลของริชาร์ด เนวิลล์ เอิร์ลแห่งวอริค และมีแผนที่จะสมรสกับ[[อิซาเบล เนวิลล์ ดัชเชสแห่งแคลเรนซ์|อิซาเบล เนวิลล์]]ซึ่งเป็นธิดาคนโตและทายาทของริชาร์ด เนวิลล์ ทว่ากษัตริย์ผู้เป็นพี่ชายขัดขวางการสมรสครั้งนี้ สองหนุ่มสาวขัดขืนคำสั่งของกษัตริย์และเดินทางไป[[กาแล (เมือง)|กาแล]]เพื่อเข้ารับการทำพิธีสมรสในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1469 ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1470 ดยุคแห่งแคลเรนซ์และพ่อตาได้แอบสนับสนุนการก่อจราจลติดอาวุธในตอนเหนือของอังกฤษ เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทราบข่าวการทรยศของน้องชาย พระองค์ได้ริบตำแหน่งข้าหลวงใหญ่แห่งไอร์แลนด์ที่เคยพระราชทานให้ ดยุคแห่งแคลเรนซ์ได้หนีไปฝรั่งเศสพร้อมกับเอิร์ลแห่งวอริค ด้วยแรงสนับสนุนจาก[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส]] เอิร์ลแห่งวอริคได้ถวายตัวจงรักภักดีต่อ[[มาร์กาเรตแห่งอ็องฌู|มาร์เกอรีตแห่งอ็องฌู]] พระราชินีผู้ถูกปลดจากบัลลังก์ และผนึกความสัมพันธ์ด้วยการให้[[แอนน์ เนวิลล์]] ธิดาคนรองของตนสมรสกับ[[เอ็ดเวิร์ดแห่งเวสต์มินสเตอร์ เจ้าชายแห่งเวลส์|เอ็ดเวิร์ด แพลนแทเจเนต เจ้าชายแห่งเวลส์]]ของฝ่ายแลงคัสเตอร์ซึ่งเป็นทายาทของ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 6]]
 
ในเดือนกันยายนของปีเดียวกันดยุคแห่งแคลเรนซ์และเอิร์ลแห่งวอริคได้ทำการรุกรานอังกฤษจนช่วยให้พระเจ้าเฮนรีที่ 6 พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์แลงคัสเตอร์ที่ถูกปลดจากตำแหน่งได้กลับคืนสู่บัลลังก์ ทว่าไม่นานดยุคแห่งแคลเรนซ์ก็เหนื่อยหน่ายกับการบริหารการปกครองของวอริคและไม่ชอบใจตนเองที่ต่อสู้เพื่อราชวงศ์แลงคัสเตอร์ จึงแอบคืนดีกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ผู้เป็นพี่ชาย ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1471 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ถูกขับไล่ออกจากประเทศเดินทางกลับมาอังกฤษ ดยุคแห่งแคลเรนซ์ได้ทอดทิ้งอดีตพันธมิตรอย่างเอิร์ลแห่งวอริคและต่อสู้อยู่ฝ่ายเดียวกับพี่ชายใน[[ยุทธการที่บาร์เนต|สมรภูมิบาร์เน็ต]]ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1471 เอิร์ลแห่งวอริคถูกพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดสังหารในสมรภูมิดังกล่าว เช่นเดียวกับเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ คู่เขยของดยุคแห่งแคลเรนซ์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดได้บัลลังก์กลับคืนมาและได้ตั้งดยุคแห่งแคลเรนซ์เป็นเอิร์ลแห่งวอริคและซอลส์บรีในปี ค.ศ. 1472
 
ในเดือนกันยายนของปีเดียวกันดยุคแห่งแคลเรนซ์และเอิร์ลแห่งวอริคได้ทำการรุกรานอังกฤษจนช่วยให้พระเจ้าเฮนรีที่ 6 พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์แลงคัสเตอร์ที่ถูกปลดจากตำแหน่งได้กลับคืนสู่บัลลังก์ ทว่าไม่นานดยุคแห่งแคลเรนซ์ก็เหนื่อยหน่ายกับการบริหารการปกครองของวอริคและไม่ชอบใจตนเองที่ต่อสู้เพื่อราชวงศ์แลงคัสเตอร์ จึงแอบคืนดีกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ผู้เป็นพี่ชาย ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1471 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ถูกขับไล่ออกจากประเทศเดินทางกลับมาอังกฤษ ดยุคแห่งแคลเรนซ์ได้ทอดทิ้งอดีตพันธมิตรอย่างเอิร์ลแห่งวอริคและต่อสู้อยู่ฝ่ายเดียวกับพี่ชายใน[[ยุทธการที่บาร์เนต|สมรภูมิบาร์เน็ต]]ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1471 เอิร์ลแห่งวอริคถูกพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดสังหารในสมรภูมิดังกล่าว เช่นเดียวกับเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ คู่เขยของดยุคแห่งแคลเรนซ์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดได้บัลลังก์กลับคืนมาและได้ตั้งดยุคแห่งแคลเรนซ์เป็นเอิร์ลแห่งวอริคและซอลส์บรีในปี ค.ศ. 1472
<br />
[[ไฟล์:Cardiff castle - Eingangshalle 1c Erkerfenster.jpg|thumb|หน้าต่างกระจกสีภาพจอร์จแพลนแทเจเนตและอิซาเบล เนวิลล์ ที่ปราสาทคาร์ดิฟฟ์]]
ริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ น้องชายคนเล็กของราชวงศ์ยอร์กมีแผนจะสมรสกับแอนน์ เนวิลล์ ชายาม่ายของเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ แต่ดยุคแห่งแคลเรนซ์ไม่ต้องการแบ่งทรัพย์สินที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลของเอิร์ลแห่งวอริคกับน้องชายจึงได้นำตัวน้องสาวภรรยาไปซ่อน ความพยายามของเขาถูกทำลายเมื่อริชาร์ดสืบจนรู้ว่าแอนน์อยู่ที่ไหนและให้การคุ้มกันแอนน์จนเดินทางไปถึงสถานที่คุ้มภัยแห่งนักบุญมาร์ตินในฟิลด์ สุดท้ายสองพี่น้องคืนดีกัน ริชาร์ดได้สมรสกับแอนน์ เนวิลล์ ขณะที่ในการแบ่งทรัพย์สินที่ดินของเอิร์ลแห่งวอริค ดยุคแห่งแคลเรนซ์ได้ส่วนแบ่งที่เยอะกว่า
 
 
การสมรสของดยุคแห่งแคลเรนซ์กับอิซาเบล เนวิลล์ได้ให้กำเนิดทายาทที่รอดชีวิตสองคน เป็นธิดาหนึ่งคน คือ [[มาร์กาเร็ต โพล เคาน์เตสแห่งซอลส์บรี|มาร์กาเร็ต เคาน์เตสแห่งซอลส์บรี]] และบุตรชายหนึ่งคน คือ [[เอ็ดเวิร์ด แพลนทาเจเน็ท เอิร์ลแห่งวอริคที่ 17|เอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งวอริค]] อิซาเบล เนวิลล์ถึงแก่กรรมในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1476 เพียงสองเดือนหลังให้กำเนิดริชาร์ด บุตรชายที่อายุสั้น ภายหลังดยุคแห่งแคลเรนซ์คิดการใหญ่หวังจะสมรสกับมารี ทายาทแห่งบูร์กอญ แต่ถูกพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ขัดขวางการสมรส ย้ำแผลเก่าให้ดยุคแห่งแคลเรนซ์กลับมาคิดคดต่อพี่ชายอีกครั้ง
<br />
 
== การเสียชีวิต ==
มีบันทึกว่าดยุคแห่งแคลเรนซ์มีภาวะหวาดระแวง เขาบอกตัวเองว่าภรรยาของตนถูกแองแกเรตต์ ทวีนโฮผู้เป็นข้ารับใช้วางยาพิษ เธอถูกนำตัวขึ้นศาลที่วอริค เธอถูกตัดสินให้มีความผิดโดยคณะลูกขุนที่ถูกดยุคแห่งแคลเรนซ์ควบคุมและถูกจับแขวนคอ มีบันทึกว่าดยุคแห่งแคลเรนซ์ได้ปล่อยข่าวลือว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเป็นบุตรนอกสมรสที่เกิดจากการสมรสอันผิดกฎหมายของดัชเชสเซซิลีแห่งยอร์กกับพลธนูเบลย์บอร์น และมีบันทึกว่าเขาคาใจเรื่องความสมบูรณ์ทางกฎหมายในการสมรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกับพระราชินีเอลิซาเบธ วูดวิลล์
 
 
กษัตริย์ผู้เป็นพี่ชายได้ทำการเตือนน้องชายด้วยการกล่าวหาจอห์น สแตซีย์ คนในครัวเรือนของดยุคแห่งแคลเรนซ์ว่าใช้อาคมมนตร์ดำจนถูกตัดสินให้ประหารชีวิต ดยุคแห่งแคลเรนซ์ได้ปรากฏตัวที่ห้องประชุมสภาในเวสต์มินสเตอร์และยืนกรานให้นักบวชอ่านคำตัดสินว่าสแตซีย์ไม่มีความผิด เชื่อกันว่าเขาเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังการลุกฮือใน[[เคมบริดจ์เชอร์]] พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่หมดความอดทนและถูกโน้มน้าวจนเชื่อว่าดยุคแห่งแคลเรนซ์หมายตาบัลลังก์ของพระองค์ได้กล่าวหาน้องชายของตนว่าทำตัวอยู่เหนือกฎหมายจากกรณีแขวนคอแองแกเรตต์ ทวีนโฮ จึงมีพระบัญชาให้จับกุมตัวดยุคและส่งตัวไปจองจำที่[[หอคอยแห่งลอนดอน]]ด้วยข้อหาทรยศต่อประเทศ
 
 
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1478 กษัตริย์พิจารณาคดีการจับกุมน้องชายต่อหน้าสภานิติบัญญัติ ทั้งสองสภาของสภานิติบัญญัติผ่านร่างกฎหมายริบทรัพย์ของผู้ก่อกบฏและมีคำตัดสินให้ประหารชีวิตดยุคแห่งแคลเรนซ์ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1478 ทว่าการประหารชีวิตเกิดขึ้นอย่างลับๆ ในหอคอยแห่งลอนดอนในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ขณะดยุคแห่งแคลเรนซ์มีอายุได้ 28 ปี ร่างของเขาถูกส่งไปวิหารทูว์กส์บรีเพื่อฝังเคียงข้างอิซาเบล เนวิลล์ผู้เป็นภรรยา ต่อมาร่างของเขาได้ถูกขุดขึ้นมาและพบว่าไม่มีร่องรอยของการตัดหัวซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปที่ใช้ในการประหารชีวิตขุนนางในยุคนั้น จึงเกิดเรื่องเล่าว่าการประหารชีวิตของเขาถูกจัดขึ้นในหอคอยโบวเยอร์ด้วยการจับกดในถังมาล์มซีย์ไวน์
 
 
เอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งวอริค บุตรชายของดยุคแห่งแคลเรนซ์ ด้วยมีสายเลือดใกล้ชิดกับบัลลังก์จึงถูก[[พระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 7]] จับขังไว้ในหอคอยแห่งลอนดอนและถูกประหารชีวิตในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1499 ด้วยข้อหาทรยศ มาร์กาเร็ต เคาน์เตสแห่งซอลส์บรี ธิดาของดยุคแห่งแคลเรนซ์ซึ่งเป็นแพลนแทเจเนตคนสุดท้ายถูก[[พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 8]] ประหารชีวิตในวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1541 เช่นเดียวกับเฮนรี โพล บารอนมอนตากู บุตรชายคนโตของเธอ
<br />
 
== บรรดาศักดิ์ ==
 
* ค.ศ. 1461 ดยุคแห่งแคลเรนซ์ และอัศวินแห่งการ์เตอร์
* ค.ศ. 1462 ข้าหลวงใหญ่แห่งไอร์แลนด์
* ค.ศ. 1472 เอิร์ลแห่งซอลสบรี
 
<br />
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
เส้น 83 ⟶ 68:
{{เรียงลำดับ|จอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุคแห่งแคลเรนซ์}}
 
{{birth|1449 }}
{{death|1478}}
 
 
[[หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 1992]]
[[หมวดหมู่:ขุนนางอังกฤษ]]